คค. เสนอว่า
1. โดยที่ปัจจุบันการควบคุมการกำกับดูแลการประกอบการขนส่งส่วนบุคคลไม่สามารถกระทำได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากเป็นข้อจำกัดของกฎหมายที่มิได้ให้อำนาจนายทะเบียนในการควบคุมเกี่ยวกับการบรรทุกไว้เป็นเงื่อนไขในใบอนุญาต ทำให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคลมีการใช้รถทำการขนส่งในลักษณะที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดภยันตรายแก่การขนส่ง และไม่ใส่ใจต่อการทำลายถนน เช่น บรรทุกนำหนักเกินกว่าอัตราที่ราชการกำหนด การไม่ผูกมัดรัดตรึงสินค้าที่ทำการบรรทุก หรือไม่ใช้เครื่องอุปกรณ์ที่กำหนดให้ต้องติดตั้งไว้กับรถเพื่อความปลอดภัยในการขนส่ง
2. การกระทำดังกล่าวเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ที่อัตราโทษสำหรับความผิดตามกฎหมายนี้ มีอัตราโทษที่ต่ำ และพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 ที่เน้นการลงโทษไปที่ผู้ขับรถจึงทำให้ผู้ประกอบการขนส่งไม่เกรงกลัวต่อการกระทำความผิด ทำให้การควบคุมกำกับดูแลเกี่ยวกับการบรรทุกของผู้ประกอบการขนส่งส่วนบุคคลยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
3. ดังนั้น จึงสมควรเพิ่มเติมเงื่อนไขเกี่ยวกับจำนวนที่นั่ง เกณฑ์น้ำหนักบรรทุกและมาตรฐานดำเนินการในการประกอบการขนส่งไว้ในเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคล และเพื่อให้ผู้ประกอบการขนส่งต้องได้รับโทษตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ซึ่งมีอัตราสูงพอสมควรด้วยซึ่งทำให้ผู้ประกอบการขนส่งต้องรับผิดชอบในการควบคุมกำกับการดูแลการใช้รถของผู้ประกอบการขนส่งส่วนบุคคลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
กำหนดให้นายทะเบียนกำหนดเงื่อนไขที่ต้องกำหนดไว้ในใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคล โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 และมาตรา 34 (5) แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ประกอบด้วยจำนวนที่นั่ง เกณฑ์น้ำหนักบรรทุก วิธีการบรรทุก และมาตรฐานดำเนินการในการประกอบการขนส่ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 พฤศจิกายน 2558--