คณะรัฐมนตรีพิจารณาสิทธิพิเศษด้านการรักษาพยาบาลของทหารผ่านศึกและครอบครัว ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และเห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี(นายปองพล อดิเรกสาร) เป็นประธานฯ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม2533 เรื่อง ขอสิทธิพิเศษให้ทหารผ่านศึกนอกประจำการบัตรชั้นที่ 1 และครอบครัว กับครอบครัวของทหารผ่านศึกผู้ถือบัตรชั้นที่ 1 ในส่วนที่เกี่ยวขัองกับสิทธิพิเศษด้านการรักษาพยาบาล และให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม(องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก) และสำนักงบประมาณ ไปหารือร่วมกัน เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและหาแนวทางแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติในเรื่องสิทธิพิเศษด้านการรักษาพยาบาลของทหารผ่านศึกฯ และครอบครัวให้สอดคล้องกัน และดำเนินการไปได้โดยสะดวก
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรายงานว่า เนื่องจากปัจจุบันปรากฏว่าโรงพยาบาลและสุขศาลาในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลรามาธิบดี ในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย มิได้ยกเว้นค่ารักษาพยาบาลแก่ทหารผ่านศึกฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ได้ให้สิทธิพิเศษไว้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะนายกสภาทหารผ่านศึกพิจารณาแล้ว เห็นควรยืนยันให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2533
สำหรับกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขไม่ให้ทหารผ่านศึกฯ ที่มีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทำบัตรประกันสุขภาพและใช้สิทธิพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2533 เนื่องจากเห็นว่าเป็นการใช้สิทธิซ้ำซ้อน และกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้ทหารผ่านศึกฯ ผู้ซึ่งไม่มีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ.2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องทำบัตรประกันสุขภาพ ซึ่งมีผลทำให้มีสิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลได้เฉพาะสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนตามบัตรประกันสุขภาพ นั้น โดยที่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2533 ยังไม่ได้มีการยกเลิก กระทรวงสาธารณสุขจำเป็นต้องดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวต่อไป และหากเห็นว่าการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีจะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 52 ที่กำหนดให้บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับบริการทางสาธารณสุขที่ได้มาตรฐาน กระทรวงสาธารณสุขสามารถเสนอขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีได้ ดังนั้น การจะพิจารณาว่าเป็นการใช้สิทธิซ้ำซ้อนหรือมีสิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลได้เฉพาะสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนตามบัตรประกันสุขภาพเท่านั้นหรือไม่ จึงเป็นเรื่องในทางปฏิบัติ ไม่ใช่เป็นเรื่องของนโยบาย สมควรที่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม (องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก) และสำนักงบประมาณจะนำไปหารือร่วมกัน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติให้สามารถดำเนินการไปได้โดยสะดวก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 25 ก.ย.44--
-สส-
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรายงานว่า เนื่องจากปัจจุบันปรากฏว่าโรงพยาบาลและสุขศาลาในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลรามาธิบดี ในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย มิได้ยกเว้นค่ารักษาพยาบาลแก่ทหารผ่านศึกฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ได้ให้สิทธิพิเศษไว้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะนายกสภาทหารผ่านศึกพิจารณาแล้ว เห็นควรยืนยันให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2533
สำหรับกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขไม่ให้ทหารผ่านศึกฯ ที่มีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทำบัตรประกันสุขภาพและใช้สิทธิพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2533 เนื่องจากเห็นว่าเป็นการใช้สิทธิซ้ำซ้อน และกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้ทหารผ่านศึกฯ ผู้ซึ่งไม่มีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ.2523 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องทำบัตรประกันสุขภาพ ซึ่งมีผลทำให้มีสิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลได้เฉพาะสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนตามบัตรประกันสุขภาพ นั้น โดยที่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2533 ยังไม่ได้มีการยกเลิก กระทรวงสาธารณสุขจำเป็นต้องดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวต่อไป และหากเห็นว่าการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีจะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 52 ที่กำหนดให้บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับบริการทางสาธารณสุขที่ได้มาตรฐาน กระทรวงสาธารณสุขสามารถเสนอขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีได้ ดังนั้น การจะพิจารณาว่าเป็นการใช้สิทธิซ้ำซ้อนหรือมีสิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลได้เฉพาะสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนตามบัตรประกันสุขภาพเท่านั้นหรือไม่ จึงเป็นเรื่องในทางปฏิบัติ ไม่ใช่เป็นเรื่องของนโยบาย สมควรที่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม (องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก) และสำนักงบประมาณจะนำไปหารือร่วมกัน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติให้สามารถดำเนินการไปได้โดยสะดวก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 25 ก.ย.44--
-สส-