การกำหนดให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ทำหน้าที่เป็นผู้เก็บรักษาเอกสาร เป็นตัวแทนเรียกเก็บและรับชำระหนี้

การกำหนดให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ทำหน้าที่เป็นผู้เก็บรักษาเอกสาร เป็นตัวแทนเรียกเก็บและรับชำระหนี้และกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับการโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบการกำหนดให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ทำหน้าที่เป็นผู้เก็บรักษาเอกสาร เป็นตัวแทนเรียกเก็บและรับชำระหนี้และกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับการโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ ตามที่พระราชกำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ. 2544 มาตรา 39 วรรค 2 และมาตรา 44 กำหนดว่าในการรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยจะมอบหมายให้สถาบันการเงินผู้โอนยังคงเก็บรักษาเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้ที่สถาบันการเงินหรือบริษัทบริหารสินทรัพย์ก็ได้ หรือจะมอบหมายให้สถาบันการเงินหรือบริษัทบริหารสินทรัพย์เจ้าหนี้เดิมเป็นตัวแทนเรียกเก็บและรับชำระหนี้ได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด นั้น
กระทรวงการคลังได้พิจารณาเห็นแล้วว่า เพื่อให้กระบวนการโอนและการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยรับโอนมาจากบริษัทบริหารสินทรัพย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของประเทศ จึงเห็นควรออกประกาศกระทรวงการคลังตามมาตรา 3(2) แห่งพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2541 ให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ผู้โอนทำหน้าที่เก็บรักษาเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งปวงกับลูกหนี้ที่โอน และเป็นตัวแทนเรียกเก็บและรับชำระหนี้ รวมทั้งเป็นตัวแทนหรือรับจ้างในการติดตามบริหารสินทรัพย์และกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องอันเนื่องมาจากการโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพให้แก่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 28 ส.ค.44--
-สส-