ทำเนียบรัฐบาล--16 ม.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ยืนยันการขออนุมัติงบกลางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย แล้วมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
1. วงเงินที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยืนยันของบกลางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยจากพายุ"เกมี" และร่องความกดอากาศต่ำ "มาเรีย" "หวู่คง" ได้เพิ่มขึ้นจากเดิม จำนวน 1,322,007,143 บาท เป็น 1,479,952,688 บาท โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประมาณการพื้นที่ความเสียหายเพิ่มจาก 4,144,273 ไร่ ในเดือนตุลาคม 2543 เป็น 6,088,073 ไร่ ในเดือนพฤศจิกายน 2543 เนื่องจากเป็นวงเงินที่สูง ในขณะที่งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นมีจำนวนจำกัด และรัฐบาลมีภาระด้านอื่น ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วนอีกเป็นจำนวนมากที่จะต้องดำเนินการ ดังนั้น จึงเห็นควรให้ส่วนราชการต่าง ๆ ให้ความร่วมมือในการใช้จ่ายงบประมาณอย่างรอบคอบให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย
2. สำนักงบประมาณได้เคยเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยเห็นสมควรให้กรมส่งเสริมการเกษตรใช้งบกลางในการสนับสนุนปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรที่ประสบอุทกภัยในชั้นแรกแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 564,668,000 บาท และให้ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณในกรณีที่จะเบิกจ่ายจริงอีกครั้งหนึ่ง สำหรับในส่วนของกรมประมงก็ให้เจียดจ่ายจากงบปกติของกรมประมงไปดำเนินการ เนื่องจากมีงบเหลือจ่ายเพียงพอที่จะดำเนินการได้ ประกอบกับมีข้อจำกัดด้านงบกลาง ดังนั้น ในชั้นนี้จึงขอยืนยันตามความเห็นเดิม และเห็นสมควรให้กรมส่งเสริมการเกษตรปรับแผนการดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยให้อยู่ภายในวงเงินดังกล่าว
3. เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจึงเห็นสมควรให้กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง และส่วนราชการต่าง ๆ ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติธรรมชาติพิจารณาจัดลำดับความสำคัญตามความจำเป็นเร่งด่วนตามแผนการดำเนินงานประจำปี 2544 อย่างรอบคอบ และขอให้พิจารณาใจ้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในโอกาสแรก โดยขอให้ตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณในกรณีที่จะเบิกจ่ายจริงต่อไป
4. กรณีการจัดหาปัจจัยการผลิตเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยจากพายุ "เกมี" ร่องความกดอากาศต่ำ "มาเรีย" "หวู่คง" และอุทกภัยภาคใต้ในการจัดหาพันธุ์พืช (เมล็ดพันธุ์ข้าวและพืชอายุสั้น) และปุ๋ยเคมี ตามหลักการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สามารถก่อหนี้ผูกพันงบประมาณก่อนได้รับเงินประจำงวดตามมูลค่าเท่าที่จ่ายจริงนั้น เป็นกรณีที่อยู่ในหลักการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอขอคณะรัฐมนตรีในการปรับปรุงแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติ (19 ธันวาคม 2543) อนุมัติหลักการตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแล้ว
อนึ่ง เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณเพื่อฟื้นฟูความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและอยู่ในหลักเกณฑ์มาตรฐานเดียวกัย จึงเห็นสมควรที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กระทรวงมหาดไทย พิจารณาก่อนด้วย เมื่อผลการพิจารณาเป็นประการใด ก็ขอให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณโดยตรงต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 16 ม.ค. 2544--
-สส-
คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ยืนยันการขออนุมัติงบกลางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัย แล้วมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้
1. วงเงินที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยืนยันของบกลางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยจากพายุ"เกมี" และร่องความกดอากาศต่ำ "มาเรีย" "หวู่คง" ได้เพิ่มขึ้นจากเดิม จำนวน 1,322,007,143 บาท เป็น 1,479,952,688 บาท โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประมาณการพื้นที่ความเสียหายเพิ่มจาก 4,144,273 ไร่ ในเดือนตุลาคม 2543 เป็น 6,088,073 ไร่ ในเดือนพฤศจิกายน 2543 เนื่องจากเป็นวงเงินที่สูง ในขณะที่งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นมีจำนวนจำกัด และรัฐบาลมีภาระด้านอื่น ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วนอีกเป็นจำนวนมากที่จะต้องดำเนินการ ดังนั้น จึงเห็นควรให้ส่วนราชการต่าง ๆ ให้ความร่วมมือในการใช้จ่ายงบประมาณอย่างรอบคอบให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย
2. สำนักงบประมาณได้เคยเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยเห็นสมควรให้กรมส่งเสริมการเกษตรใช้งบกลางในการสนับสนุนปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรที่ประสบอุทกภัยในชั้นแรกแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 564,668,000 บาท และให้ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณในกรณีที่จะเบิกจ่ายจริงอีกครั้งหนึ่ง สำหรับในส่วนของกรมประมงก็ให้เจียดจ่ายจากงบปกติของกรมประมงไปดำเนินการ เนื่องจากมีงบเหลือจ่ายเพียงพอที่จะดำเนินการได้ ประกอบกับมีข้อจำกัดด้านงบกลาง ดังนั้น ในชั้นนี้จึงขอยืนยันตามความเห็นเดิม และเห็นสมควรให้กรมส่งเสริมการเกษตรปรับแผนการดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยให้อยู่ภายในวงเงินดังกล่าว
3. เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจึงเห็นสมควรให้กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง และส่วนราชการต่าง ๆ ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติธรรมชาติพิจารณาจัดลำดับความสำคัญตามความจำเป็นเร่งด่วนตามแผนการดำเนินงานประจำปี 2544 อย่างรอบคอบ และขอให้พิจารณาใจ้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในโอกาสแรก โดยขอให้ตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณในกรณีที่จะเบิกจ่ายจริงต่อไป
4. กรณีการจัดหาปัจจัยการผลิตเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยจากพายุ "เกมี" ร่องความกดอากาศต่ำ "มาเรีย" "หวู่คง" และอุทกภัยภาคใต้ในการจัดหาพันธุ์พืช (เมล็ดพันธุ์ข้าวและพืชอายุสั้น) และปุ๋ยเคมี ตามหลักการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สามารถก่อหนี้ผูกพันงบประมาณก่อนได้รับเงินประจำงวดตามมูลค่าเท่าที่จ่ายจริงนั้น เป็นกรณีที่อยู่ในหลักการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอขอคณะรัฐมนตรีในการปรับปรุงแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติ (19 ธันวาคม 2543) อนุมัติหลักการตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแล้ว
อนึ่ง เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณเพื่อฟื้นฟูความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและอยู่ในหลักเกณฑ์มาตรฐานเดียวกัย จึงเห็นสมควรที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กระทรวงมหาดไทย พิจารณาก่อนด้วย เมื่อผลการพิจารณาเป็นประการใด ก็ขอให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณโดยตรงต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 16 ม.ค. 2544--
-สส-