คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกโฟลตสีตัดแสงต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่า เนื่องจากปัจจุบันมีการนำกระจกโฟลตสีตัดแสงที่มีคุณภาพต่ำ ราคาถูกและไม่เป็นไปตามมาตรฐานจากต่างประเทศมาจำหน่ายในประเทศเป็นจำนวนมาก เมื่อนำไปใช้อาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายและเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน สมควรกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกโฟลตสีตัดแสงต้องเป็นไปตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัย และป้องกันความเสียหายอันอาจจะเกิดแก่ประชาชน ทั้งนี้ได้มีการดำเนินการตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 โดยประกาศโฆษณาตามวิธีการที่กำหนด ปรากฏว่ามีผู้คัดค้าน และได้มีคำวินิจฉัยให้อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายใน 30 วัน เมื่อพ้นกำหนดแล้วไม่ปรากฏว่ามีผู้อุทธรณ์
ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดให้พระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
2. กำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกโฟลตสีตัดแสงต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เลขที่ มอก. 1344 -2541 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 2132 (พ.ศ. 2539) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกโฟลตสีตัดแสง ลงวันที่ 11เมษายน พ.ศ. 2539 และประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 2367 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง แก้ไขมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกโฟลตสีตัดแสง (แก้ไขครั้งที่ 1) ลงวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2541
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร)--วันที่ 10 เม.ย.2544
-สส-
กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่า เนื่องจากปัจจุบันมีการนำกระจกโฟลตสีตัดแสงที่มีคุณภาพต่ำ ราคาถูกและไม่เป็นไปตามมาตรฐานจากต่างประเทศมาจำหน่ายในประเทศเป็นจำนวนมาก เมื่อนำไปใช้อาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายและเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน สมควรกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกโฟลตสีตัดแสงต้องเป็นไปตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัย และป้องกันความเสียหายอันอาจจะเกิดแก่ประชาชน ทั้งนี้ได้มีการดำเนินการตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 โดยประกาศโฆษณาตามวิธีการที่กำหนด ปรากฏว่ามีผู้คัดค้าน และได้มีคำวินิจฉัยให้อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายใน 30 วัน เมื่อพ้นกำหนดแล้วไม่ปรากฏว่ามีผู้อุทธรณ์
ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดให้พระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
2. กำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกโฟลตสีตัดแสงต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เลขที่ มอก. 1344 -2541 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 2132 (พ.ศ. 2539) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกโฟลตสีตัดแสง ลงวันที่ 11เมษายน พ.ศ. 2539 และประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 2367 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง แก้ไขมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระจกโฟลตสีตัดแสง (แก้ไขครั้งที่ 1) ลงวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2541
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร)--วันที่ 10 เม.ย.2544
-สส-