ทำเนียบรัฐบาล--1 พ.ย..--นิวส์สแตนด์
การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐโครเอเชียว่าด้วยการยกเลิกการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติการจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐโครเอเชียว่าด้วยการยกเลิกการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ร่างความตกลงดังกล่าว มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. คนชาติของคู่ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ถือหนังสือเดินทางทูตหรือราชการที่ยังมีผลใช้ได้ของภาคีฝ่ายนั้นจะได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ในดินแดนของประเทศภาคีอีกฝ่ายหนึ่งเป็นระยะเวลาไม่เกินเก้าสิบวันโดยไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจลงตรา โดยมีเงื่อนไขว่าบุคคลเหล่านั้นจะไม่ทำงานในประเทศดังกล่าว ไม่ว่าการทำงานนั้นจะเป็นการดำเนินกิจการของตนเองหรือเป็นอย่างอื่น
2. คนชาติของคู่ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ถือหนังสือเดินทางทูตหรือราชการที่ยังมีผลใช้ได้ของภาคีฝ่ายนั้นซึ่งเป็นบุคคลในคณะทูตหรือกงสุลในประเทศของภาคีอีกฝ่ายหนึ่งดังกล่าว ตลอดจนสมาชิกในครอบครัวที่ถือหนังสือเดินทางทูตหรือราชการที่ยังมีผลใช้ได้ จะได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ในประเทศภาคีอีกฝ่ายหนึ่งเป็นระยะเวลาไม่เกินเก้าสิบวันโดยไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจลงตราระยะเวลาเช่นว่านั้น จะได้รับการขยายไปจนเสร็จสิ้นวาระการปฏิบัติหน้าที่ของบุคคลผู้นั้นเมื่อมีการร้องขอจากกระทรวงการต่างประเทศหรือสถานเอกอัครราชทูตของภาคีฝ่ายแรก
3. เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สงวนสิทธิที่จะปฏิเสธการเข้าประเทศหรือยกเลิกการพำนักของบุคคลใด ๆ ที่มีสิทธิได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราภายใต้ความตกลงนี้ ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของสาธารณะหรือความมั่นคงของรัฐ
4. ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของสาธารณะภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจระงับการใช้ความตกลงนี้บางส่วนหรือทั้งหมดเป็นการชั่วคราว โดยจะแจ้งภาคีอีกฝ่ายหนึ่งทราบถึงการเริ่มต้นและการสิ้นสุดของการระงับใช้ดังกล่าวโดยทันทีผ่านวิถีทางการทูต
5. ความตกลงนี้จัดทำขึ้นโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา เว้นแต่ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะบอกเลิกความตกลง โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ภาคีอีกฝ่ายทราบล่วงหน้าเป็นเวลาเก้าสิบวัน ความตกลงนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเวลาหกสิบวันนับจากวันที่ในหนังสือฉบับหลังซึ่งภาคีคู่สัญญาแจ้งแก่กันว่า ข้อกำหนดของกฎหมายภายในเกี่ยวกับการบังคับใช้ความตกลงฯ ได้รับการปฏิบัติตามแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 31 ต.ค. 2543--
-สส-
การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐโครเอเชียว่าด้วยการยกเลิกการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติการจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐโครเอเชียว่าด้วยการยกเลิกการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ร่างความตกลงดังกล่าว มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. คนชาติของคู่ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ถือหนังสือเดินทางทูตหรือราชการที่ยังมีผลใช้ได้ของภาคีฝ่ายนั้นจะได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ในดินแดนของประเทศภาคีอีกฝ่ายหนึ่งเป็นระยะเวลาไม่เกินเก้าสิบวันโดยไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจลงตรา โดยมีเงื่อนไขว่าบุคคลเหล่านั้นจะไม่ทำงานในประเทศดังกล่าว ไม่ว่าการทำงานนั้นจะเป็นการดำเนินกิจการของตนเองหรือเป็นอย่างอื่น
2. คนชาติของคู่ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ถือหนังสือเดินทางทูตหรือราชการที่ยังมีผลใช้ได้ของภาคีฝ่ายนั้นซึ่งเป็นบุคคลในคณะทูตหรือกงสุลในประเทศของภาคีอีกฝ่ายหนึ่งดังกล่าว ตลอดจนสมาชิกในครอบครัวที่ถือหนังสือเดินทางทูตหรือราชการที่ยังมีผลใช้ได้ จะได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่ในประเทศภาคีอีกฝ่ายหนึ่งเป็นระยะเวลาไม่เกินเก้าสิบวันโดยไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจลงตราระยะเวลาเช่นว่านั้น จะได้รับการขยายไปจนเสร็จสิ้นวาระการปฏิบัติหน้าที่ของบุคคลผู้นั้นเมื่อมีการร้องขอจากกระทรวงการต่างประเทศหรือสถานเอกอัครราชทูตของภาคีฝ่ายแรก
3. เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สงวนสิทธิที่จะปฏิเสธการเข้าประเทศหรือยกเลิกการพำนักของบุคคลใด ๆ ที่มีสิทธิได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราภายใต้ความตกลงนี้ ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของสาธารณะหรือความมั่นคงของรัฐ
4. ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของสาธารณะภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจระงับการใช้ความตกลงนี้บางส่วนหรือทั้งหมดเป็นการชั่วคราว โดยจะแจ้งภาคีอีกฝ่ายหนึ่งทราบถึงการเริ่มต้นและการสิ้นสุดของการระงับใช้ดังกล่าวโดยทันทีผ่านวิถีทางการทูต
5. ความตกลงนี้จัดทำขึ้นโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา เว้นแต่ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะบอกเลิกความตกลง โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ภาคีอีกฝ่ายทราบล่วงหน้าเป็นเวลาเก้าสิบวัน ความตกลงนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเวลาหกสิบวันนับจากวันที่ในหนังสือฉบับหลังซึ่งภาคีคู่สัญญาแจ้งแก่กันว่า ข้อกำหนดของกฎหมายภายในเกี่ยวกับการบังคับใช้ความตกลงฯ ได้รับการปฏิบัติตามแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 31 ต.ค. 2543--
-สส-