ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวการเมือง Tuesday December 1, 2015 15:39 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 ดังนี้

สาระสำคัญของเรื่อง

สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ทำการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเป็นประจำทุกเดือน โดยสอบถามประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่าง ทุกจังหวัดทั่วประเทศมีครัวเรือนตกเป็นตัวอย่าง 27,960 ครัวเรือนต่อเดือน คิดเป็นจำนวนประชากรที่ตกเป็นตัวอย่างทั้งสิ้นประมาณ 97,860 คน ซึ่งขนาดตัวอย่างดังกล่าวนำเสนอข้อมูลในระดับ ภาค และยอดรวมทั้งประเทศ สำหรับแนวคิดและคำนิยามที่ใช้ในการสำรวจใช้ตามสภาพที่เหมาะสมกับประเทศไทย และตามข้อเสนอแนะขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และหน่วยงานสหประชาชาติ (UN) ซึ่งเป็นมาตรฐานทางสถิติที่ประเทศต่าง ๆ นำไปใช้ในการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเพื่อให้ได้ข้อมูลการทำงาน การว่างงาน และการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจของประชากร ที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ในระหว่างประเทศ

สำหรับในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 ในภาพรวมสถานการณ์แรงงานมีจำนวน ผู้ทำงานเพิ่มขึ้น 1.7 แสนคน (จาก 37.92 ล้านคน เป็น 38.09 ล้านคน) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 ส่วนจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 3.9 หมื่นคน (จาก 2.89 แสนคน เป็น 3.28 แสนคน) สำหรับสาระสำคัญการสำรวจสรุปได้ ดังนี้

1. ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน

ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน มีจำนวนทั้งสิ้น 38.47 ล้านคน ประกอบด้วย ผู้มีงานทำ 38.09 ล้านคน ผู้ว่างงาน 3.28 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 5.32 หมื่นคน ทั้งนี้ ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 จำนวน 1.6 แสนคน (จาก 38.31 ล้านคน เป็น 38.47 ล้านคน)

2. ผู้มีงานทำ

ผู้มีงานทำ 38.09 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 จำนวน 1.7 แสนคน (จาก 37.92 ล้านคน เป็น 38.09 ล้านคน) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ซึ่งมีผู้ทำงานเพิ่มขึ้นและลดลง ในสาขาต่างๆ ดังนี้

2.1 ผู้ทำงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ สาขาการผลิต 1.4 แสนคน (จาก 6.63 ล้านคน เป็น 6.77 ล้านคน) สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 1.1 แสนคน (จาก 2.56 ล้านคน เป็น 2.67 ล้านคน) สาขากิจกรรมด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ 8.0 หมื่นคน (จาก 0.61 ล้านคน เป็น 0.69 ล้านคน) สาขาการศึกษา 5.0 หมื่นคน (จาก 1.13 ล้านคน เป็น 1.18 ล้านคน) สาขากิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย 4.0 หมื่นคน (จาก 0.50 ล้านคน เป็น 0.54 ล้านคน) สาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ 2.0 หมื่นคน (จาก 0.20 ล้านคน เป็น 0.22 ล้านคน) และที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่น ๆ

2.2 ผู้ทำงานลดลง ได้แก่ สาขาเกษตรกรรม 1.9 แสนคน (จาก 12.28 ล้านคน เป็น 12.09 ล้านคน) สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 1.0 แสนคน (จาก 1.32 ล้านคน เป็น 1.22 ล้านคน) สาขาการก่อสร้าง 9.0 หมื่นคน (จาก 2.15 ล้านคน เป็น 2.06 ล้านคน) สาขาการขายส่งการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และรถจักรยานยนต์ 5.0 หมื่นคน (จาก 6.23 ล้านคน เป็น 6.18 ล้านคน) สาขากิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ เช่น กิจกรรมบริการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกาย การดูแลสัตว์เลี้ยง การบริการซักรีดและซักแห้ง เป็นต้น 3.0 หมื่นคน (จาก 0.74 ล้านคน เป็น 0.71 ล้านคน) สาขาการบริหารราชการ การป้องกันประเทศ และการประกันสังคมภาคบังคับ 2.0 หมื่นคน (จาก 1.65 ล้านคน เป็น 1.63 ล้านคน)

3. ผู้ว่างงาน

3.1 ผู้ว่างงานทั่วประเทศมีจำนวน 3.28 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงาน ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวม (เพิ่มขึ้น 3.9 หมื่นคน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557) ประกอบด้วย ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 1.47 แสนคน อีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 1.81 แสนคน โดยเป็นผู้ว่างงานที่มาจากภาคการผลิต 9.8 หมื่นคน ภาคการบริการและการค้า 7.2 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 1.1 หมื่นคน

3.2 ผู้ว่างงานเป็นผู้มีการศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา 1.42 แสนคน ระดับประถมศึกษา 5.6 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 5.3 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 5.1 หมื่นคน และผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 2.6 หมื่นคน

3.3 ผู้ว่างงานส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง 9.1 หมื่นคน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7.0 หมื่นคน กรุงเทพมหานคร 6.2 หมื่นคน ภาคใต้ 5.5 หมื่นคน และภาคเหนือ 5.0 หมื่นคน หากคิดเป็นอัตรา การว่างงาน กรุงเทพมหานครมีอัตราการว่างงานสูงสุดร้อยละ 1.2 รองลงมาเป็นภาคใต้ร้อยละ 1.1 ภาคกลาง และภาคเหนือมีอัตราการว่างงานเท่ากันคือร้อยละ 0.8 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 0.7

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 ธันวาคม 2558--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ