ทำเนียบรัฐบาล--8 ส.ค.--นิวส์สแตนด์
7. เรื่อง การออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 ครั้งที่ 12
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 ครั้งที่ 12 ในวงเงิน 54.0 ล้านบาท ให้แก่บริษัทเงินทุนเอกชาติ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ขอรับความช่วยเหลือตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ซึ่งคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (กปส.) ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของทางการที่จะสนับสนุนให้สถาบันการเงินที่ประสบปัญหาในการเพิ่มเงินกองทุน สามารถขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเงินกองทุนจากทางการได้ตามมาตรการ 14 สิงหาคม 2541 และเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงได้อนุมัติเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2543 ในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 แก่บริษัทเงินทุนเอกชาติ จำกัด (มหาชน) โดยให้กระทรวงการคลังเข้าซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิของบริษัทเงินทุนเอกชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเงิน 54.0 ล้านบาท โดยบริษัทเงินทุนเอกชาติ จำกัด (มหาชน) จะต้องนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวทั้งหมดไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ในการนี้ กระทรวงการคลังจะต้องออกพันธบัตรรัฐบาลในจำนวนที่เท่ากัน โดยกำหนดให้พันธบัตรรัฐบาลใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะ 1 ปี เฉลี่ยของ 5 ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ ณ วันที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติ ลบร้อยละ 1 พันธบัตรมีอายุ 10 ปี ซึ่งจะเป็นการปฏิบัติเช่นเดียวกับที่ผ่านมา โดยกระทรวงการคลังได้ออกประกาศจำหน่ายพันธบัตรไปแล้วเมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2543 ในวงเงิน 54.0 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.75 ต่อปี อายุพันธบัตร 10 ปี ทั้งนี้ เมื่อออกพันธบัตรในครั้งนี้แล้ว จะยังคงมีวงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 เหลืออยู่อีก จำนวน 229,318.0 ล้านบาท
ทั้งนี้ เรื่องนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการให้กระทรวงการคลังเป็นผู้กู้เงินตามโครงการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เข้าร่วมโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 โดยการออกพันธบัตร แล้วให้กระทรวงการคลังรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นคราว ๆ ไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 8 ส.ค. 2543--
-สส-
7. เรื่อง การออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 ครั้งที่ 12
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการออกพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 ครั้งที่ 12 ในวงเงิน 54.0 ล้านบาท ให้แก่บริษัทเงินทุนเอกชาติ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ขอรับความช่วยเหลือตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 ซึ่งคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (กปส.) ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของทางการที่จะสนับสนุนให้สถาบันการเงินที่ประสบปัญหาในการเพิ่มเงินกองทุน สามารถขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเงินกองทุนจากทางการได้ตามมาตรการ 14 สิงหาคม 2541 และเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงได้อนุมัติเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2543 ในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 2 แก่บริษัทเงินทุนเอกชาติ จำกัด (มหาชน) โดยให้กระทรวงการคลังเข้าซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิของบริษัทเงินทุนเอกชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเงิน 54.0 ล้านบาท โดยบริษัทเงินทุนเอกชาติ จำกัด (มหาชน) จะต้องนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวทั้งหมดไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ในการนี้ กระทรวงการคลังจะต้องออกพันธบัตรรัฐบาลในจำนวนที่เท่ากัน โดยกำหนดให้พันธบัตรรัฐบาลใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะ 1 ปี เฉลี่ยของ 5 ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ ณ วันที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติ ลบร้อยละ 1 พันธบัตรมีอายุ 10 ปี ซึ่งจะเป็นการปฏิบัติเช่นเดียวกับที่ผ่านมา โดยกระทรวงการคลังได้ออกประกาศจำหน่ายพันธบัตรไปแล้วเมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2543 ในวงเงิน 54.0 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.75 ต่อปี อายุพันธบัตร 10 ปี ทั้งนี้ เมื่อออกพันธบัตรในครั้งนี้แล้ว จะยังคงมีวงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือตามโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 เหลืออยู่อีก จำนวน 229,318.0 ล้านบาท
ทั้งนี้ เรื่องนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการให้กระทรวงการคลังเป็นผู้กู้เงินตามโครงการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เข้าร่วมโครงการช่วยเพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 โดยการออกพันธบัตร แล้วให้กระทรวงการคลังรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นคราว ๆ ไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 8 ส.ค. 2543--
-สส-