ทำเนียบรัฐบาล--11 เม.ย.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีรับทราบการประกาศขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศ ยานพาหนะ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องผ่านเข้า - ออก เพื่อไปปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมและให้ความช่วยเหลือชาวกัมพูชา จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2543 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า
1. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้จัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2543 ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการให้กระทรวงมหาดไทยขยายเวลาการเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่ออำนวยความสะดวกให้องค์กร Medecins Sans Frontieres (MSF) และสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เดินทางเข้าไปปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมในพื้นที่อันลองเวง และโอร์เสม็ด กัมพูชา ผ่านทางบริเวณชายแดนไทยช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ และช่องจอม จังหวัดสุรินทร์
2. กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในการที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะการเสริมสร้างให้กัมพูชามีเสถียรภาพและความสงบเรียบร้อยการอยู่ร่วมกันอย่างฉันท์มิตร ตลอดจนการส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในกัมพูชา และเป็นไปตามมติที่ประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2543 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 11 และมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ประกาศขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศ ยานพาหนะและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องผ่านเข้า - ออก เพื่อไปปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมและให้ความช่วยเหลือชาวกัมพูชาจนถึงวันที่31 ธันวาคม 2543 ดังนี้
1. คณะแพทย์พยาบาลขององค์กร Medecins Sans Frontieres (MSF) จำนวน 26 คน ผ่านเข้า - ออก บริเวณช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ
2. เจ้าหน้าที่ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และ NGOs ที่ร่วมโครงการ QIPs จำนวน 51 คน ผ่านเข้า - ออก บริเวณช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 เมษายน 2543--
คณะรัฐมนตรีรับทราบการประกาศขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศ ยานพาหนะ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องผ่านเข้า - ออก เพื่อไปปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมและให้ความช่วยเหลือชาวกัมพูชา จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2543 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า
1. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้จัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2543 ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการให้กระทรวงมหาดไทยขยายเวลาการเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่ออำนวยความสะดวกให้องค์กร Medecins Sans Frontieres (MSF) และสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เดินทางเข้าไปปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมในพื้นที่อันลองเวง และโอร์เสม็ด กัมพูชา ผ่านทางบริเวณชายแดนไทยช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ และช่องจอม จังหวัดสุรินทร์
2. กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในการที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะการเสริมสร้างให้กัมพูชามีเสถียรภาพและความสงบเรียบร้อยการอยู่ร่วมกันอย่างฉันท์มิตร ตลอดจนการส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในกัมพูชา และเป็นไปตามมติที่ประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2543 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 11 และมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ประกาศขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศ ยานพาหนะและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องผ่านเข้า - ออก เพื่อไปปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมและให้ความช่วยเหลือชาวกัมพูชาจนถึงวันที่31 ธันวาคม 2543 ดังนี้
1. คณะแพทย์พยาบาลขององค์กร Medecins Sans Frontieres (MSF) จำนวน 26 คน ผ่านเข้า - ออก บริเวณช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ
2. เจ้าหน้าที่ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และ NGOs ที่ร่วมโครงการ QIPs จำนวน 51 คน ผ่านเข้า - ออก บริเวณช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ และช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 เมษายน 2543--