เรื่อง การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรโมร็อกโกว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต หนังสือเดินทางราชการและหนังสือเดินทางพิเศษ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้
1. ยืนยันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2548 และ 28 สิงหาคม 2555 ที่เห็นชอบต่อร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรโมร็อกโกว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต หนังสือเดินทางราชการและหนังสือเดินทางพิเศษ โดยหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่กระทบต่อสาระสำคัญของร่างความตกลงฯ และไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทยให้ กต. สามารถพิจาณาดำเนินการได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในความตกลงฯ
3. ในกรณีที่ผู้ลงนามความตกลงฯ มิใช่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้ กต. ดำเนินการจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ปลัดกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนสำหรับการลงนามความตกลงฯ
สาระสำคัญของเรื่อง
ร่างความตกลงฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นกลไกในการส่งเสริมความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน และสนับสนุนการแลกเปลี่ยนการเยือนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งร่างความตกลงมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. คนชาติแห่งราชอาณาจักรไทยซึ่งถือหนังสือเดินทางทูตหรือหนังสือเดินทางราชการที่มีอายุใช้ได้ของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และคนชาติของราชอาณาจักรโมร็อกโกซึ่งถือหนังสือเดินทางทูต หนังสือเดินทางราชการ หรือหนังสือเดินทางพิเศษที่มีอายุใช้ได้ของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรโมร็อกโก ไม่จำเป็นต้องได้รับการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางเข้าไปยัง ผ่าน พำนักอยู่ หรือออกจากดินแดนของภาคีอีกฝ่ายมีกำหนดระยะเวลาไม่เกินเก้าสิบวันนับตั้งแต่วันที่เดินทางเข้าประเทศ
2. ทั้งสองฝ่ายสามารถระงับการปฏิบัติตามบางส่วนหรือทั้งหมดของความตกลงได้ หากมีเหตุจำเป็นด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบเป็นลายลักษณ์อักษร
3. จะต้องแลกเปลี่ยนตัวอย่างหนังสือเดินทางและข้อมูลเกี่ยวกับการขอทำหนังสือเดินทางภายใน 30 วัน หลังจากการลงนาม และหากมีการปรับปรุง แก้ไขข้อบทกฎหมายเกี่ยวกับการเดินทางเข้า – ออก และการพำนักอยู่ของชาวต่างชาติก็จะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ
4. ในกรณีที่มีการแก้ไขรูปแบบหนังสือเดินทางก็จะต้องจัดส่งตัวอย่างหนังสือเดินทางแบบใหม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบภายใน 60 วัน ก่อนการใช้หนังสือเดินทางแบบใหม่ดังกล่าว
5. ความตกลงนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่หกสิบนับจากวันที่ลงนามและทั้งสองฝ่ายสามารถขอยกเลิกความตกลงได้โดยการแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบเป็นลายลักษณ์อักษรโดยผ่านช่องทางการทูต และความตกลงจะสิ้นสุดในวันที่เก้าสิบหลังจากวันที่แจ้ง
ร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางทูต หนังสือเดินทางราชการ และหนังสือเดินทางพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้า – ออก และพำนักในดินแดนของแต่ละฝ่าย โดยมีบริบทที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้นร่างความตกลงดังกล่าวจึงเป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 23 แต่ไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 23 วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ที่จะต้องขอความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 ธันวาคม 2558--