แท็ก
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
คณะรัฐมนตรี
กฤษฎีกา
คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอแล้วมีมติอนุมัติในหลักการตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยให้แก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้
1. ให้รองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับเบี้ยประชุมเดือนละ 9,000 บาท
ทั้งนี้ เดิมร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว กำหนดให้สมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ ได้รับเบี้ยประชุมเหมาจ่ายรายเดือนให้เฉพาะเดือนที่มีการประชุมและเฉพาะผู้ที่เข้าประชุม โดยประธานสภาที่ปรึกษาฯ ได้รับเบี้ยประชุมเดือนละ10,000 บาท รองประธานและสมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ ได้รับเบี้ยประชุมเดือนละ 8,000 บาท
2. ให้ตัดร่างมาตรา 5 แห่งร่างพระราชกฤษฎีกาฯ กำหนดให้บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะทำงานมีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการในอัตราเดียวกับข้าราชการผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 9 แต่เนื่องจากมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2543 มิได้มีบทบัญญัติให้บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะทำงานมีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จึงเห็นสมควรตัดมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ ดังกล่าวออก เนื่องจากไม่สอดคล้องกับมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2543
3. ในร่างมาตรา 6 การกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในการประสานงานกับหน่วยงานหรือบุคคลใด หรือจัดประชุมเพื่อขอความคิดเห็นหรือขอข้อมูลใด ๆ ให้สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกำหนดระเบียบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าว โดยผ่านความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง เนื่องจากการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะมีหลักเกณฑ์ อัตรา และรายละเอียดในการพิจารณาเป็นจำนวนมาก
4. สำหรับค่าใช้จ่ายที่ขอกำหนดเพิ่มเติมเพื่อการอำนวยความสะดวกและเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงานของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินั้น โดยที่มาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2543 บัญญัติให้เฉพาะสมาชิกสภาเท่านั้นที่มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ดังนั้น การกำหนดให้สมาชิกได้รับเงินเพิ่มในลักษณะอื่นที่มิใช่เบี้ยประชุมหรือค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและกำหนดให้คณะทำงานที่สภาที่ปรึกษาฯ แต่งตั้งได้รับเบี้ยประชุม จึงไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย จึงเห็นควรให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับไปพิจารณาทบทวนร่วมกับกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป ทั้งนี้ ให้นำความเห็นของสำนักงาน สำนักงาน ก.พ. สำนักงบประมาณ และผู้แทนกระทรวงการคลังไปพิจารณาด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 ส.ค.44--
-สส-
1. ให้รองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับเบี้ยประชุมเดือนละ 9,000 บาท
ทั้งนี้ เดิมร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว กำหนดให้สมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ ได้รับเบี้ยประชุมเหมาจ่ายรายเดือนให้เฉพาะเดือนที่มีการประชุมและเฉพาะผู้ที่เข้าประชุม โดยประธานสภาที่ปรึกษาฯ ได้รับเบี้ยประชุมเดือนละ10,000 บาท รองประธานและสมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ ได้รับเบี้ยประชุมเดือนละ 8,000 บาท
2. ให้ตัดร่างมาตรา 5 แห่งร่างพระราชกฤษฎีกาฯ กำหนดให้บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะทำงานมีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการในอัตราเดียวกับข้าราชการผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 9 แต่เนื่องจากมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2543 มิได้มีบทบัญญัติให้บุคคลที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะทำงานมีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จึงเห็นสมควรตัดมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ ดังกล่าวออก เนื่องจากไม่สอดคล้องกับมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2543
3. ในร่างมาตรา 6 การกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในการประสานงานกับหน่วยงานหรือบุคคลใด หรือจัดประชุมเพื่อขอความคิดเห็นหรือขอข้อมูลใด ๆ ให้สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกำหนดระเบียบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าว โดยผ่านความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง เนื่องจากการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะมีหลักเกณฑ์ อัตรา และรายละเอียดในการพิจารณาเป็นจำนวนมาก
4. สำหรับค่าใช้จ่ายที่ขอกำหนดเพิ่มเติมเพื่อการอำนวยความสะดวกและเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงานของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินั้น โดยที่มาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2543 บัญญัติให้เฉพาะสมาชิกสภาเท่านั้นที่มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ดังนั้น การกำหนดให้สมาชิกได้รับเงินเพิ่มในลักษณะอื่นที่มิใช่เบี้ยประชุมหรือค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและกำหนดให้คณะทำงานที่สภาที่ปรึกษาฯ แต่งตั้งได้รับเบี้ยประชุม จึงไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย จึงเห็นควรให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับไปพิจารณาทบทวนร่วมกับกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป ทั้งนี้ ให้นำความเห็นของสำนักงาน สำนักงาน ก.พ. สำนักงบประมาณ และผู้แทนกระทรวงการคลังไปพิจารณาด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 ส.ค.44--
-สส-