คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ....ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
1. กำหนดให้การจัดตั้งศาลและความเชื่อมโยงกับพระธรรมนูญศาลยุติธรรมโดยยกฐานะแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐในศาลอาญาและจัดตั้งขึ้นเป็นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาคขึ้นโดยกำหนดให้เป็นศาลชั้นต้นตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม
2. กำหนดให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีเขตตลอดกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาคมีเขตตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาเปิดทำการ โดยมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบและคดีที่มีกฎหมายกำหนดให้อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
3. กำหนดมิให้ศาลชั้นต้นอื่นรับคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบไว้พิจารณาพิพากษา และให้ประธานศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยว่าคดีใดอยู่ในอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบหรือไม่
4. กำหนดให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาคมีอธิบดีผู้พิพากษาศาลละหนึ่งคนและรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลละหนึ่งคน แต่ในกรณีที่มีความจำเป็น เพื่อประโยชน์ในทางราชการ จะกำหนดให้มีรองอธิบดีผู้พิพากษาเพิ่มขึ้นได้แต่ต้องไม่เกินสามคน
5. กำหนดแต่งตั้งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะ โดยให้แต่งตั้งจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลมาแล้ว และแต่งตั้งผู้พิพากษา โดยให้แต่งตั้งจากผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้พิพากษามาแล้วไม่น้อยกว่าสิบปี
6. กำหนดให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบมีอำนาจออกไปนั่งพิจารณาที่ศาลชั้นต้นอื่นที่อยู่ในเขตท้องที่ของศาลนั้นได้โดยจะใช้เจ้าหน้าที่ธุรการของศาลนั้นเองหรือของศาลชั้นต้นที่ไปนั่งพิจารณาทำหน้าที่ช่วยเหลือในการพิจารณาพิพากษาคดีก็ได้
7. กำหนดบทเฉพาะกาลในกรณีที่ยังไม่ได้เปิดทำการศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ศาลชั้นต้นที่มีอยู่พิจารณาพิพากษาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไปได้และกรณีเมื่อมีการเปิดทำการศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค ให้ศาลชั้นต้นที่มีคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบค้างพิจารณาอยู่คงมีอำนาจพิจารณาต่อไปจนเสร็จ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 ธันวาคม 2558--