แท็ก
กระทรวงพาณิชย์
ทำเนียบรัฐบาล--11 ก.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ แนวทางการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและพร้อมรับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าว่า การแก้ไขปัญหาและพัฒนาสินค้าเกษตรไทย จะต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบตั้งแต่การผลิต การปรับปรุงคุณภาพ และการแปรรูป ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาระบบตลาด สนับสนุนการระบายสินค้า เพื่อให้ได้ราคาที่สูงขึ้น การพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรให้ขยายฐานมากขึ้น และการกำหนดบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนระหว่างภาครัฐ เกษตรกรและชุมชน และภาคเอกชนในการพัฒนาการเกษตร สรุปได้ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างภาคเกษตรเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
1) การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรที่สอดคล้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่น และมีการถ่ายทอดไปสู่เกษตรกรเพื่อลดต้นทุนการผลิต และปรับปรุงคุณภาพสินค้าเกษตร
2) การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรให้สามารถดำเนินกิจกรรมด้านการผลิตและการตลาด ตลอดจนการแปรรูปสินค้าเกษตร
3) การสนับสนุนให้มีปัจจัยการผลิตคุณภาพดีที่จำเป็นและสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร เช่น เมล็ดพันธุ์ดี การใช้ปุ๋ยชีวภาพผสมผสานกับปุ๋ยเคมีอย่างเหมาะสม สินเชื่อเพื่อการผลิต
4) การกำหนดมาตรฐานและรับรองคุณภาพสินค้าเกษตร
5) การจัดหาและใช้น้ำเพื่อการผลิตทางการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ
2. การพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรให้ขยายฐานการผลิตมากขึ้น ควบคู่ไปกับการรักษาคุณภาพสินค้าตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การแปรรูปและการจัดจำหน่าย
1) การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรใหม่ ๆ เพื่อสนองและสร้างความต้องการด้านการตลาด
2) การสนับสนุนครัวเรือนเกษตรกรในการแปรรูปสินค้าเกษตรในท้องถิ่น
3) การสนับสนุนให้มีความเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกรและโรงงานแปรรูป
3. การพัฒนาระบบตลาดให้สามารถสนับสนุนการกระจายสินค้าเกษตร เพื่อให้ได้ราคาที่สูงขึ้น
1) การพัฒนาระบบตลาดท้องถิ่น ตลาดกลางและตลาดซื้อขายล่วงหน้า
2) จัดทำระบบเครือข่ายเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารการผลิตและการตลาดที่ทันต่อเหตุการณ์ สนับสนุนให้แก่เกษตรกรอย่างทั่วถึง
3) สนับสนุนการพัฒนามาตรฐานคุณภาพสินค้าเกษตร ตลอดจนการบรรจุหีบห่อเพื่อเพิ่มมูลค่าและสามารถแข่งขันในตลาดโลก
4. การปรับโครงสร้างการบริหารจัดการการพัฒนาการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ และมีระบบการประสานงานที่ดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน เกษตรกรและชุมชน โดยมีการกำหนดบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนระหว่างภาครัฐ เอกชน เกษตรกรและชุมชน ดังนี้
1) ภาครัฐ ควรจัดให้มีระบบการประสานงานระหว่างกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา เช่น ด้านพันธุ์ การใช้ปุ๋ยชีวภาพ เทคโนโลยีการเกษตร การจัดมาตรฐานสินค้าและการตรวจสอบมาตรฐานสินค้า การปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้ออำนวยต่อการผลิตและการแปรรูป การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของการผลิตการเกษตรที่สำคัญ เช่น การใช้ประโยชน์จากระบบชลประทาน การจัดตั้งตลาดกลาง ตลาดซื้อขายล่วงหน้า เป็นต้น
2) เกษตรกร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในระดับไร่นา โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงคุณภาพสินค้าเกษตรในแต่ละขั้นตอนของการผลิต เพื่อให้ได้สินค้าที่ได้มาตรฐานตามความต้องการของตลาด ร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนและสถาบันเกษตรกร และการดำเนินธุรกิจในท้องถิ่น
3) ภาคเอกชน สนับสนุนเกษตรกรในการเพิ่มคุณภาพสินค้าเกษตร การลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพการวิจัยและพัฒนาสินค้ามาตรฐานที่ตลาดโลกต้องการ ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และมีมาตรฐานสุขอนามัยตามข้อตกลงระหว่างประเทศ สนับสนุนการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรในการแปรรูปเป็นสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรให้กว้างขวางขึ้น การจัดให้มีปัจจัยการผลิตคุณภาพดี เช่น พันธุ์ดีให้แก่เกษตรกรในส่วนที่ภาครัฐไม่สามารถดำเนินการได้เพียงพอ ตลอดจนสนับสนุนสินเชื่อการผลิต การตลาดให้แก่เกษตรกร
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 ก.ค. 2543--
-สส-
คณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ แนวทางการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและพร้อมรับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าว่า การแก้ไขปัญหาและพัฒนาสินค้าเกษตรไทย จะต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบตั้งแต่การผลิต การปรับปรุงคุณภาพ และการแปรรูป ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาระบบตลาด สนับสนุนการระบายสินค้า เพื่อให้ได้ราคาที่สูงขึ้น การพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรให้ขยายฐานมากขึ้น และการกำหนดบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนระหว่างภาครัฐ เกษตรกรและชุมชน และภาคเอกชนในการพัฒนาการเกษตร สรุปได้ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างภาคเกษตรเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
1) การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรที่สอดคล้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่น และมีการถ่ายทอดไปสู่เกษตรกรเพื่อลดต้นทุนการผลิต และปรับปรุงคุณภาพสินค้าเกษตร
2) การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรให้สามารถดำเนินกิจกรรมด้านการผลิตและการตลาด ตลอดจนการแปรรูปสินค้าเกษตร
3) การสนับสนุนให้มีปัจจัยการผลิตคุณภาพดีที่จำเป็นและสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร เช่น เมล็ดพันธุ์ดี การใช้ปุ๋ยชีวภาพผสมผสานกับปุ๋ยเคมีอย่างเหมาะสม สินเชื่อเพื่อการผลิต
4) การกำหนดมาตรฐานและรับรองคุณภาพสินค้าเกษตร
5) การจัดหาและใช้น้ำเพื่อการผลิตทางการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ
2. การพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรให้ขยายฐานการผลิตมากขึ้น ควบคู่ไปกับการรักษาคุณภาพสินค้าตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การแปรรูปและการจัดจำหน่าย
1) การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรใหม่ ๆ เพื่อสนองและสร้างความต้องการด้านการตลาด
2) การสนับสนุนครัวเรือนเกษตรกรในการแปรรูปสินค้าเกษตรในท้องถิ่น
3) การสนับสนุนให้มีความเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกรและโรงงานแปรรูป
3. การพัฒนาระบบตลาดให้สามารถสนับสนุนการกระจายสินค้าเกษตร เพื่อให้ได้ราคาที่สูงขึ้น
1) การพัฒนาระบบตลาดท้องถิ่น ตลาดกลางและตลาดซื้อขายล่วงหน้า
2) จัดทำระบบเครือข่ายเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารการผลิตและการตลาดที่ทันต่อเหตุการณ์ สนับสนุนให้แก่เกษตรกรอย่างทั่วถึง
3) สนับสนุนการพัฒนามาตรฐานคุณภาพสินค้าเกษตร ตลอดจนการบรรจุหีบห่อเพื่อเพิ่มมูลค่าและสามารถแข่งขันในตลาดโลก
4. การปรับโครงสร้างการบริหารจัดการการพัฒนาการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ และมีระบบการประสานงานที่ดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน เกษตรกรและชุมชน โดยมีการกำหนดบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนระหว่างภาครัฐ เอกชน เกษตรกรและชุมชน ดังนี้
1) ภาครัฐ ควรจัดให้มีระบบการประสานงานระหว่างกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา เช่น ด้านพันธุ์ การใช้ปุ๋ยชีวภาพ เทคโนโลยีการเกษตร การจัดมาตรฐานสินค้าและการตรวจสอบมาตรฐานสินค้า การปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้ออำนวยต่อการผลิตและการแปรรูป การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของการผลิตการเกษตรที่สำคัญ เช่น การใช้ประโยชน์จากระบบชลประทาน การจัดตั้งตลาดกลาง ตลาดซื้อขายล่วงหน้า เป็นต้น
2) เกษตรกร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในระดับไร่นา โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงคุณภาพสินค้าเกษตรในแต่ละขั้นตอนของการผลิต เพื่อให้ได้สินค้าที่ได้มาตรฐานตามความต้องการของตลาด ร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนและสถาบันเกษตรกร และการดำเนินธุรกิจในท้องถิ่น
3) ภาคเอกชน สนับสนุนเกษตรกรในการเพิ่มคุณภาพสินค้าเกษตร การลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพการวิจัยและพัฒนาสินค้ามาตรฐานที่ตลาดโลกต้องการ ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และมีมาตรฐานสุขอนามัยตามข้อตกลงระหว่างประเทศ สนับสนุนการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรในการแปรรูปเป็นสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรให้กว้างขวางขึ้น การจัดให้มีปัจจัยการผลิตคุณภาพดี เช่น พันธุ์ดีให้แก่เกษตรกรในส่วนที่ภาครัฐไม่สามารถดำเนินการได้เพียงพอ ตลอดจนสนับสนุนสินเชื่อการผลิต การตลาดให้แก่เกษตรกร
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 ก.ค. 2543--
-สส-