การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งรัฐสุลต่านโอมาน

เรื่อง การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการต่างประเทศแห่งรัฐสุลต่านโอมาน

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้

1. อนุมัติการจัดทำและให้ความเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือระหว่าง กต. แห่งราชอาณาจักรไทยกับ กต. แห่งรัฐสุลต่านโอมาน (Memorandum of Understanding between the Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand and the Ministry of Foreign Affairs of the Sultanate of Oman on Political Consultations) โดยหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่กระทบต่อสาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ และไม่ขัดผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้ กต. สามารถพิจารณาดำเนินการได้ โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ

สาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ สรุปได้ ดังนี้

1. วัตถุประสงค์ : เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี พัฒนาความร่วมมือตลอดจนการจัดการประชุมปรึกษาหารือระหว่าง กต. แห่งราชอาณาจักรไทยกับ กต. แห่งรัฐสุลต่านโอมาน โดยมีระดับของประธานร่วมตามแต่คู่ภาคีจะตกลงกันผ่านช่องทางทางการทูต

2. คู่ภาคีจะส่งเสริมให้มีการปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นความร่วมมือทวิภาคี ซึ่งครอบคลุมในทุกสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน อาทิ ด้านการทูต เศรษฐกิจ การค้า วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม เป็นต้น

3. บันทึกความเข้าใจฯ จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ลงนามโดยจะมีผลบังคับใช้ห้าปีและจะขยายออกไปคราวละห้าปี โดยอัตโนมัติ จนกว่าจะมีการแจ้งบอกยกเลิกโดยภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าสามเดือน

ร่างบันทึกความเข้าใจฯ เป็นความตกลงที่จัดทำขึ้นระหว่างหน่วยงานระดับกระทรวง โดยมีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งกลไกทางการเมืองสำหรับการปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น รวมทั้งเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่ายซึ่ง อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่จะสามารถดำเนินการตามข้อกำหนดในความตกลงนั้นได้ และไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ จึงไม่เข้าข่ายหนังสือสัญญาตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 ธันวาคม 2558--