คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 22 - 23สิงหาคม 2544 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1. ความร่วมมือทวิภาคี ไทยและสิงคโปร์จะร่วมกันทำงานในลักษณะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (strategicpartner) โดยใช้ปัจจัยที่เกื้อกูลกัน (complementary) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าโครงการ Singapore - Thailand Civil Service Exchange Programme มีความก้าวหน้าไปทุกสาขา และจะเน้นการสร้างความคุ้นเคย เป็นกันเอง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์เป็นหลัก ไม่เน้นรูปแบบพิธีการ เป็นปัจจัยส่งเสริมความร่วมมือและการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ สำหรับด้านการลงทุนมีความสนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของไทย และไทยได้ขอให้สิงคโปร์ในฐานะประเทศส่งออกทุนพิจารณาขยายการร่วมทุนในประเทศเพื่อนบ้าน และโครงการของภูมิภาค โดยเฉพาะการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขง และเส้นทางคมนาคม
2. ความร่วมมือกรอบอาเซียน ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องว่ากระแสโลกาภิวัตน์ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทุกประเทศต้องเปลี่ยนแปลงให้ทันโลก สำหรับอนาคตของอาเซียนที่จะพัฒนาไปสู่การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจนั้นสหภาพยุโรปเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของการรวมกลุ่มเศรษฐกิจ และความร่วมมือในเรื่องเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) นั้น AFTA จะไม่ก้าวหน้าหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ ทั้งสองประเทศต่างเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอาเซียน ขณะเดียวกันอาเซียนควรศึกษาลู่ทางขยายความร่วมมือกับอินเดีย ในลักษณะความร่วมมืออาเซียน + จีน ญี่ปุ่น เกาหลี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 ต.ค. 44--
-สส-
1. ความร่วมมือทวิภาคี ไทยและสิงคโปร์จะร่วมกันทำงานในลักษณะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (strategicpartner) โดยใช้ปัจจัยที่เกื้อกูลกัน (complementary) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าโครงการ Singapore - Thailand Civil Service Exchange Programme มีความก้าวหน้าไปทุกสาขา และจะเน้นการสร้างความคุ้นเคย เป็นกันเอง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์เป็นหลัก ไม่เน้นรูปแบบพิธีการ เป็นปัจจัยส่งเสริมความร่วมมือและการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ สำหรับด้านการลงทุนมีความสนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของไทย และไทยได้ขอให้สิงคโปร์ในฐานะประเทศส่งออกทุนพิจารณาขยายการร่วมทุนในประเทศเพื่อนบ้าน และโครงการของภูมิภาค โดยเฉพาะการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขง และเส้นทางคมนาคม
2. ความร่วมมือกรอบอาเซียน ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องว่ากระแสโลกาภิวัตน์ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทุกประเทศต้องเปลี่ยนแปลงให้ทันโลก สำหรับอนาคตของอาเซียนที่จะพัฒนาไปสู่การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจนั้นสหภาพยุโรปเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของการรวมกลุ่มเศรษฐกิจ และความร่วมมือในเรื่องเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) นั้น AFTA จะไม่ก้าวหน้าหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ ทั้งสองประเทศต่างเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอาเซียน ขณะเดียวกันอาเซียนควรศึกษาลู่ทางขยายความร่วมมือกับอินเดีย ในลักษณะความร่วมมืออาเซียน + จีน ญี่ปุ่น เกาหลี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 ต.ค. 44--
-สส-