ทำเนียบรัฐบาล--7 มี.ค.--รอยเตอร์
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง ที่ ศก. /2543 เรื่อง ยกเลิกการลดและลดอัตราอากรศุลกากร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
ร่างประกาศกระทรวงดังกล่าว มีสาระสำคัญ คือ ลดอัตราอากรขาเข้าสำหรับแผ่นโพลิเมอร์ BOPP ที่ใช้ในการผลิตธนบัตรที่นำเข้าโดยธนาคารแห่งประเทศไทย จากอัตราอากรร้อยละ 30 หรือ 7 บาท/กิโลกรัม ลงเหลือร้อยละ 10 หรือ 1 บาท/กิโลกรัม
กระทรวงการคลังเสนอว่า เห็นควรปรับปรุงอัตราอากรศุลกากรสำหรับสินค้าบางรายการเพื่อให้มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ ดังนี้
1. แผ่นโพลิเมอร์ BOPP ใช้ในการผลิตธนบัตร เนื่องจากคณะกรรมการพิกัดอัตราอากรศุลกากร พิจารณาเห็นว่าธนาคารแห่งประเทศไทยมีความจำเป็นต้องนำเข้าแผ่นโพลิเมอร์ชนิด BOPP จากต่างประเทศ เพื่อใช้ในกาารพิมพ์ธนบัตร เนื่องจากแผ่นโพลิเมอร์ BOPP ที่ผลิตได้ภายในประเทศไม่มีคุณสมบัติเฉพาะที่ตรงตามชนิดของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตธนบัตร ประกอบกับธนบัตรที่ผลิตด้วยแผ่นโพลิเมอร์ชนิด BOPP จะมีอายุการใช้งานนานกว่าธนบัตรที่ผลิตด้วยกระดาษประมาณ 3 - 4 เท่าตัว ซึ่งจะทำให้อัตราการพิมพ์ธนบัตรเพื่อทดแทนธนบัตรที่หมดสภาพการใช้งานในแต่ละปีน้อยลง เป็นผลให้ประหยัดเงินของประเทศลงได้ จึงเห็นควรลดอัตราอากรขาเข้าของแผ่นโพลิเมอร์ BOPP ใช้ในการผลิตธนบัตร ที่นำเข้าโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตามพิกัดประเภทย่อยที่ 3920.20 จากอัตราอากรร้อยละ 30 หรือ 7 บาท/กิโลกรัม ลงเหลือร้อยละ 10 หรือ 1 บาท/กิโลกรัม
2. ประกาศกระทรวงการคลังลดอัตราอากรของสินค้าตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก. 19/2542 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2542 เรื่องยกเลิกการลดอัตราอากรศุลกากรและการลดอัตราอากรศุลกากร ได้มีรายการสินค้าในพิกัดประเภทย่อยที่ 8407.90 ที่เคยได้รับการลดอัตราอากรอยู่ แต่ได้ถูกยกเลิกไปตามวิธีการดำเนินการออกประกาศและยังไม่ได้นำมาออกประกาศใหม่เพื่อให้มีผลใช้บังคับตามเดิม จำนวน 1 รายการ ได้แก่ เครื่องยนต์เฉพาะที่การรถไฟแห่งประเทศไทยนำเข้าหรือสั่งให้นำเข้ามาเพื่อใช้เฉพาะกับหัวรถจักรตามประเภทที่ 86.02 จึงได้นำรายการสินค้าดังกล่าวมารวมไว้ในร่างประกาศฉบับนี้ด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 มีนาคม 2543--
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง ที่ ศก. /2543 เรื่อง ยกเลิกการลดและลดอัตราอากรศุลกากร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
ร่างประกาศกระทรวงดังกล่าว มีสาระสำคัญ คือ ลดอัตราอากรขาเข้าสำหรับแผ่นโพลิเมอร์ BOPP ที่ใช้ในการผลิตธนบัตรที่นำเข้าโดยธนาคารแห่งประเทศไทย จากอัตราอากรร้อยละ 30 หรือ 7 บาท/กิโลกรัม ลงเหลือร้อยละ 10 หรือ 1 บาท/กิโลกรัม
กระทรวงการคลังเสนอว่า เห็นควรปรับปรุงอัตราอากรศุลกากรสำหรับสินค้าบางรายการเพื่อให้มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ ดังนี้
1. แผ่นโพลิเมอร์ BOPP ใช้ในการผลิตธนบัตร เนื่องจากคณะกรรมการพิกัดอัตราอากรศุลกากร พิจารณาเห็นว่าธนาคารแห่งประเทศไทยมีความจำเป็นต้องนำเข้าแผ่นโพลิเมอร์ชนิด BOPP จากต่างประเทศ เพื่อใช้ในกาารพิมพ์ธนบัตร เนื่องจากแผ่นโพลิเมอร์ BOPP ที่ผลิตได้ภายในประเทศไม่มีคุณสมบัติเฉพาะที่ตรงตามชนิดของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตธนบัตร ประกอบกับธนบัตรที่ผลิตด้วยแผ่นโพลิเมอร์ชนิด BOPP จะมีอายุการใช้งานนานกว่าธนบัตรที่ผลิตด้วยกระดาษประมาณ 3 - 4 เท่าตัว ซึ่งจะทำให้อัตราการพิมพ์ธนบัตรเพื่อทดแทนธนบัตรที่หมดสภาพการใช้งานในแต่ละปีน้อยลง เป็นผลให้ประหยัดเงินของประเทศลงได้ จึงเห็นควรลดอัตราอากรขาเข้าของแผ่นโพลิเมอร์ BOPP ใช้ในการผลิตธนบัตร ที่นำเข้าโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ตามพิกัดประเภทย่อยที่ 3920.20 จากอัตราอากรร้อยละ 30 หรือ 7 บาท/กิโลกรัม ลงเหลือร้อยละ 10 หรือ 1 บาท/กิโลกรัม
2. ประกาศกระทรวงการคลังลดอัตราอากรของสินค้าตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก. 19/2542 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2542 เรื่องยกเลิกการลดอัตราอากรศุลกากรและการลดอัตราอากรศุลกากร ได้มีรายการสินค้าในพิกัดประเภทย่อยที่ 8407.90 ที่เคยได้รับการลดอัตราอากรอยู่ แต่ได้ถูกยกเลิกไปตามวิธีการดำเนินการออกประกาศและยังไม่ได้นำมาออกประกาศใหม่เพื่อให้มีผลใช้บังคับตามเดิม จำนวน 1 รายการ ได้แก่ เครื่องยนต์เฉพาะที่การรถไฟแห่งประเทศไทยนำเข้าหรือสั่งให้นำเข้ามาเพื่อใช้เฉพาะกับหัวรถจักรตามประเภทที่ 86.02 จึงได้นำรายการสินค้าดังกล่าวมารวมไว้ในร่างประกาศฉบับนี้ด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 มีนาคม 2543--