คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บกท.) ขอให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือต่อ บกท. จากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการก่อวินาศกรรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. สัญญาประกันทั้งสองประเภทที่ บกท.ทำไว้มีผลคุ้มครองปีต่อปี ซึ่งจะหมดในวันที่ 30 กันยายน 2544 โดยขณะนี้ บกท. ได้ดำเนินการจัดซื้อประกันในประเภทแรก โดยประกันภัยตัวเครื่องบินและความรับผิดชอบชดใช้ตามกฎหมายต่อผู้โดยสาร สัมภาระ สินค้า รวมทั้งทรัพย์สินของบุคคลที่สาม (Aviation Hull All Risks and Legal Liabilities Insurance) เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะมีผลคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2544 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2545
2. สำหรับประเภทประกันภัยสงครามรวมทั้งภัยที่เกี่ยวเนื่อง (Aviation Hull War Risks and Allied Perils Insurance) บกท. ได้จัดทำประกันภัยไปแล้วกว่าร้อยละ 70 และคาดว่าจะเสร็จภายในวันที่ 26 กันยายน 2544 แต่ขณะนี้ยังคงเหลือประเด็นปัญหาที่ผู้รับประกันภัยเครื่องบินได้ปรับลดวงเงินความคุ้มครองการรับผิดชดใช้ตามกฎหมายต่อการบาดเจ็บ เสียชีวิต และความเสียหายของทรัพย์สินของบุคคลที่สามในกรณีที่ความเสียหายเกิดจากภัยสงคราม รวมทั้งภัยที่เกี่ยวเนื่อง (Third Party Legal Liability - AV52C) ซึ่งเดิมรวมอยู่ในวงเงินรับผิดชดใช้รวม (Combined Single Limit) จำนวน 1,750 ล้านเหรียญสหรัฐ ของกรมธรรม์ประกันภัยเครื่องบิน (Hull All Risks and Legal Liabilities) ลงเหลือเพียง 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้มีผู้รับประกันภัยบางกลุ่มสนใจจะขายความคุ้มครองส่วนที่เพิ่มจาก 50 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไปอีกเป็น 250 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากสภาพของตลาดประกันภัยเครื่องบินโดยรวมยังไม่มีความพร้อมและไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะรับประกันภัยใด ๆ เพิ่มขึ้นอีกได้
3. เงื่อนไขการปรับลดวงเงินค่าชดใช้ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับกับ บกท. และสายการบินทั่วโลกในวันที่ 25 กันยายน 2544 เวลา 06.59 น. และกำลังเป็นประเด็นปัญหาสำคัญที่ผู้ประกอบกิจการทั่วโลกวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากวงเงินจำกัดความรับผิดจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่เพียงพอที่จะชดใช้ค่าเสียหาย และวงเงินดังกล่าวอาจไม่เป็นที่ยอมรับของประเทศที่ บกท. ทำการบินไป ซึ่งจะเป็นผลให้ บกท. ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินไปยังประเทศดังกล่าว นอกจากนี้ บกท. ยังจะประสบปัญหากับสถาบันการเงินที่ให้กู้ยืม เพื่อมาจัดซื้อเครื่องบินเพราะวงเงินคุ้มครองชดใช้ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ ซึ่งอาจนำไปสู่การยกเลิกสัญญาเงินกู้และการใช้สิทธิตามสัญญาบังคับบริษัทฯ ยุติการใช้เครื่องบินลำที่เกี่ยวข้อง
4. ขณะนี้สายการบินรายใหญ่ของโลกได้แจ้งไปยังรัฐบาลของตน เพื่อขอให้รัฐบาลรับภาระชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายในลักษณะของ Government Indemnity โดยให้ความคุ้มครองชดใช้ความเสียหายในส่วนที่เกินวงเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ จนถึงวงเงินที่มีอยู่เดิม (ประมาณ 1,750 ถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) ดังรัฐบาลของหลายประเทศซึ่งได้เข้าช่วยเหลือสายการบินของตนแล้ว เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา และประเทศในสหภาพยุโรป ส่วนประเทศสิงคโปร์ จีน และฮ่องกง กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา
5. ขณะนี้สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ซึ่งมีสมาชิกเป็นสายการบินต่าง ๆ ทั่วโลก ได้มีหนังสือชี้แจงและขอผ่อนปรนต่อตลาดประกันภัยเครื่องบินในประเทศอังกฤษแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาด้วยดีจากบริษัทประกันภัยต่าง ๆ ทางสมาคมฯ จึงได้ร้องขอรัฐบาลให้ความช่วยเหลือโดยทันทีทันใดต่อสายการบินแห่งชาติ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนที่สุด
6. บกท. ในฐานะสายการบินแห่งชาติขอให้รัฐบาลช่วยเหลือตามแนวทางที่หลายประเทศได้ดำเนินการไปแล้วดังกล่าวข้างต้น เป็นกรณีเร่งด่วน ในการให้ความช่วยเหลือ บกท. โดยให้ความคุ้มครองชดใช้ความเสียหายในส่วนที่เกินจากวงเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ จนถึงวงเงินที่เคยมีอยู่เดิม (ประมาณ 1,750 ถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในรูปของ Government Indemnity ทั้งนี้ จนกว่าสถานการณ์ตลาดประกันภัยจะได้คลี่คลายลง
สืบเนื่องจากกรณีการก่อวินาศกรรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดประกันภัยในธุรกิจการบินพลเรือน อันเป็นกิจการที่ประกอบด้วยกลุ่มผู้รับประกันภัยสองประเภท คือ ประเภทแรกจะรับประกันภัยตัวเครื่องบินและความรับผิดชอบชดใช้ตามกฎหมายต่อผู้โดยสาร สัมภาระ สินค้า รวมทั้งทรัพย์สินของบุคคลที่สาม (Aviation Hull All Risks and Legal Liabilities Insurance) ในสภาพเหตุการณ์ทั่ว ๆ ไป และประเภทที่สองจะรับประกันภัยความเสียหายตัวเครื่องบินที่เกิดจากภัยสงคราม รวมทั้งภัยที่เกี่ยวเนื่อง อาทิเช่น การก่อการร้าย การก่อวินาศกรรม การจี้เครื่องบิน เป็นต้น (Aviation Hull War Risks and Allied Perils Insurance) และความรับผิดชอบต่อบุคคลที่สาม บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บกท.) จึงจำเป็นต้องจัดซื้อประกันภัยทั้งสองประเภทดังกล่าว ตามระเบียบข้อบังคับขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 25 ก.ย.44--
-สส-
1. สัญญาประกันทั้งสองประเภทที่ บกท.ทำไว้มีผลคุ้มครองปีต่อปี ซึ่งจะหมดในวันที่ 30 กันยายน 2544 โดยขณะนี้ บกท. ได้ดำเนินการจัดซื้อประกันในประเภทแรก โดยประกันภัยตัวเครื่องบินและความรับผิดชอบชดใช้ตามกฎหมายต่อผู้โดยสาร สัมภาระ สินค้า รวมทั้งทรัพย์สินของบุคคลที่สาม (Aviation Hull All Risks and Legal Liabilities Insurance) เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะมีผลคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2544 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2545
2. สำหรับประเภทประกันภัยสงครามรวมทั้งภัยที่เกี่ยวเนื่อง (Aviation Hull War Risks and Allied Perils Insurance) บกท. ได้จัดทำประกันภัยไปแล้วกว่าร้อยละ 70 และคาดว่าจะเสร็จภายในวันที่ 26 กันยายน 2544 แต่ขณะนี้ยังคงเหลือประเด็นปัญหาที่ผู้รับประกันภัยเครื่องบินได้ปรับลดวงเงินความคุ้มครองการรับผิดชดใช้ตามกฎหมายต่อการบาดเจ็บ เสียชีวิต และความเสียหายของทรัพย์สินของบุคคลที่สามในกรณีที่ความเสียหายเกิดจากภัยสงคราม รวมทั้งภัยที่เกี่ยวเนื่อง (Third Party Legal Liability - AV52C) ซึ่งเดิมรวมอยู่ในวงเงินรับผิดชดใช้รวม (Combined Single Limit) จำนวน 1,750 ล้านเหรียญสหรัฐ ของกรมธรรม์ประกันภัยเครื่องบิน (Hull All Risks and Legal Liabilities) ลงเหลือเพียง 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้มีผู้รับประกันภัยบางกลุ่มสนใจจะขายความคุ้มครองส่วนที่เพิ่มจาก 50 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไปอีกเป็น 250 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากสภาพของตลาดประกันภัยเครื่องบินโดยรวมยังไม่มีความพร้อมและไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะรับประกันภัยใด ๆ เพิ่มขึ้นอีกได้
3. เงื่อนไขการปรับลดวงเงินค่าชดใช้ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับกับ บกท. และสายการบินทั่วโลกในวันที่ 25 กันยายน 2544 เวลา 06.59 น. และกำลังเป็นประเด็นปัญหาสำคัญที่ผู้ประกอบกิจการทั่วโลกวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากวงเงินจำกัดความรับผิดจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่เพียงพอที่จะชดใช้ค่าเสียหาย และวงเงินดังกล่าวอาจไม่เป็นที่ยอมรับของประเทศที่ บกท. ทำการบินไป ซึ่งจะเป็นผลให้ บกท. ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินไปยังประเทศดังกล่าว นอกจากนี้ บกท. ยังจะประสบปัญหากับสถาบันการเงินที่ให้กู้ยืม เพื่อมาจัดซื้อเครื่องบินเพราะวงเงินคุ้มครองชดใช้ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ ซึ่งอาจนำไปสู่การยกเลิกสัญญาเงินกู้และการใช้สิทธิตามสัญญาบังคับบริษัทฯ ยุติการใช้เครื่องบินลำที่เกี่ยวข้อง
4. ขณะนี้สายการบินรายใหญ่ของโลกได้แจ้งไปยังรัฐบาลของตน เพื่อขอให้รัฐบาลรับภาระชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายในลักษณะของ Government Indemnity โดยให้ความคุ้มครองชดใช้ความเสียหายในส่วนที่เกินวงเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ จนถึงวงเงินที่มีอยู่เดิม (ประมาณ 1,750 ถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) ดังรัฐบาลของหลายประเทศซึ่งได้เข้าช่วยเหลือสายการบินของตนแล้ว เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา และประเทศในสหภาพยุโรป ส่วนประเทศสิงคโปร์ จีน และฮ่องกง กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา
5. ขณะนี้สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ซึ่งมีสมาชิกเป็นสายการบินต่าง ๆ ทั่วโลก ได้มีหนังสือชี้แจงและขอผ่อนปรนต่อตลาดประกันภัยเครื่องบินในประเทศอังกฤษแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาด้วยดีจากบริษัทประกันภัยต่าง ๆ ทางสมาคมฯ จึงได้ร้องขอรัฐบาลให้ความช่วยเหลือโดยทันทีทันใดต่อสายการบินแห่งชาติ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนที่สุด
6. บกท. ในฐานะสายการบินแห่งชาติขอให้รัฐบาลช่วยเหลือตามแนวทางที่หลายประเทศได้ดำเนินการไปแล้วดังกล่าวข้างต้น เป็นกรณีเร่งด่วน ในการให้ความช่วยเหลือ บกท. โดยให้ความคุ้มครองชดใช้ความเสียหายในส่วนที่เกินจากวงเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ จนถึงวงเงินที่เคยมีอยู่เดิม (ประมาณ 1,750 ถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในรูปของ Government Indemnity ทั้งนี้ จนกว่าสถานการณ์ตลาดประกันภัยจะได้คลี่คลายลง
สืบเนื่องจากกรณีการก่อวินาศกรรมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดประกันภัยในธุรกิจการบินพลเรือน อันเป็นกิจการที่ประกอบด้วยกลุ่มผู้รับประกันภัยสองประเภท คือ ประเภทแรกจะรับประกันภัยตัวเครื่องบินและความรับผิดชอบชดใช้ตามกฎหมายต่อผู้โดยสาร สัมภาระ สินค้า รวมทั้งทรัพย์สินของบุคคลที่สาม (Aviation Hull All Risks and Legal Liabilities Insurance) ในสภาพเหตุการณ์ทั่ว ๆ ไป และประเภทที่สองจะรับประกันภัยความเสียหายตัวเครื่องบินที่เกิดจากภัยสงคราม รวมทั้งภัยที่เกี่ยวเนื่อง อาทิเช่น การก่อการร้าย การก่อวินาศกรรม การจี้เครื่องบิน เป็นต้น (Aviation Hull War Risks and Allied Perils Insurance) และความรับผิดชอบต่อบุคคลที่สาม บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บกท.) จึงจำเป็นต้องจัดซื้อประกันภัยทั้งสองประเภทดังกล่าว ตามระเบียบข้อบังคับขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 25 ก.ย.44--
-สส-