คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการงดอนุญาตตั้งสถานบริการ5 จังหวัด 1 ฉบับ และกำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการ 9 จังหวัด 9 ฉบับ รวม 10 ฉบับ ของกระทรวงมหาดไทย ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ)เป็นประธานกรรมการฯ และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยนำข้อคิดเห็นต่าง ๆ ของคณะกรรมการไปประกอบการพิจารณาด้วย
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตตั้งสถานบริการ 10 ฉบับ ดังกล่าว ได้แก่
1. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่องดอนุญาตตั้งสถานบริการในท้องที่ 5 จังหวัด คือ จังหวัดนครนายก จังหวัดพิจิตร จังหวัดสุโขทัย จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดสตูล พ.ศ. ….
2. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่ตั้งสถานบริการในท้องที่กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ….
3. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดลำปาง พ.ศ. ….
4. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม พ.ศ. ….
5. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. ….
6. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตาก พ.ศ. ….
7. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. ….
8. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ….
9. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดชลบุรี พ.ศ. ….
10. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดเชียงราย พ.ศ. ….
ทั้งนี้ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตตั้งสถานบริการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล โดยกำหนดพื้นที่งดอนุญาตและกำหนดพื้นที่สถานบริการจัดตั้งใหม่ ดังนี้
1. กำหนดพื้นที่ที่กำหนดเขตงดอนุญาตตั้งสถานบริการ 5 จังหวัด ได้แก่ นครนายก พิจิตร สุโขทัย อ่างทอง และสตูล ด้วยเหตุผลว่าพื้นที่ดังกล่าวมีสถานบริการที่ได้รับอนุญาตเพียงพอและเหมาะสมแล้ว
2. กำหนดเขตพื้นที่ตั้งสถานบริการใหม่ 9 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ลำปาง สมุทรสงครามสุรินทร์ ตาก ภูเก็ต นครราชสีมา ชลบุรี และเชียงราย เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ ส่วนพื้นที่อื่นนอกจากที่กำหนดให้เป็นพื้นที่เพื่อการงดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ เนื่องจากในปัจจุบันมีสถานบริการกระจัดกระจายอยู่หลายพื้นที่ จึงกำหนดให้สถานบริการที่จะจัดตั้งใหม่ต้องอยู่ในเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตเท่านั้น พื้นที่อื่นให้เป็นพื้นที่งดการอนุญาตโดยกำหนดพื้นที่บริเวณเพื่อตั้งสถานที่บริการไว้ในมาตรา 3 และมาตรา 4 ของร่างพระราชกฤษฎีกา (ยกเว้นพื้นที่ในรัศมี200 เมตร เฉพาะกรุงเทพมหานคร และจังหวัดชลบุรี บริเวณที่ 1 ยกเว้นพื้นที่ในรัศมี 200 เมตร และบริเวณที่ 2 ยกเว้นรัศมี 100 เมตร
ทั้งนี้ ไม่บังคับถึงสถานบริการที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวใช้บังคับ และสถานบริการที่ตั้งขึ้นในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยการโรงแรม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 20 พ.ย. 44--
-สส-
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตตั้งสถานบริการ 10 ฉบับ ดังกล่าว ได้แก่
1. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่องดอนุญาตตั้งสถานบริการในท้องที่ 5 จังหวัด คือ จังหวัดนครนายก จังหวัดพิจิตร จังหวัดสุโขทัย จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดสตูล พ.ศ. ….
2. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่ตั้งสถานบริการในท้องที่กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ….
3. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดลำปาง พ.ศ. ….
4. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดสมุทรสงคราม พ.ศ. ….
5. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. ….
6. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดตาก พ.ศ. ….
7. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. ….
8. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. ….
9. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดชลบุรี พ.ศ. ….
10. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดเชียงราย พ.ศ. ….
ทั้งนี้ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตตั้งสถานบริการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล โดยกำหนดพื้นที่งดอนุญาตและกำหนดพื้นที่สถานบริการจัดตั้งใหม่ ดังนี้
1. กำหนดพื้นที่ที่กำหนดเขตงดอนุญาตตั้งสถานบริการ 5 จังหวัด ได้แก่ นครนายก พิจิตร สุโขทัย อ่างทอง และสตูล ด้วยเหตุผลว่าพื้นที่ดังกล่าวมีสถานบริการที่ได้รับอนุญาตเพียงพอและเหมาะสมแล้ว
2. กำหนดเขตพื้นที่ตั้งสถานบริการใหม่ 9 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ลำปาง สมุทรสงครามสุรินทร์ ตาก ภูเก็ต นครราชสีมา ชลบุรี และเชียงราย เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ ส่วนพื้นที่อื่นนอกจากที่กำหนดให้เป็นพื้นที่เพื่อการงดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ เนื่องจากในปัจจุบันมีสถานบริการกระจัดกระจายอยู่หลายพื้นที่ จึงกำหนดให้สถานบริการที่จะจัดตั้งใหม่ต้องอยู่ในเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตเท่านั้น พื้นที่อื่นให้เป็นพื้นที่งดการอนุญาตโดยกำหนดพื้นที่บริเวณเพื่อตั้งสถานที่บริการไว้ในมาตรา 3 และมาตรา 4 ของร่างพระราชกฤษฎีกา (ยกเว้นพื้นที่ในรัศมี200 เมตร เฉพาะกรุงเทพมหานคร และจังหวัดชลบุรี บริเวณที่ 1 ยกเว้นพื้นที่ในรัศมี 200 เมตร และบริเวณที่ 2 ยกเว้นรัศมี 100 เมตร
ทั้งนี้ ไม่บังคับถึงสถานบริการที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวใช้บังคับ และสถานบริการที่ตั้งขึ้นในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยการโรงแรม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 20 พ.ย. 44--
-สส-