ทำเนียบรัฐบาล--10 ต.ค.--นิวส์สแตนด์
ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาด และการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 (กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคืนอากรหรือหลักประกันการชำระอากร)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาด และการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 (กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคืนอากรหรือหลักประกันการชำระอากร) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
ร่างกฎกระทรวงดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ ให้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคืนอากรหรือหลักประกันการชำระอากร ดังนี้
1. การวางหลักประกันอากรหรือหลักประกันการชำระอากรชั่วคราว ให้ใช้เงินสดหรือหนังสือค้ำประกันจากธนาคารพาณิชย์ ตามที่คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุนร้องขอหรือประกาศเรียกเก็บ
2. ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยชั้นที่สุดให้เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดตามมาตรา 51 หรืออากรตอบโต้การอุดหนุนตามมาตรา 51 ประกอบมาตรา 70 โดยมีอัตราอากรสูงกว่า หรือเท่ากับอัตราอากรชั่วคราวหรือเงินที่บังคับจากหลักประกันการชำระอากรชั่วคราวที่ได้เรียกเก็บไว้แล้ว ให้กรมศุลกากรนำส่งอากรหรือเงินดังกล่าวทั้งหมดเข้าเป็นอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุน แต่ถ้ามีอัตราต่ำกว่า ให้คืนส่วนต่างที่เกินให้กับผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย
3. ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยชั้นที่สุดให้เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดตามมาตรา 52 หรืออากรตอบโต้การอุดหนุนตามมาตรา 52 ประกอบมาตรา 70 และผู้นำเข้าได้ชำระอากรชั่วคราวหรือวางหลักประกันการชำระอากรชั่วคราวในกรณีนี้แล้ว ให้กรมศุลกากรคืนอากรชั่วคราวหรือหลักประกันการชำระอากรชั่วคราวที่ได้เรียกเก็บไว้แล้วทั้งหมดให้แก่ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย
4. ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยชั้นที่สุดว่าไม่มีการทุ่มตลาด ไม่มีการอุดหนุน หรือไม่มีความเสียหายให้คืนอากรชั่วคราวหรือหลักประกันการชำระอากรชั่วคราวที่ได้เก็บไว้แล้วแก่ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย
5. ในกรณีที่ได้มีการออกประกาศไต่สวนการทุ่มตลาดหรือประกาศไต่สวนการอุดหนุน และได้มีประกาศเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุน ให้กรมศุลกากรเก็บรักษาอากรดังกล่าวไว้จนกว่าจะสิ้นเหตุที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 59
6. ในกรณีที่มีการเรียกเก็บหลักประกันอากรตามมาตรา 31 ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยเบื้องต้นหรือชั้นที่สุดว่าไม่มีการทุ่มตลาด ไม่มีการอุดหนุน หรือไม่มีความเสียหาย ให้คืนหลักประกันอากรที่ได้เก็บไว้แล้วแก่ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยชั้นที่สุดให้เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดตามมาตรา 53 หรืออากรตอบโต้การอุดหนุนตามมาตรา 53 ประกอบมาตรา 70 ให้กรมศุลกากรเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุนจากผู้นำเข้าหลังจากวันประกาศไต่สวนแต่ต้องไม่เกินเก้าสิบวันก่อนวันที่ใช้มาตรการชั่วคราวเป็นรายได้แผ่นดิน แล้วคืนหลักประกันอากรที่เรียกเก็บไว้แก่ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย แต่ถ้าปรากฏว่าผู้นำเข้าไม่ชำระอากรดังกล่าว ให้กรมศุลกากรบังคับจากหลักประกันดังกล่าวได้ แล้วให้กรมศุลกากรคืนส่วนต่างของอากรส่วนที่เกินให้กับผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย สำหรับอากรส่วนที่เหลือให้ส่งเป็นรายได้แผ่นดิน และให้ผู้มีสิทธิ เรียกร้องให้กรมศุลกากรคืนหลักประกันอากรภายในสิบปีนับแต่วันที่คณะกรรมการมีคำวินิจฉัย
7. ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยผลการทบทวนให้ยุติการเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุน ให้กรมศุลกากรนำส่งอากรที่ได้เรียกเก็บไว้แล้วนับแต่วันที่ประกาศการทบทวนจนถึงวันก่อนที่มีการประกาศผลการทบทวนเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยผลการทบทวนให้เปลี่ยนแปลงอัตราอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุน โดยได้กำหนดอัตราอากรไม่ว่าจะสูงกว่าหรือต่ำกว่าอัตราอากรที่ได้เรียกเก็บไว้ ให้กรมศุลกากรนำส่งอากรที่เรียกเก็บไว้เป็นรายได้แผ่นดิน
8. กรณีมีผู้ส่งออกจากต่างประเทศ หรือผู้ผลิตในต่างประเทศขอให้ทบทวนการเรียกเก็บอากรตอบโต้ฯ ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยว่ามีการทุ่มตลาดหรือมีการอุดหนุน หรือผู้ขอทบทวนมีความเกี่ยวข้องกับผู้ส่งออกจากต่างประเทศหรือผู้ผลิตสินค้าในต่างประเทศซึ่งอยู่ในบังคับถูกเรียกเก็บอากรฯ ถ้ามีการเรียกเก็บหลักประกันอากรจากผู้นำเข้าตามมาตรา 31 และคณะกรรมการฯ ได้กำหนดอากรสำหรับช่วงระยะเวลาที่งดเก็บด้วย ให้กรมศุลกากรนำส่งเงินที่เรียกเก็บจากผู้นำเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน แล้วคืนหลักประกันอากรที่เรียกเก็บไว้แก่ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย ถ้าผู้นำเข้าไม่ชำระอากรดังกล่าวให้บังคับจากหลักประกัน และให้กรมศุลกากรคืนส่วนที่เกินของเงินที่บังคับจากหลักประกันให้ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย สำหรับอากรส่วนที่เหลือให้ส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยว่าไม่มีการทุ่มตลาดหรือไม่มีการอุดหนุน หรือผู้ขอทบทวนไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ส่งออกจากต่างประเทศหรือผู้ผลิตสินค้าในต่างประเทศ ซึ่งอยู่ในบังคับถูกเรียกเก็บอากรตอบโต้ฯ และได้มีการเรียกเก็บหลักประกันอากรจากผู้นำเข้า ให้คืนหลักประกันอากรที่ได้เก็บไว้แล้วแก่ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย
9. ถ้าผู้นำเข้าไม่ยื่นคำขอคืนอากรตอบโต้ฯ ที่ถูกเรียกเก็บไว้ภายใน 6 เดือน ให้ส่งเข้าเป็นรายได้แผ่นดินแต่ถ้าผู้นำเข้ายื่นคำขอคืนอากรส่วนนี้ให้เก็บรักษาอากรนั้นไว้จนกว่าคณะกรรมการฯ จะมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยให้ยกคำขอคืนอากร ให้ส่งอากรดังกล่าวเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยให้คืนอากร ให้คืนอากรดังกล่าวแก่ผู้นำเข้าพร้อมดอกเบี้ยสำหรับอากรส่วนที่เหลือก็ให้ส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
10. เมื่อคำวินิจฉัยเบื้องต้นให้ใช้มาตรการชั่วคราว หรือคำวินิจฉัยชั้นที่สุดให้เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุน แล้วแต่กรณี ให้กรมศุลกากรนำมาตรา 112 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2469 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 ต.ค. 2543--
-สส-
ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาด และการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 (กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคืนอากรหรือหลักประกันการชำระอากร)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาด และการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ. 2542 (กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคืนอากรหรือหลักประกันการชำระอากร) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
ร่างกฎกระทรวงดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ ให้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคืนอากรหรือหลักประกันการชำระอากร ดังนี้
1. การวางหลักประกันอากรหรือหลักประกันการชำระอากรชั่วคราว ให้ใช้เงินสดหรือหนังสือค้ำประกันจากธนาคารพาณิชย์ ตามที่คณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุนร้องขอหรือประกาศเรียกเก็บ
2. ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยชั้นที่สุดให้เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดตามมาตรา 51 หรืออากรตอบโต้การอุดหนุนตามมาตรา 51 ประกอบมาตรา 70 โดยมีอัตราอากรสูงกว่า หรือเท่ากับอัตราอากรชั่วคราวหรือเงินที่บังคับจากหลักประกันการชำระอากรชั่วคราวที่ได้เรียกเก็บไว้แล้ว ให้กรมศุลกากรนำส่งอากรหรือเงินดังกล่าวทั้งหมดเข้าเป็นอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุน แต่ถ้ามีอัตราต่ำกว่า ให้คืนส่วนต่างที่เกินให้กับผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย
3. ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยชั้นที่สุดให้เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดตามมาตรา 52 หรืออากรตอบโต้การอุดหนุนตามมาตรา 52 ประกอบมาตรา 70 และผู้นำเข้าได้ชำระอากรชั่วคราวหรือวางหลักประกันการชำระอากรชั่วคราวในกรณีนี้แล้ว ให้กรมศุลกากรคืนอากรชั่วคราวหรือหลักประกันการชำระอากรชั่วคราวที่ได้เรียกเก็บไว้แล้วทั้งหมดให้แก่ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย
4. ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยชั้นที่สุดว่าไม่มีการทุ่มตลาด ไม่มีการอุดหนุน หรือไม่มีความเสียหายให้คืนอากรชั่วคราวหรือหลักประกันการชำระอากรชั่วคราวที่ได้เก็บไว้แล้วแก่ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย
5. ในกรณีที่ได้มีการออกประกาศไต่สวนการทุ่มตลาดหรือประกาศไต่สวนการอุดหนุน และได้มีประกาศเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุน ให้กรมศุลกากรเก็บรักษาอากรดังกล่าวไว้จนกว่าจะสิ้นเหตุที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรา 59
6. ในกรณีที่มีการเรียกเก็บหลักประกันอากรตามมาตรา 31 ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยเบื้องต้นหรือชั้นที่สุดว่าไม่มีการทุ่มตลาด ไม่มีการอุดหนุน หรือไม่มีความเสียหาย ให้คืนหลักประกันอากรที่ได้เก็บไว้แล้วแก่ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยชั้นที่สุดให้เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดตามมาตรา 53 หรืออากรตอบโต้การอุดหนุนตามมาตรา 53 ประกอบมาตรา 70 ให้กรมศุลกากรเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุนจากผู้นำเข้าหลังจากวันประกาศไต่สวนแต่ต้องไม่เกินเก้าสิบวันก่อนวันที่ใช้มาตรการชั่วคราวเป็นรายได้แผ่นดิน แล้วคืนหลักประกันอากรที่เรียกเก็บไว้แก่ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย แต่ถ้าปรากฏว่าผู้นำเข้าไม่ชำระอากรดังกล่าว ให้กรมศุลกากรบังคับจากหลักประกันดังกล่าวได้ แล้วให้กรมศุลกากรคืนส่วนต่างของอากรส่วนที่เกินให้กับผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย สำหรับอากรส่วนที่เหลือให้ส่งเป็นรายได้แผ่นดิน และให้ผู้มีสิทธิ เรียกร้องให้กรมศุลกากรคืนหลักประกันอากรภายในสิบปีนับแต่วันที่คณะกรรมการมีคำวินิจฉัย
7. ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยผลการทบทวนให้ยุติการเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุน ให้กรมศุลกากรนำส่งอากรที่ได้เรียกเก็บไว้แล้วนับแต่วันที่ประกาศการทบทวนจนถึงวันก่อนที่มีการประกาศผลการทบทวนเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยผลการทบทวนให้เปลี่ยนแปลงอัตราอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุน โดยได้กำหนดอัตราอากรไม่ว่าจะสูงกว่าหรือต่ำกว่าอัตราอากรที่ได้เรียกเก็บไว้ ให้กรมศุลกากรนำส่งอากรที่เรียกเก็บไว้เป็นรายได้แผ่นดิน
8. กรณีมีผู้ส่งออกจากต่างประเทศ หรือผู้ผลิตในต่างประเทศขอให้ทบทวนการเรียกเก็บอากรตอบโต้ฯ ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยว่ามีการทุ่มตลาดหรือมีการอุดหนุน หรือผู้ขอทบทวนมีความเกี่ยวข้องกับผู้ส่งออกจากต่างประเทศหรือผู้ผลิตสินค้าในต่างประเทศซึ่งอยู่ในบังคับถูกเรียกเก็บอากรฯ ถ้ามีการเรียกเก็บหลักประกันอากรจากผู้นำเข้าตามมาตรา 31 และคณะกรรมการฯ ได้กำหนดอากรสำหรับช่วงระยะเวลาที่งดเก็บด้วย ให้กรมศุลกากรนำส่งเงินที่เรียกเก็บจากผู้นำเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน แล้วคืนหลักประกันอากรที่เรียกเก็บไว้แก่ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย ถ้าผู้นำเข้าไม่ชำระอากรดังกล่าวให้บังคับจากหลักประกัน และให้กรมศุลกากรคืนส่วนที่เกินของเงินที่บังคับจากหลักประกันให้ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย สำหรับอากรส่วนที่เหลือให้ส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยว่าไม่มีการทุ่มตลาดหรือไม่มีการอุดหนุน หรือผู้ขอทบทวนไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ส่งออกจากต่างประเทศหรือผู้ผลิตสินค้าในต่างประเทศ ซึ่งอยู่ในบังคับถูกเรียกเก็บอากรตอบโต้ฯ และได้มีการเรียกเก็บหลักประกันอากรจากผู้นำเข้า ให้คืนหลักประกันอากรที่ได้เก็บไว้แล้วแก่ผู้มีสิทธิพร้อมดอกเบี้ย
9. ถ้าผู้นำเข้าไม่ยื่นคำขอคืนอากรตอบโต้ฯ ที่ถูกเรียกเก็บไว้ภายใน 6 เดือน ให้ส่งเข้าเป็นรายได้แผ่นดินแต่ถ้าผู้นำเข้ายื่นคำขอคืนอากรส่วนนี้ให้เก็บรักษาอากรนั้นไว้จนกว่าคณะกรรมการฯ จะมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยให้ยกคำขอคืนอากร ให้ส่งอากรดังกล่าวเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน ถ้าคณะกรรมการฯ มีคำวินิจฉัยให้คืนอากร ให้คืนอากรดังกล่าวแก่ผู้นำเข้าพร้อมดอกเบี้ยสำหรับอากรส่วนที่เหลือก็ให้ส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
10. เมื่อคำวินิจฉัยเบื้องต้นให้ใช้มาตรการชั่วคราว หรือคำวินิจฉัยชั้นที่สุดให้เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดหรืออากรตอบโต้การอุดหนุน แล้วแต่กรณี ให้กรมศุลกากรนำมาตรา 112 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช 2469 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 ต.ค. 2543--
-สส-