ทำเนียบรัฐบาล--26 ธ.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แนวทางการกำหนดค่าตอบแทนกรรมการ ป.ป.ง. กรรมการธุรกรรม และอนุกรรมการในคณะกรรมการ ป.ป.ง. เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่มีภารกิจความรับผิดชอบสูง และปริมาณงานมาก และจะต้องปฏิบัติราชการเป็นปกติประจำวัน รวมทั้งมีโอกาสเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สินที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ กับเห็นควรให้กระทรวงการคลังพิจารณาค่าตอบแทนย้อนหลังให้กับกรรมการ ป.ป.ง. ที่ได้มีการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2543 ด้วย ดังนี้
1. การกำหนดอัตราค่าตอบแทนให้แก่คณะกรรมการ ป.ป.ง. สมควรเทียบเคียงกับอัตราเงินสมนาคุณคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการ ป.ป.ส. แต่เนื่องจากทางราชการมีนโยบายในการประหยัดค่าใช้จ่าย คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2541 ให้ปรับลดอัตราเงินสมนาคุณคณะกรรมการลงกึ่งหนึ่ง ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความเหลื่อมล้ำ สมควรให้คณะกรรมการ ป.ป.ง. ได้รับค่าตอบแทนในอัตราที่ปรับลดลงเช่นเดียวกันตามที่กระทรวงการคลังได้เคยเสนอความเห็นไว้แล้ว อย่างไรก็ดี ในโอกาสต่อไปหากสถานการณ์ทางการเงินของประเทศอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2541 แล้ว ก็เห็นควรให้คณะกรรมการ ป.ป.ง. ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นตามอัตราที่สำนักงาน ป.ป.ง. เสนอ
2. ให้กำหนดเงื่อนไขและอัตราค่าตอบแทนคณะกรรมการธุรกรรม ดังนี้
2.1 กรรมการที่เป็นบุคคลภายนอกให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราตามที่สำนักงาน ป.ป.ง. เสนอ เดือนละ 15,000 บาท
2.2 กรรมการที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากเป็นการปฏิบัติงานในเวลาราชการ และเสียสละเวลาจากการปฏิบัติงานในหน้าที่ประจำของตน สมควรให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราสองในสามของอัตรา ค่าตอบแทนที่กรรมการบุคคลภายนอกได้รับ เดือนละ 10,000 บาท
2.3 สำหรับการกำหนดค่าตอบแทนให้แก่เลขาธิการ ป.ป.ง. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานกรรมการธุรกรรมนั้น ทางราชการได้กำหนดให้เงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตามนัยมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ในอัตราเดือนละ 30,000 บาท แล้ว โดยพิจารณาเห็นว่าเป็นตำแหน่งที่มีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบสูง ผู้ดำรงตำแหน่งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมีลักษณะเฉพาะแตกต่างจากตำแหน่งอื่นในระดับเดียวกัน ประกอบกับการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานกรรมการธุรกรรม เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติงานในตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. เมื่อเทียบกับกรรมการที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจจากหน่วยงานอื่นแล้ว เห็นควรกำหนดให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตรากึ่งหนี่งของอัตราค่าตอบแทนสำหรับกรรมการที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจได้รับ คือ 5,000 บาท และบวกเพิ่มในฐานะตำแหน่งประธานกรรมการอีกหนึ่งในสี่ของอัตราค่าตอบแทนที่ข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจอื่นได้รับอีก 2,500 บาท รวมได้รับเดือนละ 7,500 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับอัตราเงินเดือน เงินประจำตำแหน่งและค่าตอบแทนรายเดือนต่าง ๆ แล้ว ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. จะได้รับประโยชน์ตอบแทนในอัตรารวม ดังนี้
1) เงินเดือน เดือนละ 57,190 บาท (ขั้นสูงสุดของระดับ 11)
2) เงินประจำตำแหน่ง เดือนละ 14,500 บาท (อัตราตำแหน่งอธิบดี)
3) ค่าตอบแทน เดือนละ 6,500 บาท (ส่วนต่างของอัตราเงินประจำตำแหน่งที่ได้รับลดลง)
4) เงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ เดือนละ 30,000 บาท
5) ค่าตอบแทนกรรมการ ป.ป.ง. เดือนละ 2,000 บาท (ป.ป.ง. เสนอเดือนละ 4,000 บาท)
6) ค่าตอบแทนประธานกรรมการธุรกรรม เดือนละ 7,500 บาท (ป.ป.ง. เสนอเดือนละ
20,000 บาท)
รวม เดือนละ 117,690 บาท
2.4 หากเดือนใดไม่มีการประชุม หรือมีการประชุมแต่ไม่เข้าประชุม ให้งดจ่าย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 ธ.ค. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แนวทางการกำหนดค่าตอบแทนกรรมการ ป.ป.ง. กรรมการธุรกรรม และอนุกรรมการในคณะกรรมการ ป.ป.ง. เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่มีภารกิจความรับผิดชอบสูง และปริมาณงานมาก และจะต้องปฏิบัติราชการเป็นปกติประจำวัน รวมทั้งมีโอกาสเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สินที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ กับเห็นควรให้กระทรวงการคลังพิจารณาค่าตอบแทนย้อนหลังให้กับกรรมการ ป.ป.ง. ที่ได้มีการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2543 ด้วย ดังนี้
1. การกำหนดอัตราค่าตอบแทนให้แก่คณะกรรมการ ป.ป.ง. สมควรเทียบเคียงกับอัตราเงินสมนาคุณคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการ ป.ป.ส. แต่เนื่องจากทางราชการมีนโยบายในการประหยัดค่าใช้จ่าย คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2541 ให้ปรับลดอัตราเงินสมนาคุณคณะกรรมการลงกึ่งหนึ่ง ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความเหลื่อมล้ำ สมควรให้คณะกรรมการ ป.ป.ง. ได้รับค่าตอบแทนในอัตราที่ปรับลดลงเช่นเดียวกันตามที่กระทรวงการคลังได้เคยเสนอความเห็นไว้แล้ว อย่างไรก็ดี ในโอกาสต่อไปหากสถานการณ์ทางการเงินของประเทศอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2541 แล้ว ก็เห็นควรให้คณะกรรมการ ป.ป.ง. ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นตามอัตราที่สำนักงาน ป.ป.ง. เสนอ
2. ให้กำหนดเงื่อนไขและอัตราค่าตอบแทนคณะกรรมการธุรกรรม ดังนี้
2.1 กรรมการที่เป็นบุคคลภายนอกให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราตามที่สำนักงาน ป.ป.ง. เสนอ เดือนละ 15,000 บาท
2.2 กรรมการที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากเป็นการปฏิบัติงานในเวลาราชการ และเสียสละเวลาจากการปฏิบัติงานในหน้าที่ประจำของตน สมควรให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตราสองในสามของอัตรา ค่าตอบแทนที่กรรมการบุคคลภายนอกได้รับ เดือนละ 10,000 บาท
2.3 สำหรับการกำหนดค่าตอบแทนให้แก่เลขาธิการ ป.ป.ง. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานกรรมการธุรกรรมนั้น ทางราชการได้กำหนดให้เงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตามนัยมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ในอัตราเดือนละ 30,000 บาท แล้ว โดยพิจารณาเห็นว่าเป็นตำแหน่งที่มีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบสูง ผู้ดำรงตำแหน่งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมีลักษณะเฉพาะแตกต่างจากตำแหน่งอื่นในระดับเดียวกัน ประกอบกับการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานกรรมการธุรกรรม เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติงานในตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. เมื่อเทียบกับกรรมการที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจจากหน่วยงานอื่นแล้ว เห็นควรกำหนดให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตรากึ่งหนี่งของอัตราค่าตอบแทนสำหรับกรรมการที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจได้รับ คือ 5,000 บาท และบวกเพิ่มในฐานะตำแหน่งประธานกรรมการอีกหนึ่งในสี่ของอัตราค่าตอบแทนที่ข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจอื่นได้รับอีก 2,500 บาท รวมได้รับเดือนละ 7,500 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับอัตราเงินเดือน เงินประจำตำแหน่งและค่าตอบแทนรายเดือนต่าง ๆ แล้ว ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ง. จะได้รับประโยชน์ตอบแทนในอัตรารวม ดังนี้
1) เงินเดือน เดือนละ 57,190 บาท (ขั้นสูงสุดของระดับ 11)
2) เงินประจำตำแหน่ง เดือนละ 14,500 บาท (อัตราตำแหน่งอธิบดี)
3) ค่าตอบแทน เดือนละ 6,500 บาท (ส่วนต่างของอัตราเงินประจำตำแหน่งที่ได้รับลดลง)
4) เงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ เดือนละ 30,000 บาท
5) ค่าตอบแทนกรรมการ ป.ป.ง. เดือนละ 2,000 บาท (ป.ป.ง. เสนอเดือนละ 4,000 บาท)
6) ค่าตอบแทนประธานกรรมการธุรกรรม เดือนละ 7,500 บาท (ป.ป.ง. เสนอเดือนละ
20,000 บาท)
รวม เดือนละ 117,690 บาท
2.4 หากเดือนใดไม่มีการประชุม หรือมีการประชุมแต่ไม่เข้าประชุม ให้งดจ่าย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 ธ.ค. 2543--
-สส-