ทำเนียบรัฐบาล--11 ม.ค.--รอยเตอร์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานข้อมูลการเบิกจ่ายเงินกู้
โครงการต่าง ๆ ที่ใช้เงินกู้จากต่างประเทศ สรุปได้ดังนี้
1. ภาพรวมของโครงการเงินกู้ที่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการในปีงบประมาณ 2542
ณ สิ้นปีงบประมาณ 2542 ภาครัฐมีโครงการเงินกู้จากต่างประเทศที่ยังอยู่ระหว่างการเบิกจ่ายรวมทั้งสิ้น
130โครงการ โดยมีวงเงินรวม 13,802 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จำแนกเป็น
ก) โครงการที่รัฐบาลกู้โดยตรง 54 โครงการ รวม 5,459 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ข) โครงการของรัฐวิสาหกิจ 76 โครงการ รวม 8,343 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รวม 130 โครงการ รวม 13,802 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ในจำนวนโครงการที่ยังอยู่ในระหว่างการเบิกจ่าย มีโครงการประเภท Structural Adjustment Loan
(SAL)หรือ Program Loan (PL) และโครงการลงทุน ดังนี้
ก) โครงการ SAL/PL 10 โครงการ รวม 2,298 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ข) โครงการลงทุน 120 โครงการ รวม 11,504 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รวม 130 โครงการ รวม 13,802 ล้านเหรียฯสหรัฐฯ
2. สถานะการเบิกจ่ายโดยรวม
ในปีงบประมาณ 2542 มีการเบิกจ่ายโดยรวมเมื่อเปรียบเทียบกับปีงบประมาณก่อน ๆ จะพบว่ามีอัตราการ
เบิกจ่ายที่เพิ่มขึ้น ดังนี้
การเบิกจ่ายโดยรวมในปีงบประมาณ 2540 - 2542
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปีงบประมาณ 2540 2541 2542
วงเงินกู้สะสมรัฐบาลกู้ตรง 2,753 4,299 5,459
เบิกจ่าย 385 1,699 1,760
%เบิกจ่าย 14% 40% 32%
วงเงินกู้สะสมของรัฐวิสาหกิจ 7,596 7,444 8,343
เบิกจ่าย 2,267 1,203 2,241
%เบิกจ่าย 30% 16% 27%
รวม 10,349 11,743 3,802
เบิกจ่าย 2,652 2,902 14,001
%เบิกจ่าย 26% 25% 29%
3. โครงการที่ดำเนินการเรียบร้อยแล้วและโครงการที่ผูกพันใหม่ในปีงบประมาณ 2542
3.1 โครงการที่ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว คือ โครงการที่เบิกจ่ายเสร็จสิ้นระหว่างปีงบประมาณ 2542
ซึ่งมีดังนี้
1) โครงการในแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศประจำปีงบประมาณ 2542 จำนวน 6 โครงการ
ประกอบด้วย
- โครงการ SAL ภายใต้มาตรการเพิ่มค่าใช้จ่ายภาครัฐ 3 โครงการ
- โครงการของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย 3 โครกงาร
2) โครงการก่อนแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศประจำปีงบประมาณ 2542 จำนวน 16 โครงการ
ประกอบด้วย
- โครงการ SAL 2 โครงการ
- โครงการของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม 3 โครงการ
- โครงการของกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย 1 โครงการ
- โครงการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 4 โครงการ
- โครงการของการรถไฟแห่งประเทศไทย 2 โครงการ
- โครงการขององค์การรถไฟฟ้ามหานคร 1 โครงการ
- โครงการของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าฯ 1 โครงการ
- โครงการขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย 1 โครงการ
- โครงการของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมฯ 1 โครงการ
3.2 โครงการที่ผูกพันใหม่ ได้แก่ โครงการที่ลงนามในปีงบประมาณ 2542 มีจำนวนทั้งสิ้น 16 โครงการ คือ
1) โครงการของส่วนราชการ 9 โครงการ ซึ่งประกอบด้วยโครงการ SAL 5 โครงการ และโครงการ
ลงทุน4 โครงการ
2) โครงการของรัฐวิสาหกิจ 7 โครงการ
4. การเบิกจ่ายโครงการลงทุน
โครงการลงทุน (ที่ไม่ใช่โครงการ SAL) มี 120 โครงการ มียอดวงเงินจำนวน 11,504 ล้านเหรียญ
สหรัฐฯ และเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2542 เป็นเงิน 2,533 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งพบว่าในปีงบประมาณ 2542 การเบิกจ่าย
ของโครงการลงทุนโดยทั่วไปดีขึ้นมากกว่าปีงบประมาณที่ผ่านมาจาก 15% ในปีงบประมาณ 2541 เป็น 22% ในปีงบประมาณ 2542
- โครงกาลงทุนที่ดำเนินการโดยส่วนราชการในปีงบประมาณ 2542 มีการเบิกจ่ายในจำนวนเงินเท่ากับปี
งบประมาณ2541 แต่ในอัตราต่อวงเงินที่มีอยู่ลดลงจาก 11% เป็น 9%
- โครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจดีขึ้นมากจาก 16% ในปีงบประมาณ 2541 เป็น 27% ในปีงบประมาณ 2542
5. การพิจารณาโครงการที่มีศักยภาพการเบิกจ่ายต่ำ
จากการตรวจสอบข้อมูลการเบิกจ่ายโครงการ มีโครงการอยู่ระหว่างการเบิกจ่ายจำนวน 130 โครงการ และ
มีโครงการที่มีการเบิกจ่ายต่ำกว่าเกณฑ์ จำนวน 50 โครงการ คิดเป็น 38% ของโครงการทั้งหมด ซึ่งต่ำกว่าปี 2541 เมื่อทำการ
ประเมินในเดือนมิถุนายน 2542 ซึ่งพบว่าในปี 2541 มีโครงการที่เบิกจ่ายต่ำมีจำนวน 73 โครงการ
จากข้อมูลข้างต้น ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ดำเนินโครงการ โดยมีการเบิกจ่ายต่ำกว่า
มาตรฐาน สามารถสรุปได้ ดังนี้
ส่วนราชการ โครงการ อัตราการเบิกจ่าย
กรมทางหลวง 6 50%
กรมโยธาธิการ 6 9%
ทบวงมหาวิทยาลัย 2 6%
กระทรวงศึกษาธิการ 2 9%
รัฐวิสาหกิจ/สถาบันการเงินเฉพาะกิจ โครงการ อัตราการเบิกจ่าย
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 5 10%
การรถไฟแห่งประเทศไทย 4 26%
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 4 9%
การประปาส่วนภูมิภาค 4 37%
เมื่อจำแนกโครงการที่เบิกจ่ายต่ำตามแหล่งเงินกู้ จะพบว่าโครงการที่ใช้เงินกู้จาก OECF มีอัตราการเบิกจ่าย
ต่ำสูงสุดถึง 32 โครงการ คิดเป็น 64% ของจำนวนโครงการที่เบิกจ่ายต่ำทั้งหมด 50 โครงการ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ
โครงการ OECF ไม่มีค่า Commitment Charge อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดตามอัตราของโครงการของแต่ละแหล่งแล้ว พบว่า
จำนวนโครงการที่การเบิกจ่ายต่ำมีอัตราใกล้เคียงกันระหว่างโครงการ OECF และ ADB ที่ 47% โครงการ ธนาคารโลก
35% และ J.EXIM และแหล่งอื่น ๆ ที่ 18% จากจำนวนโครงการของแต่ละแหล่งเงินกู้
6. ปัจจัยสำคัญเป็นเหตุผลให้มีการเบิกจ่ายต่ำ ปัจจัยที่ทำให้มีการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่ำบางโครงการอาจจำแนกได้
ดังนี้
6.1 ความพร้อม (Quality at Entry) 13 โครงการ : การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างล่าช้า ประกวด
ราคาล่าช้าหน่วยงานไม่มีประสบการณ์เงินกู้จากต่างประเทศ
6.2 ปัจจัยภายใน 16 โครงการ : สัญญาไม่พร้อม การเปลี่ยนแปลงโครงการ เปลี่ยนแปลงแบบและรูป
แบบอุปกรณ์เหลือในสต็อก งบประมาณสมทบ
6.3 ปัจจัยภายนอก 21 โครงการ : ผลกระทบจากภาวะวิกฤต ผู้รับเหมาส่งงานช้า ผู้รับเหมามีปัญหาการ
เงินการปรับลดอุปสงค์และแผนพัฒนา ปัญหาเวนคืนที่ดินและแนวผังเมือง ปัญหาจากแหล่งเงิน รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้าง ต้นทุน
กู้สูงทำให้ปล่อยกู้ต่อไม่ได้
7. มาตรการเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่าย
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่าการเบิกจ่ายเงินที่ล่าช้าจะมีผลต่อการดำเนินโครงการ และมีผลเกี่ยว
เนื่องต่อแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมกันนี้ขอนำเสนอมาตรการที่จะเร่งรัดการเบิกจ่าย ดังนี้
7.1 กระทรวงการคลังจะมีหนังสือเร่งรัดหน่วยงานให้เบิกจ่ายตามแผนการเบิกจ่ายสำหรับโครงการที่มีการ
เบิกจ่ายต่ำ
7.2 สำหรับหน่วยงานที่มีจำนวนโครงการที่มีการเบิกจ่ายต่ำเป็นจำนวนหลายโครงการ กระทรวงการคลัง
จะเชิญหน่วยงานเจ้าของโครงการมาสอบถามสาเหตุการเบิกจ่ายล่าช้าในโครงการที่มีการเบิกจ่ายต่ำ และหารือถึงมาตรการ
ที่จะเร่งรัดการเบิกจ่ายต่อไป
7.3 สำหรับโครงการที่ได้มีการเบิกจ่ายล่าช้ามานาน ก็จะดำเนินการยกเลิกวงเงินที่เหลือหรือปรับโครงสร้าง
โครงการโดยร่วมดำเนินการกับแหล่งเงินกู้
7.4 กระทรวงการคลังจะปรับปรุงระบบติดตามการดำเนินโครงการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และจะมีรายงาน
เพื่อให้คณะกรรมการนโยบายหนี้ของประเทศทราบความก้าวหน้าของการเบิกจ่ายเป็นระยะ ๆ โดยขณะนี้ได้รับความช่วยเหลือ
จากธนาคารโลกเพื่อปรับปรุงวิธีการติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 มกราคม 2543--
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานข้อมูลการเบิกจ่ายเงินกู้
โครงการต่าง ๆ ที่ใช้เงินกู้จากต่างประเทศ สรุปได้ดังนี้
1. ภาพรวมของโครงการเงินกู้ที่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการในปีงบประมาณ 2542
ณ สิ้นปีงบประมาณ 2542 ภาครัฐมีโครงการเงินกู้จากต่างประเทศที่ยังอยู่ระหว่างการเบิกจ่ายรวมทั้งสิ้น
130โครงการ โดยมีวงเงินรวม 13,802 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จำแนกเป็น
ก) โครงการที่รัฐบาลกู้โดยตรง 54 โครงการ รวม 5,459 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ข) โครงการของรัฐวิสาหกิจ 76 โครงการ รวม 8,343 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รวม 130 โครงการ รวม 13,802 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ในจำนวนโครงการที่ยังอยู่ในระหว่างการเบิกจ่าย มีโครงการประเภท Structural Adjustment Loan
(SAL)หรือ Program Loan (PL) และโครงการลงทุน ดังนี้
ก) โครงการ SAL/PL 10 โครงการ รวม 2,298 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ข) โครงการลงทุน 120 โครงการ รวม 11,504 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รวม 130 โครงการ รวม 13,802 ล้านเหรียฯสหรัฐฯ
2. สถานะการเบิกจ่ายโดยรวม
ในปีงบประมาณ 2542 มีการเบิกจ่ายโดยรวมเมื่อเปรียบเทียบกับปีงบประมาณก่อน ๆ จะพบว่ามีอัตราการ
เบิกจ่ายที่เพิ่มขึ้น ดังนี้
การเบิกจ่ายโดยรวมในปีงบประมาณ 2540 - 2542
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปีงบประมาณ 2540 2541 2542
วงเงินกู้สะสมรัฐบาลกู้ตรง 2,753 4,299 5,459
เบิกจ่าย 385 1,699 1,760
%เบิกจ่าย 14% 40% 32%
วงเงินกู้สะสมของรัฐวิสาหกิจ 7,596 7,444 8,343
เบิกจ่าย 2,267 1,203 2,241
%เบิกจ่าย 30% 16% 27%
รวม 10,349 11,743 3,802
เบิกจ่าย 2,652 2,902 14,001
%เบิกจ่าย 26% 25% 29%
3. โครงการที่ดำเนินการเรียบร้อยแล้วและโครงการที่ผูกพันใหม่ในปีงบประมาณ 2542
3.1 โครงการที่ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว คือ โครงการที่เบิกจ่ายเสร็จสิ้นระหว่างปีงบประมาณ 2542
ซึ่งมีดังนี้
1) โครงการในแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศประจำปีงบประมาณ 2542 จำนวน 6 โครงการ
ประกอบด้วย
- โครงการ SAL ภายใต้มาตรการเพิ่มค่าใช้จ่ายภาครัฐ 3 โครงการ
- โครงการของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย 3 โครกงาร
2) โครงการก่อนแผนการก่อหนี้จากต่างประเทศประจำปีงบประมาณ 2542 จำนวน 16 โครงการ
ประกอบด้วย
- โครงการ SAL 2 โครงการ
- โครงการของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม 3 โครงการ
- โครงการของกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย 1 โครงการ
- โครงการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 4 โครงการ
- โครงการของการรถไฟแห่งประเทศไทย 2 โครงการ
- โครงการขององค์การรถไฟฟ้ามหานคร 1 โครงการ
- โครงการของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าฯ 1 โครงการ
- โครงการขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย 1 โครงการ
- โครงการของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมฯ 1 โครงการ
3.2 โครงการที่ผูกพันใหม่ ได้แก่ โครงการที่ลงนามในปีงบประมาณ 2542 มีจำนวนทั้งสิ้น 16 โครงการ คือ
1) โครงการของส่วนราชการ 9 โครงการ ซึ่งประกอบด้วยโครงการ SAL 5 โครงการ และโครงการ
ลงทุน4 โครงการ
2) โครงการของรัฐวิสาหกิจ 7 โครงการ
4. การเบิกจ่ายโครงการลงทุน
โครงการลงทุน (ที่ไม่ใช่โครงการ SAL) มี 120 โครงการ มียอดวงเงินจำนวน 11,504 ล้านเหรียญ
สหรัฐฯ และเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 2542 เป็นเงิน 2,533 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งพบว่าในปีงบประมาณ 2542 การเบิกจ่าย
ของโครงการลงทุนโดยทั่วไปดีขึ้นมากกว่าปีงบประมาณที่ผ่านมาจาก 15% ในปีงบประมาณ 2541 เป็น 22% ในปีงบประมาณ 2542
- โครงกาลงทุนที่ดำเนินการโดยส่วนราชการในปีงบประมาณ 2542 มีการเบิกจ่ายในจำนวนเงินเท่ากับปี
งบประมาณ2541 แต่ในอัตราต่อวงเงินที่มีอยู่ลดลงจาก 11% เป็น 9%
- โครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจดีขึ้นมากจาก 16% ในปีงบประมาณ 2541 เป็น 27% ในปีงบประมาณ 2542
5. การพิจารณาโครงการที่มีศักยภาพการเบิกจ่ายต่ำ
จากการตรวจสอบข้อมูลการเบิกจ่ายโครงการ มีโครงการอยู่ระหว่างการเบิกจ่ายจำนวน 130 โครงการ และ
มีโครงการที่มีการเบิกจ่ายต่ำกว่าเกณฑ์ จำนวน 50 โครงการ คิดเป็น 38% ของโครงการทั้งหมด ซึ่งต่ำกว่าปี 2541 เมื่อทำการ
ประเมินในเดือนมิถุนายน 2542 ซึ่งพบว่าในปี 2541 มีโครงการที่เบิกจ่ายต่ำมีจำนวน 73 โครงการ
จากข้อมูลข้างต้น ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ดำเนินโครงการ โดยมีการเบิกจ่ายต่ำกว่า
มาตรฐาน สามารถสรุปได้ ดังนี้
ส่วนราชการ โครงการ อัตราการเบิกจ่าย
กรมทางหลวง 6 50%
กรมโยธาธิการ 6 9%
ทบวงมหาวิทยาลัย 2 6%
กระทรวงศึกษาธิการ 2 9%
รัฐวิสาหกิจ/สถาบันการเงินเฉพาะกิจ โครงการ อัตราการเบิกจ่าย
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 5 10%
การรถไฟแห่งประเทศไทย 4 26%
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 4 9%
การประปาส่วนภูมิภาค 4 37%
เมื่อจำแนกโครงการที่เบิกจ่ายต่ำตามแหล่งเงินกู้ จะพบว่าโครงการที่ใช้เงินกู้จาก OECF มีอัตราการเบิกจ่าย
ต่ำสูงสุดถึง 32 โครงการ คิดเป็น 64% ของจำนวนโครงการที่เบิกจ่ายต่ำทั้งหมด 50 โครงการ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ
โครงการ OECF ไม่มีค่า Commitment Charge อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดตามอัตราของโครงการของแต่ละแหล่งแล้ว พบว่า
จำนวนโครงการที่การเบิกจ่ายต่ำมีอัตราใกล้เคียงกันระหว่างโครงการ OECF และ ADB ที่ 47% โครงการ ธนาคารโลก
35% และ J.EXIM และแหล่งอื่น ๆ ที่ 18% จากจำนวนโครงการของแต่ละแหล่งเงินกู้
6. ปัจจัยสำคัญเป็นเหตุผลให้มีการเบิกจ่ายต่ำ ปัจจัยที่ทำให้มีการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่ำบางโครงการอาจจำแนกได้
ดังนี้
6.1 ความพร้อม (Quality at Entry) 13 โครงการ : การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างล่าช้า ประกวด
ราคาล่าช้าหน่วยงานไม่มีประสบการณ์เงินกู้จากต่างประเทศ
6.2 ปัจจัยภายใน 16 โครงการ : สัญญาไม่พร้อม การเปลี่ยนแปลงโครงการ เปลี่ยนแปลงแบบและรูป
แบบอุปกรณ์เหลือในสต็อก งบประมาณสมทบ
6.3 ปัจจัยภายนอก 21 โครงการ : ผลกระทบจากภาวะวิกฤต ผู้รับเหมาส่งงานช้า ผู้รับเหมามีปัญหาการ
เงินการปรับลดอุปสงค์และแผนพัฒนา ปัญหาเวนคืนที่ดินและแนวผังเมือง ปัญหาจากแหล่งเงิน รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้าง ต้นทุน
กู้สูงทำให้ปล่อยกู้ต่อไม่ได้
7. มาตรการเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่าย
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่าการเบิกจ่ายเงินที่ล่าช้าจะมีผลต่อการดำเนินโครงการ และมีผลเกี่ยว
เนื่องต่อแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมกันนี้ขอนำเสนอมาตรการที่จะเร่งรัดการเบิกจ่าย ดังนี้
7.1 กระทรวงการคลังจะมีหนังสือเร่งรัดหน่วยงานให้เบิกจ่ายตามแผนการเบิกจ่ายสำหรับโครงการที่มีการ
เบิกจ่ายต่ำ
7.2 สำหรับหน่วยงานที่มีจำนวนโครงการที่มีการเบิกจ่ายต่ำเป็นจำนวนหลายโครงการ กระทรวงการคลัง
จะเชิญหน่วยงานเจ้าของโครงการมาสอบถามสาเหตุการเบิกจ่ายล่าช้าในโครงการที่มีการเบิกจ่ายต่ำ และหารือถึงมาตรการ
ที่จะเร่งรัดการเบิกจ่ายต่อไป
7.3 สำหรับโครงการที่ได้มีการเบิกจ่ายล่าช้ามานาน ก็จะดำเนินการยกเลิกวงเงินที่เหลือหรือปรับโครงสร้าง
โครงการโดยร่วมดำเนินการกับแหล่งเงินกู้
7.4 กระทรวงการคลังจะปรับปรุงระบบติดตามการดำเนินโครงการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และจะมีรายงาน
เพื่อให้คณะกรรมการนโยบายหนี้ของประเทศทราบความก้าวหน้าของการเบิกจ่ายเป็นระยะ ๆ โดยขณะนี้ได้รับความช่วยเหลือ
จากธนาคารโลกเพื่อปรับปรุงวิธีการติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 มกราคม 2543--