คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ให้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (ฝ่ายไทย) เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐบาลไทยได้ตกลงกับรัฐบาลกัมพูชาไว้ในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน เกี่ยวกับให้มีคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย - กัมพูชา และให้การดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ฉบับลงวันที่ 18 มิถุนายน 2544 โดยคณะกรรมการดังกล่าวมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน (ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชาที่เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นายซก อัน ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคของแต่ละฝ่าย) ผู้อำนวยการกองกฎหมาย กรมสนธิสัญญาและกฎหมายเป็นกรรมการและเลขานุการ และมีกรรมการอื่นอีก 10 คน โดยมีอำนาจหน้าที่เจรจาแบ่งเขตทางทะเลในพื้นที่ทับซ้อนไทย - กัมพูชา ที่กำหนดให้มีการแบ่งเขตทางทะเลบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง และเจรจาในส่วนที่เกี่ยวกับการพัฒนาร่วม โดยเฉพาะการแบ่งปันผลประโยชน์ในพื้นที่พัฒนาร่วม รวมทั้งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยปฏิบัติงานตามความเหมาะสม
สำหรับคณะอนุกรรมการที่อาจมีการจัดตั้งขึ้น (ตามข้อ 4 ของบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับลงวันที่ 18มิถุนายน 2544) ได้แก่ คณะอนุกรรมการกำหนดรูปแบบการพัฒนาร่วม เพื่อพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์เงื่อนไขของสัญญาหรือสัมปทานปิโตรเลียม และยกร่างรูปแบบการบริหารและการจัดการที่จะนำมาใช้ในการสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมในเขตพื้นที่พัฒนาร่วมไทย - กัมพูชา โดยคณะอนุกรรมการฯ (ฝ่ายไทย) จะมีอธิบดีกรมทรัพยากรธรณีเป็นประธาน และประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรมทรัพยากรธรณี กรมศุลกากร กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ในระหว่างการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 - 19 มิถุนายน 2544 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นายซก อัน รัฐมนตรีอาวุโสประธานการปิโตรเลียมแห่งชาติกัมพูชาได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ฉบับลงวันที่ 18 มิถุนายน 2544 ซึ่งบันทึกความเข้าใจดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ เร่งรัดการเจรจาเพื่อ
1. จัดทำความตกลงสำหรับการพัฒนาร่วมทรัพยากรปิโตรเลียมซึ่งอยู่ในพื้นที่ทับซ้อนที่กำหนดให้มีการพัฒนาร่วม
2. ตกลงแบ่งเขตทางทะลในพื้นที่ทับซ้อนที่กำหนดให้มีการแบ่งเขตทางทะเลบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
การดำเนินการดังกล่าว จะทำให้ลักษณะที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันให้มีคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย - กัมพูชา ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ของไทยและกัมพูชา ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากแต่ละประเทศแยกต่างหากจากกัน เพื่อดำเนินการให้ภารกิจในสองข้อข้างต้นสำเร็จลุล่วงโดยเร็ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 ก.ย.44--
-สส-
สำหรับคณะอนุกรรมการที่อาจมีการจัดตั้งขึ้น (ตามข้อ 4 ของบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับลงวันที่ 18มิถุนายน 2544) ได้แก่ คณะอนุกรรมการกำหนดรูปแบบการพัฒนาร่วม เพื่อพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์เงื่อนไขของสัญญาหรือสัมปทานปิโตรเลียม และยกร่างรูปแบบการบริหารและการจัดการที่จะนำมาใช้ในการสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมในเขตพื้นที่พัฒนาร่วมไทย - กัมพูชา โดยคณะอนุกรรมการฯ (ฝ่ายไทย) จะมีอธิบดีกรมทรัพยากรธรณีเป็นประธาน และประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรมทรัพยากรธรณี กรมศุลกากร กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ในระหว่างการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 - 19 มิถุนายน 2544 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ นายซก อัน รัฐมนตรีอาวุโสประธานการปิโตรเลียมแห่งชาติกัมพูชาได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ฉบับลงวันที่ 18 มิถุนายน 2544 ซึ่งบันทึกความเข้าใจดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ เร่งรัดการเจรจาเพื่อ
1. จัดทำความตกลงสำหรับการพัฒนาร่วมทรัพยากรปิโตรเลียมซึ่งอยู่ในพื้นที่ทับซ้อนที่กำหนดให้มีการพัฒนาร่วม
2. ตกลงแบ่งเขตทางทะลในพื้นที่ทับซ้อนที่กำหนดให้มีการแบ่งเขตทางทะเลบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
การดำเนินการดังกล่าว จะทำให้ลักษณะที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันให้มีคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย - กัมพูชา ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ของไทยและกัมพูชา ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากแต่ละประเทศแยกต่างหากจากกัน เพื่อดำเนินการให้ภารกิจในสองข้อข้างต้นสำเร็จลุล่วงโดยเร็ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 ก.ย.44--
-สส-