คณะรัฐมนตรีพิจารณาการตรากฎหมายเกี่ยวกับการจัดองค์กรบริหารกิจการระบบขนส่งมวลชนตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ แล้วมีมติเห็นชอบในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์กรบริหารกิจการระบบขนส่งมวลชน (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้ปรับปรุงแก้ไขสาระสำคัญให้เหมาะสมและให้รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจาณาด้วย
ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีสาระสำคัญดังนี้
1. จัดตั้งองค์กรบริหารกิจการระบบขนส่งมวลชน เป็นองค์การมหาชน มีวัตถุประสงค์และอำนาจ หน้าที่ดังนี้
(1) วางแผนและเสนอแนะนโยบายกิจการระบบขนส่งมวลชนต่อคณะรัฐมนตรี
(2) ดำเนินการระดมเงินทุนด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ การออกพันธบัตรหรือตราสารการเงิน การลงทุนในตราสารการเงิน การร่วมลงทุน หรือการอื่นใดเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทุน
(3) จัดสร้างและดำเนินการระบบขนส่งมวลชนที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย โดยจะดำเนินการเองหรือมอบหมายให้หน่วยงานอื่นของรัฐหรือให้สัมปทานเอกชนก็ได้
(4) กำหนดหลักเกณฑ์การให้บริการที่มีมาตรฐานและเป็นธรรม โดยดำเนินการให้มีการเชื่อมต่อโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทั้งระบบ
2. การบริหารองค์กร ประกอบด้วย
(1) คณะกรรมการบริหาร ประกอบด้วย กรรมการโดยตำแหน่งและผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบายและควบคุมการปฏิบัติงานขององค์กร
(2) ผู้อำนวยการองค์กร เป็นบุคลากรตามสัญญาจ้างที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการบริหาร ทำหน้าที่ดำเนินกิจการตามอำนาจหน้าที่ขององค์กร
ในการบริหารองค์กรต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด และต้องปฏิบัติตามแนวทาง ที่คณะกรรมการอำนวยการโครงการระบบขนส่งมวลชน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งกำหนดด้วย
3. ทุนและทรัพย์สินขององค์กร
(1) เงินที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความเหมาะสม
(2) เงินที่ได้จากการระดมเงินทุน
(3) ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ หรือรายได้จากการดำเนินกิจการ รวมทั้งเงินที่ได้รับจากการจัดสรรจากภาษีอากรหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ
(4) เงินอุดหนุนอื่นจากรัฐหรือเอกชน หรือที่มีผู้อุทิศให้
4. กองทุนพัฒนาระบบขนส่งมวลชน
เป็นการจัดตั้งกองทุนเพื่อนำรายได้ขององค์กรมารวมไว้ และใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างและดำเนินกิจการระบบขนส่งมวลชน รวมทั้งสนับสนุนระบบขนส่งอื่น ซึ่งจะอยู่ในความควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงินกองทุนโดยคณะกรรมการบริหาร
5. การสนับสนุนการดำเนินงาน
(1) องค์กรอาจร้องขอให้คณะรัฐมนตรีกำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการระบบขนส่งมวลชน เพื่อเป็นหลักเกณฑ์กลางให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติที่สอดคล้องกับนโยบายโครงข่ายระบบขนส่งมวลชน
(2) องค์กรอาจขอรับการสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรีในด้านการยกเว้นภาษีอากร หรือการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม เพื่อจูงใจการลงทุนหรือเป็นรายได้ของกองทุน ซึ่งหากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีผลบังคับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ความสนับสนุนตามอำนาจหน้าที่
6. การกำกับดูแล
(1) นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกามีอำนาจกำกับดูแลการดำเนินกิจการขององค์กรให้เป็นไปตามกฎหมาย นโยบาย หรือมติคณะรัฐมนตรี
(2) ให้มีคณะกรรมการกำกับการบริหารกิจการระบบขนส่งมวลชน เป็นคณะกรรมการอิสระที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ใช้บริการ ผู้ลงทุน และผู้เชี่ยวชาญ ทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินกิจการขององค์กรให้โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ เพื่อรายงานต่อคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี คณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง เพื่ออำนวยการ โครงการระบบขนส่งมวลชนและคณะกรรมการบริหาร
7. บทเฉพาะกาล
ในวาระเริ่มแรกให้คณะกรรมการอำนวยการโครงการระบบขนส่งมวลชนที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง ทำหน้าที่คณะกรรมการบริหารเป็นการชั่วคราวในระหว่างที่ยังไม่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร
ทั้งนี้ การจัดตั้งองค์การบริหารกิจการระบบขนส่งมวลชนขึ้น จะทำให้มีหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทั้งระบบ และสามารถดำเนินการจัดให้มีระบบขนส่งมวลชนที่เป็นโครงข่ายมีความเชื่อมโยงกันทั้งระบบขนส่งมวลชนและการขนส่งอื่น ๆ โดยมีการระดมเงินทุนเพื่อประหยัดงบประมาณแผ่นดินที่จะใช้ในการก่อสร้าง ซึ่งหากดำเนินการได้โดยเร็ว จะทำให้มีระบบขนส่งมวลชนที่สามารถให้บริการแก่ประชาชนจำนวนมากที่จะได้รับความสะดวกในการเดินทาง อันเป็นการดำเนินการโดยมีความมุ่งหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะ และจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาประเทศโดยส่วนรวมต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 ตุลาคม 2548--จบ--
ร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีสาระสำคัญดังนี้
1. จัดตั้งองค์กรบริหารกิจการระบบขนส่งมวลชน เป็นองค์การมหาชน มีวัตถุประสงค์และอำนาจ หน้าที่ดังนี้
(1) วางแผนและเสนอแนะนโยบายกิจการระบบขนส่งมวลชนต่อคณะรัฐมนตรี
(2) ดำเนินการระดมเงินทุนด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ การออกพันธบัตรหรือตราสารการเงิน การลงทุนในตราสารการเงิน การร่วมลงทุน หรือการอื่นใดเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทุน
(3) จัดสร้างและดำเนินการระบบขนส่งมวลชนที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย โดยจะดำเนินการเองหรือมอบหมายให้หน่วยงานอื่นของรัฐหรือให้สัมปทานเอกชนก็ได้
(4) กำหนดหลักเกณฑ์การให้บริการที่มีมาตรฐานและเป็นธรรม โดยดำเนินการให้มีการเชื่อมต่อโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทั้งระบบ
2. การบริหารองค์กร ประกอบด้วย
(1) คณะกรรมการบริหาร ประกอบด้วย กรรมการโดยตำแหน่งและผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบายและควบคุมการปฏิบัติงานขององค์กร
(2) ผู้อำนวยการองค์กร เป็นบุคลากรตามสัญญาจ้างที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการบริหาร ทำหน้าที่ดำเนินกิจการตามอำนาจหน้าที่ขององค์กร
ในการบริหารองค์กรต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด และต้องปฏิบัติตามแนวทาง ที่คณะกรรมการอำนวยการโครงการระบบขนส่งมวลชน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งกำหนดด้วย
3. ทุนและทรัพย์สินขององค์กร
(1) เงินที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความเหมาะสม
(2) เงินที่ได้จากการระดมเงินทุน
(3) ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ หรือรายได้จากการดำเนินกิจการ รวมทั้งเงินที่ได้รับจากการจัดสรรจากภาษีอากรหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ
(4) เงินอุดหนุนอื่นจากรัฐหรือเอกชน หรือที่มีผู้อุทิศให้
4. กองทุนพัฒนาระบบขนส่งมวลชน
เป็นการจัดตั้งกองทุนเพื่อนำรายได้ขององค์กรมารวมไว้ และใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างและดำเนินกิจการระบบขนส่งมวลชน รวมทั้งสนับสนุนระบบขนส่งอื่น ซึ่งจะอยู่ในความควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงินกองทุนโดยคณะกรรมการบริหาร
5. การสนับสนุนการดำเนินงาน
(1) องค์กรอาจร้องขอให้คณะรัฐมนตรีกำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการระบบขนส่งมวลชน เพื่อเป็นหลักเกณฑ์กลางให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติที่สอดคล้องกับนโยบายโครงข่ายระบบขนส่งมวลชน
(2) องค์กรอาจขอรับการสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรีในด้านการยกเว้นภาษีอากร หรือการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม เพื่อจูงใจการลงทุนหรือเป็นรายได้ของกองทุน ซึ่งหากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีผลบังคับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ความสนับสนุนตามอำนาจหน้าที่
6. การกำกับดูแล
(1) นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกามีอำนาจกำกับดูแลการดำเนินกิจการขององค์กรให้เป็นไปตามกฎหมาย นโยบาย หรือมติคณะรัฐมนตรี
(2) ให้มีคณะกรรมการกำกับการบริหารกิจการระบบขนส่งมวลชน เป็นคณะกรรมการอิสระที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ใช้บริการ ผู้ลงทุน และผู้เชี่ยวชาญ ทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินกิจการขององค์กรให้โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ เพื่อรายงานต่อคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี คณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง เพื่ออำนวยการ โครงการระบบขนส่งมวลชนและคณะกรรมการบริหาร
7. บทเฉพาะกาล
ในวาระเริ่มแรกให้คณะกรรมการอำนวยการโครงการระบบขนส่งมวลชนที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง ทำหน้าที่คณะกรรมการบริหารเป็นการชั่วคราวในระหว่างที่ยังไม่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร
ทั้งนี้ การจัดตั้งองค์การบริหารกิจการระบบขนส่งมวลชนขึ้น จะทำให้มีหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทั้งระบบ และสามารถดำเนินการจัดให้มีระบบขนส่งมวลชนที่เป็นโครงข่ายมีความเชื่อมโยงกันทั้งระบบขนส่งมวลชนและการขนส่งอื่น ๆ โดยมีการระดมเงินทุนเพื่อประหยัดงบประมาณแผ่นดินที่จะใช้ในการก่อสร้าง ซึ่งหากดำเนินการได้โดยเร็ว จะทำให้มีระบบขนส่งมวลชนที่สามารถให้บริการแก่ประชาชนจำนวนมากที่จะได้รับความสะดวกในการเดินทาง อันเป็นการดำเนินการโดยมีความมุ่งหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะ และจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาประเทศโดยส่วนรวมต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 ตุลาคม 2548--จบ--