คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบการปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 เพิ่มเติม แนวทางและหลักเกณฑ์การจัดสรรคืนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอดังนี้
1. การปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 เพิ่มเติม
การปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 เพิ่มเติม จำนวน 1,177.5 ล้านบาทมีสาระสำคัญของการปรับลดงบประมาณ ดังนี้
1) ครุภัณฑ์หรืออุปกรณ์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศและที่ไม่จำเป็น จำนวน 715.6 ล้านบาท
2) โครงการลงทุนขนาดใหญ่ปรับลด จำนวน 144.0 ล้านบาท ตามผลการประชุมพิจารณาทบทวนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2544 โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอทบทวนโครงการของการเคหะแห่งชาติ และการรถไฟแห่งประเทศไทย
3) ปรับลดงบประมาณของส่วนราชการต่าง ๆ เพิ่มเติมอีก จำนวน 317.9 ล้านบาท
2. แนวทางและหลักเกณฑ์การจัดสรรคืนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544
เพื่อให้การจัดสรรคืนงบประมาณส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานเป็นไปอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง)ได้ให้แนวทางไว้ตามหนังสือสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0114/ลด 1/6566 ลงวันที่ 4 เมษายน 2544สำนักงบประมาณจึงเห็นควรกำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์ในการจัดสรรคืน ดังนี้
วัตถุประสงค์ เพื่อนำงบประมาณปี 2544 ที่ปรับลดได้จำนวน 11,844.3 ล้านบาท ไปดำเนินการในงาน/โครงการและกิจกรรมของรัฐบาลตามนโยบายเร่งด่วนและนโยบายสำคัญที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนได้ทันที โดยมีเป้าหมายและจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน
แนวทางการดำเนินการ
1) นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
2) นโยบายสำคัญของรัฐบาลและการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- การจ้างงานเพื่อเพิ่มผลผลิตและการเพิ่มรายได้ให้กับภาคประชาชน
- การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
3) ค่าใช้จ่ายที่มีข้อผูกพันหรือมีความจำเป็นโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
หลักเกณฑ์การพิจารณา
1) นำวงเงินที่ปรับลดได้ไปใช้จ่ายตามแนวทางที่กำหนดภายในส่วนราชการฯ เดิม
2) ให้มีการส่งเสริมการคิดแผนงาน โครงการหรือกิจกรรมที่มีแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมในการสนองนโยบายใหม่ของรัฐบาลที่เป็นนโยบายเร่งด่วนและนโยบายสำคัญอย่างชัดเจน
3) เป็นกิจกรรมที่มีแบบรูปรายการ วิธีดำเนินงาน และกลุ่มเป้าหมายชัดเจน โดยหน่วยงานมีความพร้อมและมีขีดความสามารถในการดำเนินงานและสามารถเบิกจ่ายเงินได้โดยเร็ว
4) เป็นค่าใช้จ่ายที่มีข้อผูกพันหรือมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น เงินชดเชยค่าก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ซึ่งสำนักงบประมาณได้เวียนแจ้งตามหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ นร 0407/ว79ลงวันที่ 5 เมษายน 2544 หรือค่าก่อสร้างที่ดำเนินการได้เร็วกว่าที่กำหนด และงบประมาณที่จัดสรรไว้ไม่เพียงพอ เป็นต้น
5) ไม่เป็นงานประจำ งานปกติ หรือการเสริมงานปกติ ซึ่งไม่ส่งผลต่อกาารกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างชัดเจน
6) หลีกเลี่ยงการนำเข้าพัสดุจากต่างประเทศ หากมีความจำเป็นขอให้พิจารณาเฉพาะกรณีที่ก่อให้เกิดผลตอบแทนและการสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคการผลิตและบริการของประเทศ
7) ไม่เป็นการผูกพันงบประมาณข้ามปีและไม่เป็นผลให้ภาระรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในปีต่อ ๆ ไป
อนึ่ง สำหรับรายการค่าใช้จ่ายที่เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และรายการที่มีข้อผูกพันหรือมีความจำเป็นต้องจ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเป็นรายการที่ทราบวงเงินค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ชัดเจนและแน่นอนแล้ว เช่น การพักหนี้เกษตรกรรายย่อย การชำระค่าดอกเบี้ย และเงินต้นของกองทุนหมู่บ้าน ค่าใช้จ่ายกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เงินชดเชยค่าก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ประสบอุทกภัย เป็นต้น ขอให้พิจารณานำงบประมาณที่ปรับลดได้ไปจัดสรรคืนในรายการดังกล่าวข้างต้นเป็นอันดับแรกก่อน
3. ขั้นตอนในการเสนอขอจัดสรรคืนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ของส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงาน
1) ให้ส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานร่วมกับกระทรวงพิจารณาจัดทำคำขอการจัดสรรคืนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ตามแนวทางและหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น โดยเสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดและรัฐมนตรีช่วยฯ เพื่อพิจารณาและให้ความเห็นชอบ และส่งให้สำนักงบประมาณภายในวันศุกร์ที่ 13 เมษายน2544
2) ให้สำนักงบประมาณพิจารณาคำขอการจัดสรรคืนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ ในวันอังคารที่ 24 เมษายน 2544
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร)--วันที่ 10 เม.ย.2544
-สส-
1. การปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 เพิ่มเติม
การปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 เพิ่มเติม จำนวน 1,177.5 ล้านบาทมีสาระสำคัญของการปรับลดงบประมาณ ดังนี้
1) ครุภัณฑ์หรืออุปกรณ์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศและที่ไม่จำเป็น จำนวน 715.6 ล้านบาท
2) โครงการลงทุนขนาดใหญ่ปรับลด จำนวน 144.0 ล้านบาท ตามผลการประชุมพิจารณาทบทวนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2544 โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอทบทวนโครงการของการเคหะแห่งชาติ และการรถไฟแห่งประเทศไทย
3) ปรับลดงบประมาณของส่วนราชการต่าง ๆ เพิ่มเติมอีก จำนวน 317.9 ล้านบาท
2. แนวทางและหลักเกณฑ์การจัดสรรคืนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544
เพื่อให้การจัดสรรคืนงบประมาณส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานเป็นไปอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง)ได้ให้แนวทางไว้ตามหนังสือสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0114/ลด 1/6566 ลงวันที่ 4 เมษายน 2544สำนักงบประมาณจึงเห็นควรกำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์ในการจัดสรรคืน ดังนี้
วัตถุประสงค์ เพื่อนำงบประมาณปี 2544 ที่ปรับลดได้จำนวน 11,844.3 ล้านบาท ไปดำเนินการในงาน/โครงการและกิจกรรมของรัฐบาลตามนโยบายเร่งด่วนและนโยบายสำคัญที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนได้ทันที โดยมีเป้าหมายและจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน
แนวทางการดำเนินการ
1) นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
2) นโยบายสำคัญของรัฐบาลและการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- การจ้างงานเพื่อเพิ่มผลผลิตและการเพิ่มรายได้ให้กับภาคประชาชน
- การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
3) ค่าใช้จ่ายที่มีข้อผูกพันหรือมีความจำเป็นโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
หลักเกณฑ์การพิจารณา
1) นำวงเงินที่ปรับลดได้ไปใช้จ่ายตามแนวทางที่กำหนดภายในส่วนราชการฯ เดิม
2) ให้มีการส่งเสริมการคิดแผนงาน โครงการหรือกิจกรรมที่มีแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมในการสนองนโยบายใหม่ของรัฐบาลที่เป็นนโยบายเร่งด่วนและนโยบายสำคัญอย่างชัดเจน
3) เป็นกิจกรรมที่มีแบบรูปรายการ วิธีดำเนินงาน และกลุ่มเป้าหมายชัดเจน โดยหน่วยงานมีความพร้อมและมีขีดความสามารถในการดำเนินงานและสามารถเบิกจ่ายเงินได้โดยเร็ว
4) เป็นค่าใช้จ่ายที่มีข้อผูกพันหรือมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น เงินชดเชยค่าก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ซึ่งสำนักงบประมาณได้เวียนแจ้งตามหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ นร 0407/ว79ลงวันที่ 5 เมษายน 2544 หรือค่าก่อสร้างที่ดำเนินการได้เร็วกว่าที่กำหนด และงบประมาณที่จัดสรรไว้ไม่เพียงพอ เป็นต้น
5) ไม่เป็นงานประจำ งานปกติ หรือการเสริมงานปกติ ซึ่งไม่ส่งผลต่อกาารกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างชัดเจน
6) หลีกเลี่ยงการนำเข้าพัสดุจากต่างประเทศ หากมีความจำเป็นขอให้พิจารณาเฉพาะกรณีที่ก่อให้เกิดผลตอบแทนและการสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคการผลิตและบริการของประเทศ
7) ไม่เป็นการผูกพันงบประมาณข้ามปีและไม่เป็นผลให้ภาระรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในปีต่อ ๆ ไป
อนึ่ง สำหรับรายการค่าใช้จ่ายที่เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และรายการที่มีข้อผูกพันหรือมีความจำเป็นต้องจ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเป็นรายการที่ทราบวงเงินค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ชัดเจนและแน่นอนแล้ว เช่น การพักหนี้เกษตรกรรายย่อย การชำระค่าดอกเบี้ย และเงินต้นของกองทุนหมู่บ้าน ค่าใช้จ่ายกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เงินชดเชยค่าก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ประสบอุทกภัย เป็นต้น ขอให้พิจารณานำงบประมาณที่ปรับลดได้ไปจัดสรรคืนในรายการดังกล่าวข้างต้นเป็นอันดับแรกก่อน
3. ขั้นตอนในการเสนอขอจัดสรรคืนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ของส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงาน
1) ให้ส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานร่วมกับกระทรวงพิจารณาจัดทำคำขอการจัดสรรคืนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ตามแนวทางและหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น โดยเสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดและรัฐมนตรีช่วยฯ เพื่อพิจารณาและให้ความเห็นชอบ และส่งให้สำนักงบประมาณภายในวันศุกร์ที่ 13 เมษายน2544
2) ให้สำนักงบประมาณพิจารณาคำขอการจัดสรรคืนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ ในวันอังคารที่ 24 เมษายน 2544
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร)--วันที่ 10 เม.ย.2544
-สส-