คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ขอขยายระยะเวลาการจ้างครูอัตราจ้างชั่วคราวโรงเรียนในสังกัดกองการศึกษาสงเคราะห์ กรมสามัญศึกษา เพื่อจะทำให้การจัดการศึกษาเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพ เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนด้อยโอกาสให้ได้รับสิทธิเสมอภาคเท่าเทียมนักเรียนปกติ
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า ปัจจุบันโรงเรียนสังกัดกองการศึกษาสงเคราะห์ กรมสามัญศึกษามีจำนวนทั้งสิ้น 41 โรงเรียน เป็นโรงเรียนประจำ และไป - กลับ มีนักเรียนพิการเรียนร่วม จำนวน 14 โรงเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับมัธยมตอนปลาย รวมมีนักเรียนปกติ จำนวน 38,392 คน นักเรียนพิการเรียนร่วม จำนวน 642 คนมีครูปฏิบัติการสอนจริง จำนวน 1,496 คน ครูตามเกณฑ์ ก.ค. ครู : นักเรียน = 1 : 15 ดังนั้น จะต้องมีครู จำนวน 4,024 คน ฉะนั้นคงขาดครู จำนวน 2,530 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 62.87 การแก้ปัญหาโดยใช้อัตราจ้างชั่วคราว จำนวน 676 อัตรา ที่กรมสามัญศึกษาจัดสรรให้กับโรงเรียนเพื่อจ้างครูปฏิบัติการสอน นั้น โดยสภาพจริงแล้วก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมดเพราะภาระหน้าที่ของโรงเรียนมีมาก ครูอัตราจ้างไม่ได้ปฏิบัติการสอนเพียงอย่างเดียว ยังต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลนักเรียนประจำหอนอนและทำกิจกรรมของโรงเรียนเสมือนข้าราชการครู ดังนั้น บุคลากรประเภทนี้ต้องเสียสละ ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งด้านสติปัญญา ร่างกาย และสังคม แก่เด็กด้อยโอกาส และขณะนี้โรงเรียนประสบปัญหาครูอัตราจ้างลาออก โรงเรียนต้องเปิดรับใหม่ และที่สำคัญส่งผลกระทบต่อนักเรียนเกี่ยวกับการเรียนการสอนของนักเรียนได้รับอย่างไม่ต่อเนื่อง และหากปล่อยให้สภาพการณ์จัดการเรียนการสอนที่ไม่ต่อเนื่อง จะทำให้นักเรียนเกิดความเบี่อหน่ายต่อการเรียนเพราะนักเรียนและครูต้องมาปรับความเข้าใจและคุ้นเคยกันอยู่ตลอด
คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรอนุมัติเป็นกรณีพิเศษให้กรมสามัญศึกษาจ้างครูอัตราจ้างชั่วคราว เป็นระยะเวลา 12 เดือนต่อปี ได้ 3 ปีต่อเนื่อง ตั้งแต่ภาค 2 ของปีการศึกษา 2544 (เดือนตุลาคม 2544) เป็นต้นไป เพื่อให้ครูอัตราจ้างชั่วคราวมีความมั่นคงในอาชีพโดยไม่เปลี่ยนงานกลางคัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตว่า การแก้ปัญหาครูขาดแคลนโดยจ้างครูอัตราจ้างชั่วคราวนั้นไม่น่าจะเป็นวิธีที่ถูกต้อง เพราะจะมีการขยายการจ้างต่อไปเป็นระยะเวลาไม่มีการสิ้นสุด ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงควรกำหนดแนวทางแก้ไขโดยการให้กรมสามัญศึกษาดำเนินการเกลี่ยอัตราข้าราชการครูที่เกินในบางโรงเรียนลงในโรงเรียนที่ขาดครู หรือนำเสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐเพื่อขอกำหนดอัตราข้าราชการครูที่มีความขาดอยู่ ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวหรือจ้างบุคลากรในท้องถิ่น โดยมีสัญญาจ้าง 3 - 5 ปี เช่นเดียวกับลักษณะครูอาสาสมัครของกรมการศึกษานอกโรงเรียนในโอกาสต่อไป จะเหมาะสมกว่า
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 ส.ค.44--
-สส-
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า ปัจจุบันโรงเรียนสังกัดกองการศึกษาสงเคราะห์ กรมสามัญศึกษามีจำนวนทั้งสิ้น 41 โรงเรียน เป็นโรงเรียนประจำ และไป - กลับ มีนักเรียนพิการเรียนร่วม จำนวน 14 โรงเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับมัธยมตอนปลาย รวมมีนักเรียนปกติ จำนวน 38,392 คน นักเรียนพิการเรียนร่วม จำนวน 642 คนมีครูปฏิบัติการสอนจริง จำนวน 1,496 คน ครูตามเกณฑ์ ก.ค. ครู : นักเรียน = 1 : 15 ดังนั้น จะต้องมีครู จำนวน 4,024 คน ฉะนั้นคงขาดครู จำนวน 2,530 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 62.87 การแก้ปัญหาโดยใช้อัตราจ้างชั่วคราว จำนวน 676 อัตรา ที่กรมสามัญศึกษาจัดสรรให้กับโรงเรียนเพื่อจ้างครูปฏิบัติการสอน นั้น โดยสภาพจริงแล้วก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมดเพราะภาระหน้าที่ของโรงเรียนมีมาก ครูอัตราจ้างไม่ได้ปฏิบัติการสอนเพียงอย่างเดียว ยังต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลนักเรียนประจำหอนอนและทำกิจกรรมของโรงเรียนเสมือนข้าราชการครู ดังนั้น บุคลากรประเภทนี้ต้องเสียสละ ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งด้านสติปัญญา ร่างกาย และสังคม แก่เด็กด้อยโอกาส และขณะนี้โรงเรียนประสบปัญหาครูอัตราจ้างลาออก โรงเรียนต้องเปิดรับใหม่ และที่สำคัญส่งผลกระทบต่อนักเรียนเกี่ยวกับการเรียนการสอนของนักเรียนได้รับอย่างไม่ต่อเนื่อง และหากปล่อยให้สภาพการณ์จัดการเรียนการสอนที่ไม่ต่อเนื่อง จะทำให้นักเรียนเกิดความเบี่อหน่ายต่อการเรียนเพราะนักเรียนและครูต้องมาปรับความเข้าใจและคุ้นเคยกันอยู่ตลอด
คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรอนุมัติเป็นกรณีพิเศษให้กรมสามัญศึกษาจ้างครูอัตราจ้างชั่วคราว เป็นระยะเวลา 12 เดือนต่อปี ได้ 3 ปีต่อเนื่อง ตั้งแต่ภาค 2 ของปีการศึกษา 2544 (เดือนตุลาคม 2544) เป็นต้นไป เพื่อให้ครูอัตราจ้างชั่วคราวมีความมั่นคงในอาชีพโดยไม่เปลี่ยนงานกลางคัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตว่า การแก้ปัญหาครูขาดแคลนโดยจ้างครูอัตราจ้างชั่วคราวนั้นไม่น่าจะเป็นวิธีที่ถูกต้อง เพราะจะมีการขยายการจ้างต่อไปเป็นระยะเวลาไม่มีการสิ้นสุด ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงควรกำหนดแนวทางแก้ไขโดยการให้กรมสามัญศึกษาดำเนินการเกลี่ยอัตราข้าราชการครูที่เกินในบางโรงเรียนลงในโรงเรียนที่ขาดครู หรือนำเสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐเพื่อขอกำหนดอัตราข้าราชการครูที่มีความขาดอยู่ ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวหรือจ้างบุคลากรในท้องถิ่น โดยมีสัญญาจ้าง 3 - 5 ปี เช่นเดียวกับลักษณะครูอาสาสมัครของกรมการศึกษานอกโรงเรียนในโอกาสต่อไป จะเหมาะสมกว่า
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 21 ส.ค.44--
-สส-