ทำเนียบรัฐบาล--11 ก.ค.--นิวส์สแตนด์
การกำหนดท่าทีประเทศต่อการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษ เพื่อติดตามผลการประชุมสุดยอดว่าด้วยการพัฒนาสังคม
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้คณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษ เพื่อติดตามผลการประชุมสุดยอดว่าด้วยการพัฒนาสังคม ระหว่างวันที่ 26 - 30 มิถุนายน 2543 ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ สามารถใช้ดุลพินิจในการกำหนดท่าทีของประเทศไทยในการประชุมดังกล่าว ตามข้อเสนอของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2541 รับทราบข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้ใช้กลไกของคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเป็นประธาน และอธิบดีกรมประชาสงเคราะห์เป็นกรรมการและเลขานุการ เป็นแกนหลักในการประสานงานและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการพัฒนาสังคม ทั้งนี้ คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการแห่งชาติได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเตรียมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษขึ้น เพื่อพิจารณาท่าทีประเทศไทยในการประชุมดังกล่าว ซึ่งในภาพรวม ที่ประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ เห็นว่า ประเทศไทยสามารถให้การรับรองข้อผูกพันทั้ง 10 ประการได้ เพราะประเทศไทยมีความก้าวหน้าในการดำเนินงานทางด้านสังคม ทั้งการพัฒนาที่เน้นคนเป็นศูนย์กลางการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างจริงจัง การพัฒนาด้านสาธารณสุข การพัฒนาด้านการศึกษา การคุ้มครองและช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งการส่งเสริมการจ้างงานและการคุ้มครองแรงงาน อย่างไรก็ดี ยังมีเนื้อหาในข้อผูกพันบางข้อที่ยังไม่มีข้อยุติ ซึ่งคณะผู้แทนไทยฯ จะต้องพิจารณาตัดสินใจในการประชุมดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 ก.ค. 2543--
-สส-
การกำหนดท่าทีประเทศต่อการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษ เพื่อติดตามผลการประชุมสุดยอดว่าด้วยการพัฒนาสังคม
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้คณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษ เพื่อติดตามผลการประชุมสุดยอดว่าด้วยการพัฒนาสังคม ระหว่างวันที่ 26 - 30 มิถุนายน 2543 ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ สามารถใช้ดุลพินิจในการกำหนดท่าทีของประเทศไทยในการประชุมดังกล่าว ตามข้อเสนอของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2541 รับทราบข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้ใช้กลไกของคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเป็นประธาน และอธิบดีกรมประชาสงเคราะห์เป็นกรรมการและเลขานุการ เป็นแกนหลักในการประสานงานและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยการพัฒนาสังคม ทั้งนี้ คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการแห่งชาติได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเตรียมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษขึ้น เพื่อพิจารณาท่าทีประเทศไทยในการประชุมดังกล่าว ซึ่งในภาพรวม ที่ประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ เห็นว่า ประเทศไทยสามารถให้การรับรองข้อผูกพันทั้ง 10 ประการได้ เพราะประเทศไทยมีความก้าวหน้าในการดำเนินงานทางด้านสังคม ทั้งการพัฒนาที่เน้นคนเป็นศูนย์กลางการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างจริงจัง การพัฒนาด้านสาธารณสุข การพัฒนาด้านการศึกษา การคุ้มครองและช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งการส่งเสริมการจ้างงานและการคุ้มครองแรงงาน อย่างไรก็ดี ยังมีเนื้อหาในข้อผูกพันบางข้อที่ยังไม่มีข้อยุติ ซึ่งคณะผู้แทนไทยฯ จะต้องพิจารณาตัดสินใจในการประชุมดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 11 ก.ค. 2543--
-สส-