ขอความเห็นชอบการจัดสวัสดิการเบี้ยความพิการ

1. ให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) ดำเนินการแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยความพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2553 เพื่อให้คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการมีสิทธิได้รับเบี้ยความพิการทันที โดยไม่ต้องรอลงทะเบียนเพื่อขอรับเบี้ยความพิการในปีถัดไป

2. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงบประมาณ (สงป.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ดำเนินการตามหน้าที่และภารกิจเพื่อให้คนพิการทุกคนที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ ได้รับเบี้ยความพิการทันที ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559 เป็นต้นไป

สาระสำคัญของเรื่อง

พม. รายงานว่า

1. ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยความพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2553 กำหนดให้คนพิการที่ลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเบี้ยความพิการภายในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี และให้ได้รับเบี้ยความพิการในปีงบประมาณถัดไป ณ ที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือสถานที่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่ ซึ่งระเบียบดังกล่าวทำให้คนพิการที่มีบัตรแล้วไม่สามารถได้รับสิทธิเบี้ยความพิการได้ในทันทีและคนพิการจำนวนมากได้มีข้อร้องเรียนที่ไม่ได้รับสิทธิเมื่อมีบัตรคนพิการในทันที

2. ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 3/2558 เมื่อวันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม 2558 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย) เป็นประธานกรรมการ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้เสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้คนพิการทุกคนที่ได้รับการออกบัตรประจำตัวคนพิการ มีสิทธิได้รับเบี้ยความพิการทันที โดยไม่ต้องรอลงทะเบียนเพื่อรับเบี้ยความพิการในปีถัดไป โดยมีมติให้ มท. ดำเนินการแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยความพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2553 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาตามหน้าที่และภารกิจเพื่อให้คนพิการทุกคนที่มีบัตรประจำตัวคนพิการได้รับเบี้ยความพิการทันทีตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559 เป็นต้นไป

3. เมื่อมีการดำเนินการดังกล่าวแล้ว คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557-30 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งได้ลงทะเบียนขอรับเบี้ยความพิการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 และจะได้รับเบี้ยความพิการในปีงบประมาณ 2560 จำนวน 221,000 คน จะได้รับเบี้ยความพิการทันทีโดยไม่ต้องรอให้ถึงปีงบประมาณ 2560

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559--