คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (พลเอกชวลิตยงใจยุทธ) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานกรุงเทพ แห่งที่ 2 (กทก.) เสนอ สรุปผลการประชุมแก้ไขปัญหาการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2544 สรุปได้ดังต่อไปนี้
1. ได้มอบนโยบายที่สรุปได้จากความเห็นชอบของที่ประชุม ให้กระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) และบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) รับไปดำเนินการโดยเร่งด่วนบนหลักการและพื้นฐานที่โปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดังต่อไปนี้
1.1 ให้ บทม. บริหารและจัดการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนด และจัดให้มีงานพิธีเฉลิมฉลองใหญ่ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2547
1.2 ในกรณีที่ บทม. ไม่สามารถดำเนินการให้สนามบินสุวรรณภูมิเปิดบริการได้สมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2547 ให้ ทอท. ใช้แผน 2 ที่ได้เตรียมไว้แล้ว โดยใช้ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพที่ดอนเมือง รองรับผู้โดยสารไปก่อนอีก1 ปี ซึ่งพลอากาศเอก นิพนธ์ สาครเย็น ผู้ว่าการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ได้ยืนยันในที่ประชุมแล้วว่าสามารถกระทำได้จนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2548 โดยไม่กระทบต่อการสูญเสียความเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคของไทย ทั้งนี้ ให้ บทม.คงกำหนดการเรื่องพิธีเฉลิมฉลองในข้อ 1 ไว้โดยไม่เปลี่ยนแปลง
1.3 ให้ บทม. ใช้แบบก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินของกลุ่มบริษัท Murphy-Jahn, Inc., TAMS Consultants, Inc. และ ACT Consultants Co. Ltd. (MJTA) โดยให้ บทม. ประสานงานกับ MJTA ทำการปรับปรุงแก้ไขแบบให้มีสัดส่วนของการใช้วัสดุที่นำเข้าจากต่างประเทศน้อยกว่าวัสดุที่ผลิตได้ภายในประเทศในอัตราส่วนประมาณ 20 ต่อ 80 ตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการประหยัดเงินตราต่างประเทศและให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมในประเทศ ยกเว้นวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือและเครื่องกลตามมาตรฐานสากลที่ผลิตในประเทศไม่ได้ ทั้งนี้แบบของ MJTA ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วต้องมีราคาค่าก่อสร้างต่ำกว่างบประมาณที่กำหนดไว้
1.4 เมื่อ MJTA ปรับปรุงแก้ไขแบบเรียบร้อยแล้ว ให้ บทม. ส่งแบบของ MJTA ขอความเห็นชอบจากธนาคารที่จะให้เงินกู้ Japan Bank for International Cooperation (JBIC) โดยเร็ว และให้นำแบบที่แก้ไขแล้วนี้ออกประกวดราคาต่อไป
1.5 เพื่อให้การประกวดราคาค่าก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน ดำเนินไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรมอย่างชัดเจน จึงให้ บทม. ประกาศยกเลิกแบบที่ บทม. เรียกว่า Fall Back Design (Bid 2)โดยให้ผู้เข้าประกวดราคาเสนอราคาแบบของ MJTA (Bid 1) ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วเพียงแบบเดียว และให้ บทม. เชิญผู้รับเหมาก่อสร้างที่ผ่าน Pre-qualification (P.Q.) หรือผ่านการคัดเลือกรอบแรกจำนวน 9 ราย เข้าร่วมเสนอราคาใหม่
1.6 ในการประกวดราคาค่าก่อสร้าง ให้ บทม. ตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางค่าก่อสร้าง โดยให้นำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย
2. ให้กระทรวงคมนาคมและ บทม. กำหนดแผนดำเนินงานตามนโยบายโดยเร่งด่วนที่สุด หากงานส่วนใดที่สามารถดำเนินการเพื่อให้งานก่อสร้างรวดเร็วขึ้น ก็ให้ดำเนินการไป ทั้งนี้ ให้รายงานผลความคืบหน้าของการดำเนินงานให้ทราบทุกระยะด้วย12. เรื่อง สรุปผลการประชุมแก้ไขปัญหาการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (พลเอกชวลิตยงใจยุทธ) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานกรุงเทพ แห่งที่ 2 (กทก.) เสนอ สรุปผลการประชุมแก้ไขปัญหาการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2544 สรุปได้ดังต่อไปนี้
1. ได้มอบนโยบายที่สรุปได้จากความเห็นชอบของที่ประชุม ให้กระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) และบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) รับไปดำเนินการโดยเร่งด่วนบนหลักการและพื้นฐานที่โปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดังต่อไปนี้
1.1 ให้ บทม. บริหารและจัดการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนด และจัดให้มีงานพิธีเฉลิมฉลองใหญ่ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2547
1.2 ในกรณีที่ บทม. ไม่สามารถดำเนินการให้สนามบินสุวรรณภูมิเปิดบริการได้สมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2547 ให้ ทอท. ใช้แผน 2 ที่ได้เตรียมไว้แล้ว โดยใช้ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพที่ดอนเมือง รองรับผู้โดยสารไปก่อนอีก1 ปี ซึ่งพลอากาศเอก นิพนธ์ สาครเย็น ผู้ว่าการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ได้ยืนยันในที่ประชุมแล้วว่าสามารถกระทำได้จนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2548 โดยไม่กระทบต่อการสูญเสียความเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคของไทย ทั้งนี้ ให้ บทม.คงกำหนดการเรื่องพิธีเฉลิมฉลองในข้อ 1 ไว้โดยไม่เปลี่ยนแปลง
1.3 ให้ บทม. ใช้แบบก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินของกลุ่มบริษัท Murphy-Jahn, Inc., TAMS Consultants, Inc. และ ACT Consultants Co. Ltd. (MJTA) โดยให้ บทม. ประสานงานกับ MJTA ทำการปรับปรุงแก้ไขแบบให้มีสัดส่วนของการใช้วัสดุที่นำเข้าจากต่างประเทศน้อยกว่าวัสดุที่ผลิตได้ภายในประเทศในอัตราส่วนประมาณ 20 ต่อ 80 ตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการประหยัดเงินตราต่างประเทศและให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมในประเทศ ยกเว้นวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือและเครื่องกลตามมาตรฐานสากลที่ผลิตในประเทศไม่ได้ ทั้งนี้แบบของ MJTA ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วต้องมีราคาค่าก่อสร้างต่ำกว่างบประมาณที่กำหนดไว้
1.4 เมื่อ MJTA ปรับปรุงแก้ไขแบบเรียบร้อยแล้ว ให้ บทม. ส่งแบบของ MJTA ขอความเห็นชอบจากธนาคารที่จะให้เงินกู้ Japan Bank for International Cooperation (JBIC) โดยเร็ว และให้นำแบบที่แก้ไขแล้วนี้ออกประกวดราคาต่อไป
1.5 เพื่อให้การประกวดราคาค่าก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน ดำเนินไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรมอย่างชัดเจน จึงให้ บทม. ประกาศยกเลิกแบบที่ บทม. เรียกว่า Fall Back Design (Bid 2)โดยให้ผู้เข้าประกวดราคาเสนอราคาแบบของ MJTA (Bid 1) ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วเพียงแบบเดียว และให้ บทม. เชิญผู้รับเหมาก่อสร้างที่ผ่าน Pre-qualification (P.Q.) หรือผ่านการคัดเลือกรอบแรกจำนวน 9 ราย เข้าร่วมเสนอราคาใหม่
1.6 ในการประกวดราคาค่าก่อสร้าง ให้ บทม. ตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางค่าก่อสร้าง โดยให้นำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย
2. ให้กระทรวงคมนาคมและ บทม. กำหนดแผนดำเนินงานตามนโยบายโดยเร่งด่วนที่สุด หากงานส่วนใดที่สามารถดำเนินการเพื่อให้งานก่อสร้างรวดเร็วขึ้น ก็ให้ดำเนินการไป ทั้งนี้ ให้รายงานผลความคืบหน้าของการดำเนินงานให้ทราบทุกระยะด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร)--วันที่ 27 มี.ค.2544
-สส-
1. ได้มอบนโยบายที่สรุปได้จากความเห็นชอบของที่ประชุม ให้กระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) และบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) รับไปดำเนินการโดยเร่งด่วนบนหลักการและพื้นฐานที่โปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดังต่อไปนี้
1.1 ให้ บทม. บริหารและจัดการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนด และจัดให้มีงานพิธีเฉลิมฉลองใหญ่ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2547
1.2 ในกรณีที่ บทม. ไม่สามารถดำเนินการให้สนามบินสุวรรณภูมิเปิดบริการได้สมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2547 ให้ ทอท. ใช้แผน 2 ที่ได้เตรียมไว้แล้ว โดยใช้ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพที่ดอนเมือง รองรับผู้โดยสารไปก่อนอีก1 ปี ซึ่งพลอากาศเอก นิพนธ์ สาครเย็น ผู้ว่าการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ได้ยืนยันในที่ประชุมแล้วว่าสามารถกระทำได้จนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2548 โดยไม่กระทบต่อการสูญเสียความเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคของไทย ทั้งนี้ ให้ บทม.คงกำหนดการเรื่องพิธีเฉลิมฉลองในข้อ 1 ไว้โดยไม่เปลี่ยนแปลง
1.3 ให้ บทม. ใช้แบบก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินของกลุ่มบริษัท Murphy-Jahn, Inc., TAMS Consultants, Inc. และ ACT Consultants Co. Ltd. (MJTA) โดยให้ บทม. ประสานงานกับ MJTA ทำการปรับปรุงแก้ไขแบบให้มีสัดส่วนของการใช้วัสดุที่นำเข้าจากต่างประเทศน้อยกว่าวัสดุที่ผลิตได้ภายในประเทศในอัตราส่วนประมาณ 20 ต่อ 80 ตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการประหยัดเงินตราต่างประเทศและให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมในประเทศ ยกเว้นวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือและเครื่องกลตามมาตรฐานสากลที่ผลิตในประเทศไม่ได้ ทั้งนี้แบบของ MJTA ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วต้องมีราคาค่าก่อสร้างต่ำกว่างบประมาณที่กำหนดไว้
1.4 เมื่อ MJTA ปรับปรุงแก้ไขแบบเรียบร้อยแล้ว ให้ บทม. ส่งแบบของ MJTA ขอความเห็นชอบจากธนาคารที่จะให้เงินกู้ Japan Bank for International Cooperation (JBIC) โดยเร็ว และให้นำแบบที่แก้ไขแล้วนี้ออกประกวดราคาต่อไป
1.5 เพื่อให้การประกวดราคาค่าก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน ดำเนินไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรมอย่างชัดเจน จึงให้ บทม. ประกาศยกเลิกแบบที่ บทม. เรียกว่า Fall Back Design (Bid 2)โดยให้ผู้เข้าประกวดราคาเสนอราคาแบบของ MJTA (Bid 1) ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วเพียงแบบเดียว และให้ บทม. เชิญผู้รับเหมาก่อสร้างที่ผ่าน Pre-qualification (P.Q.) หรือผ่านการคัดเลือกรอบแรกจำนวน 9 ราย เข้าร่วมเสนอราคาใหม่
1.6 ในการประกวดราคาค่าก่อสร้าง ให้ บทม. ตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางค่าก่อสร้าง โดยให้นำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย
2. ให้กระทรวงคมนาคมและ บทม. กำหนดแผนดำเนินงานตามนโยบายโดยเร่งด่วนที่สุด หากงานส่วนใดที่สามารถดำเนินการเพื่อให้งานก่อสร้างรวดเร็วขึ้น ก็ให้ดำเนินการไป ทั้งนี้ ให้รายงานผลความคืบหน้าของการดำเนินงานให้ทราบทุกระยะด้วย12. เรื่อง สรุปผลการประชุมแก้ไขปัญหาการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (พลเอกชวลิตยงใจยุทธ) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานกรุงเทพ แห่งที่ 2 (กทก.) เสนอ สรุปผลการประชุมแก้ไขปัญหาการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2544 สรุปได้ดังต่อไปนี้
1. ได้มอบนโยบายที่สรุปได้จากความเห็นชอบของที่ประชุม ให้กระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) และบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) รับไปดำเนินการโดยเร่งด่วนบนหลักการและพื้นฐานที่โปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดังต่อไปนี้
1.1 ให้ บทม. บริหารและจัดการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนด และจัดให้มีงานพิธีเฉลิมฉลองใหญ่ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2547
1.2 ในกรณีที่ บทม. ไม่สามารถดำเนินการให้สนามบินสุวรรณภูมิเปิดบริการได้สมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2547 ให้ ทอท. ใช้แผน 2 ที่ได้เตรียมไว้แล้ว โดยใช้ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพที่ดอนเมือง รองรับผู้โดยสารไปก่อนอีก1 ปี ซึ่งพลอากาศเอก นิพนธ์ สาครเย็น ผู้ว่าการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ได้ยืนยันในที่ประชุมแล้วว่าสามารถกระทำได้จนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2548 โดยไม่กระทบต่อการสูญเสียความเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคของไทย ทั้งนี้ ให้ บทม.คงกำหนดการเรื่องพิธีเฉลิมฉลองในข้อ 1 ไว้โดยไม่เปลี่ยนแปลง
1.3 ให้ บทม. ใช้แบบก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินของกลุ่มบริษัท Murphy-Jahn, Inc., TAMS Consultants, Inc. และ ACT Consultants Co. Ltd. (MJTA) โดยให้ บทม. ประสานงานกับ MJTA ทำการปรับปรุงแก้ไขแบบให้มีสัดส่วนของการใช้วัสดุที่นำเข้าจากต่างประเทศน้อยกว่าวัสดุที่ผลิตได้ภายในประเทศในอัตราส่วนประมาณ 20 ต่อ 80 ตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการประหยัดเงินตราต่างประเทศและให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมในประเทศ ยกเว้นวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือและเครื่องกลตามมาตรฐานสากลที่ผลิตในประเทศไม่ได้ ทั้งนี้แบบของ MJTA ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วต้องมีราคาค่าก่อสร้างต่ำกว่างบประมาณที่กำหนดไว้
1.4 เมื่อ MJTA ปรับปรุงแก้ไขแบบเรียบร้อยแล้ว ให้ บทม. ส่งแบบของ MJTA ขอความเห็นชอบจากธนาคารที่จะให้เงินกู้ Japan Bank for International Cooperation (JBIC) โดยเร็ว และให้นำแบบที่แก้ไขแล้วนี้ออกประกวดราคาต่อไป
1.5 เพื่อให้การประกวดราคาค่าก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน ดำเนินไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรมอย่างชัดเจน จึงให้ บทม. ประกาศยกเลิกแบบที่ บทม. เรียกว่า Fall Back Design (Bid 2)โดยให้ผู้เข้าประกวดราคาเสนอราคาแบบของ MJTA (Bid 1) ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วเพียงแบบเดียว และให้ บทม. เชิญผู้รับเหมาก่อสร้างที่ผ่าน Pre-qualification (P.Q.) หรือผ่านการคัดเลือกรอบแรกจำนวน 9 ราย เข้าร่วมเสนอราคาใหม่
1.6 ในการประกวดราคาค่าก่อสร้าง ให้ บทม. ตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางค่าก่อสร้าง โดยให้นำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย
2. ให้กระทรวงคมนาคมและ บทม. กำหนดแผนดำเนินงานตามนโยบายโดยเร่งด่วนที่สุด หากงานส่วนใดที่สามารถดำเนินการเพื่อให้งานก่อสร้างรวดเร็วขึ้น ก็ให้ดำเนินการไป ทั้งนี้ ให้รายงานผลความคืบหน้าของการดำเนินงานให้ทราบทุกระยะด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร)--วันที่ 27 มี.ค.2544
-สส-