คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการปรับปรุงระบบการค้ำประกันสินเชื่อของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) แบบการค้ำประกันกลุ่มสินเชื่อที่มีการรับความเสี่ยงร่วมกัน (Risk Participation) ในโครงการประกันสินเชื่อกลุ่ม รายภาคอุตสาหกรรม - ธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องและสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการเร่งรัดการปล่อยสินเชื่อแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และการขยายการค้ำประกันสินเชื่อแก่ SMEs ในแนวทางรับความเสี่ยงร่วมกันระหว่างธนาคารพาณิชย์และ บสย. สรุปได้ดังนี้
1. หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
1.1 ลักษณะ SMEs และสินเชื่อที่ให้การค้ำประกัน
1) SMEs ที่จะขอใช้บริการต้องเป็น SMEs ที่ดีทั้งรายเดิมและรายใหม่ที่ได้รับสินเชื่อเพิ่มจากสถาบันการเงิน
2) SMEs ที่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ประเภทบริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลที่มีสัญชาติไทย ดำเนินกิจการในประเทศไทย
3) ทรัพย์สินถาวรของ SMEs ในวันยื่นขอสินเชื่อต้องมีมูลค่าไม่เกิน 200 ล้านบาท
4) SMEs ที่เป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม หรือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
5) บสย. จะให้การค้ำประกันสินเชื่อทั้งในส่วนที่มีและไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันในสัดส่วนการค้ำประกันไม่เกินร้อยละ 50 ของสินเชื่อรวมที่มีอยู่กับผู้ให้กู้และสูงสุดไม่เกินรายละ 40 ล้านบาท
1.2 เงื่อนไขในการค้ำประกัน
1) สำหรับ SMEs ที่สถาบันการเงินให้สินเชื่อเพิ่มหรือไม่มีหลักทรัพย์ใหม่ในภาคอุตสาหกรรมหรือธุรกิจใดที่สถาบันการเงินต้องการจะใช้บริการค้ำประกันของ บสย. ภายใต้โครงการนี้จะต้องส่ง SMEs ดังกล่าวทุกรายให้ บสย. ค้ำประกัน ทั้งนี้ ไม่รวม SMEs ที่มีอยู่เดิมในภาคอุตสาหกรรมหรือธุรกิจนั้น ๆ ที่สถาบันการเงินมิได้ให้สินเชื่อเพิ่ม การกำหนดภาคอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่ขอให้ค้ำประกันสามารถปรับปรุงให้เป็นรายปี
2) บสย. จะรับผิดชอบในการจ่ายค่าประกันชดเชย ดังนี้
(1) กรณีที่ SMEs ผิดนัดชำระหนี้กับสถาบันการเงินตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป บสย. จะรับผิดโดยจ่ายเงินในส่วนที่เป็นดอกเบี้ยตามสัดส่วนที่ บสย. ค้ำประกัน
(2) สำหรับต้นเงินตามที่ระบุไว้ในหนังสือค้ำประกัน บสย. จะรับผิดโดยการออกพันธบัตร(Bond) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราเสมือนรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกันให้กับสถาบันการเงิน เพื่อเป็นการวางประกันการชำระหนี้ต้นเงินดังกล่าว จนกว่าสถาบันการเงินจะบังคับคดีขายทอดตลาดจากทรัพย์สินเรียบร้อยแล้ว และหากมีส่วนสูญเสียเกิดขึ้นบสย. จะจ่ายเป็นเงินชดเชยให้ในสัดส่วนเดียวกับที่เข้าค้ำประกัน แต่ไม่เกินต้นเงินตามที่ระบุไว้ในหนังสือค้ำประกัน และขณะเดียวกันสถาบันการเงินจะต้องส่งคืนพันธบัตรให้กับ บสย.
1.3 อัตราค่าธรรมเนียม บสย. จะกำหนดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันความเสี่ยงของ SMEs โดยถือตามการจัดชั้นหนี้ของสถาบันการเงินภายใต้ข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย
2. สถานะปัจจุบัน บสย. ได้จัดทำหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการค้ำประกันกลุ่มสินเชื่อที่มีการรับความเสี่ยงร่วมกัน (Risk Participation) เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้นำไปเสนอกับสถาบันการเงิน สรุปผลได้ ดังนี้
การจัดทำข้อตกลงกับธนาคารพาณิชย์
2.1 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้พิจารณารายละเอียดและนำเสนอต่อคณะกรรมการ ได้รับความเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2544 ขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดวันเพื่อจัดทำข้อตกลงใช้บริการ คาดว่าจะมีการค้ำประกันให้แก่ SMEs ผ่านโครงการ Risk Participation จำนวน 5,000 ล้านบาท ในปีนี้
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2544 บสย. และที่ปรึกษากฎหมายของ บสย. ได้ร่วมหารือกับผู้บริหารธนาคารกรุงไทย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายในเรื่องร่างข้อตกลงการใช้บริการ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้พิจารณาและต่างเห็นชอบร่วมกันโดยเพิ่มเติมรายละเอียดเล็กน้อยบางเรื่องเพื่อความชัดเจนในทางปฏิบัติต่อกัน ทั้งนี้ ธนาคารจะนำร่างข้อตกลงที่แก้ไขแล้วนำเสนอผู้บริหารและนัดหมายเพื่อจัดทำข้อตกลงใช้บริการต่อไป
2.2 ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ได้เสนอหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการค้ำประกันตามโครงการนี้แก่ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการนำเสนอขอความเห็นชอบคณะกรรมการของธนาคาร
2.3 ธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) บสย. ได้เสนอหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติของโครงการนี้แก่ฝ่ายจัดการของธนาคารแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการนำเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการของธนาคาร
2.4 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บสย. ได้เสนอหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติของโครงการนี้ต่อผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการนำเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการของธนาคาร
2.5 บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม (บอย.) บสย. ได้เสนอหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติของโครงการนี้ต่อฝ่ายจัดการ บอย. แล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการนำเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 ต.ค. 44---สส-
1. หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
1.1 ลักษณะ SMEs และสินเชื่อที่ให้การค้ำประกัน
1) SMEs ที่จะขอใช้บริการต้องเป็น SMEs ที่ดีทั้งรายเดิมและรายใหม่ที่ได้รับสินเชื่อเพิ่มจากสถาบันการเงิน
2) SMEs ที่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ประเภทบริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลที่มีสัญชาติไทย ดำเนินกิจการในประเทศไทย
3) ทรัพย์สินถาวรของ SMEs ในวันยื่นขอสินเชื่อต้องมีมูลค่าไม่เกิน 200 ล้านบาท
4) SMEs ที่เป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม หรือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
5) บสย. จะให้การค้ำประกันสินเชื่อทั้งในส่วนที่มีและไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันในสัดส่วนการค้ำประกันไม่เกินร้อยละ 50 ของสินเชื่อรวมที่มีอยู่กับผู้ให้กู้และสูงสุดไม่เกินรายละ 40 ล้านบาท
1.2 เงื่อนไขในการค้ำประกัน
1) สำหรับ SMEs ที่สถาบันการเงินให้สินเชื่อเพิ่มหรือไม่มีหลักทรัพย์ใหม่ในภาคอุตสาหกรรมหรือธุรกิจใดที่สถาบันการเงินต้องการจะใช้บริการค้ำประกันของ บสย. ภายใต้โครงการนี้จะต้องส่ง SMEs ดังกล่าวทุกรายให้ บสย. ค้ำประกัน ทั้งนี้ ไม่รวม SMEs ที่มีอยู่เดิมในภาคอุตสาหกรรมหรือธุรกิจนั้น ๆ ที่สถาบันการเงินมิได้ให้สินเชื่อเพิ่ม การกำหนดภาคอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่ขอให้ค้ำประกันสามารถปรับปรุงให้เป็นรายปี
2) บสย. จะรับผิดชอบในการจ่ายค่าประกันชดเชย ดังนี้
(1) กรณีที่ SMEs ผิดนัดชำระหนี้กับสถาบันการเงินตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป บสย. จะรับผิดโดยจ่ายเงินในส่วนที่เป็นดอกเบี้ยตามสัดส่วนที่ บสย. ค้ำประกัน
(2) สำหรับต้นเงินตามที่ระบุไว้ในหนังสือค้ำประกัน บสย. จะรับผิดโดยการออกพันธบัตร(Bond) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราเสมือนรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกันให้กับสถาบันการเงิน เพื่อเป็นการวางประกันการชำระหนี้ต้นเงินดังกล่าว จนกว่าสถาบันการเงินจะบังคับคดีขายทอดตลาดจากทรัพย์สินเรียบร้อยแล้ว และหากมีส่วนสูญเสียเกิดขึ้นบสย. จะจ่ายเป็นเงินชดเชยให้ในสัดส่วนเดียวกับที่เข้าค้ำประกัน แต่ไม่เกินต้นเงินตามที่ระบุไว้ในหนังสือค้ำประกัน และขณะเดียวกันสถาบันการเงินจะต้องส่งคืนพันธบัตรให้กับ บสย.
1.3 อัตราค่าธรรมเนียม บสย. จะกำหนดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันความเสี่ยงของ SMEs โดยถือตามการจัดชั้นหนี้ของสถาบันการเงินภายใต้ข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย
2. สถานะปัจจุบัน บสย. ได้จัดทำหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการค้ำประกันกลุ่มสินเชื่อที่มีการรับความเสี่ยงร่วมกัน (Risk Participation) เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้นำไปเสนอกับสถาบันการเงิน สรุปผลได้ ดังนี้
การจัดทำข้อตกลงกับธนาคารพาณิชย์
2.1 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้พิจารณารายละเอียดและนำเสนอต่อคณะกรรมการ ได้รับความเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2544 ขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดวันเพื่อจัดทำข้อตกลงใช้บริการ คาดว่าจะมีการค้ำประกันให้แก่ SMEs ผ่านโครงการ Risk Participation จำนวน 5,000 ล้านบาท ในปีนี้
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2544 บสย. และที่ปรึกษากฎหมายของ บสย. ได้ร่วมหารือกับผู้บริหารธนาคารกรุงไทย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายในเรื่องร่างข้อตกลงการใช้บริการ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้พิจารณาและต่างเห็นชอบร่วมกันโดยเพิ่มเติมรายละเอียดเล็กน้อยบางเรื่องเพื่อความชัดเจนในทางปฏิบัติต่อกัน ทั้งนี้ ธนาคารจะนำร่างข้อตกลงที่แก้ไขแล้วนำเสนอผู้บริหารและนัดหมายเพื่อจัดทำข้อตกลงใช้บริการต่อไป
2.2 ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ได้เสนอหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการค้ำประกันตามโครงการนี้แก่ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการนำเสนอขอความเห็นชอบคณะกรรมการของธนาคาร
2.3 ธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน) บสย. ได้เสนอหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติของโครงการนี้แก่ฝ่ายจัดการของธนาคารแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการนำเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการของธนาคาร
2.4 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บสย. ได้เสนอหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติของโครงการนี้ต่อผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการนำเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการของธนาคาร
2.5 บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม (บอย.) บสย. ได้เสนอหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติของโครงการนี้ต่อฝ่ายจัดการ บอย. แล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการนำเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 ต.ค. 44---สส-