คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการจัดฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูง : ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ตามที่สำนักงาน ก.พ.เสนอ โดยให้สำนักงานก.พ. รับไปพิจารณาปรับปรุงรายละเอียดหลักสูตรและการดำเนินการฝึกอบรมร่วมกับผู้เกี่ยวข้องให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแล้วดำเนินการต่อไปได้ สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามหลักสูตรดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ.พิจารณาดำเนินการโดยยึดหลักประหยัด ทั้งนี้ ในปีงบประมาณพ.ศ. 2548 ให้สำนักงานก.พ.และส่วนราชการพิจารณาเจียดจ่ายจากงบประมาณที่ได้จัดสรรไว้แล้วและให้สำนักงาน ก.พ. เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามความจำเป็นและเหมาะสม ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เป็นต้นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงาน ก.พ.รายงานว่า หลักสูตรนักบริหารระดับสูง : ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ เป็นหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นโดยมีแนวคิดที่จะให้เป็นหลักสูตรชั้นนำระดับสากลที่เสริมสร้างหรือพัฒนานักบริหารระดับสูงของไทยให้เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ (Visionary Leadership) เป็นผู้นำเพื่ออนาคตที่เหมาะสมกับสังคมไทยและโลกปัจจุบัน
เป้าประสงค์ของหลักสูตร เพื่อเป็นการพัฒนานักบริหารระดับกลางให้พร้อมที่จะเป็นนักบริหารระดับสูงที่มีวิสัยทัศน์ มีความสามารถในการนำการแข่งขันในระดับสากลทั้งในปัจจุบันและอนาคต และพร้อมที่จะเป็นกลไกหลักของรัฐในการนำการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อนระบบราชการ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายและยุทธศาสตร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
ลักษณะเด่นของหลักสูตร
- เป็น Tailor-made โดยใช้ลักษณะ Project Oriented โดยผู้สมัครแต่ละคนต้องเตรียมความพร้อมก่อนการเข้ารับการฝึกอบรม โดยหา Needs ของการพัฒนาตนเองและ Needs ของการพัฒนาองค์กร เพื่อจัดทำเป็นโครงการที่จะศึกษา เมื่อจบหลักสูตรจะมีโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและหน่วยงาน ซึ่งสามารถนำไปดำเนินการและวัดผลได้จริง
- เป็นหลักสูตรที่เน้น “Series Why” เน้น Smart Question มากกว่า Smart Answer เพื่อดึงความคิดทัศนคติออกมา เพื่อให้เกิดความกระจ่างในตนเอง เป็นการเปลี่ยน Mind set
- ระยะเวลาการเรียนต้องครบตามเกณฑ์ที่กำหนด (ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยไม่สามารถเข้าได้ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด คณะกรรมการจะพิจารณาเป็นกรณีไป แต่ในการฝึกอบรม ช่วงที่ 1 จะต้องเข้าฝึกอบรม 100%)
โครงสร้างหลักสูตร
โครงสร้างหลักสูตรมี 3 ช่วง ระยะเวลาโดยรวมประมาณ 3 เดือน ประกอบด้วย ช่วงที่ 1 การพัฒนาภาวะผู้นำและการปรับกระบวนทัศน์ทางความคิด (Leadership and Paradigm Shift Development) ระยะเวลา 1 สัปดาห์ ฝึกอบรมแบบอยู่ประจำ ช่วงที่ 2 การนำองค์ความรู้สู่ผลสัมฤทธิ์ (Driving Knowledge Management Towards High Performance Achievement) ระยะเวลาประมาณ โดยรวม 13 สัปดาห์ มีทั้งแบบอยู่ประจำและไป-กลับ ไม่ต่อเนื่อง มีการศึกษาดูงานในกรุงเทพฯ/ต่างจังหวัด 4-5 ครั้ง และมีการศึกษาดูงานในต่างประเทศ และช่วงที่ 3 การนำเสนอโครงการและนำไปสู่การปฏิบัติ (Project Presentation and Implementation) ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เป็นแบบอยู่ประจำ
ผลลัพธ์สุดท้ายของหลักสูตรที่คาดหวัง
สำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรม จะเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ (Visionary Leadership) มีคุณธรรม ยึดประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก มีศักยภาพด้านการบริหารจัดการที่ดี สามารถนำการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ให้เกิดผลสำเร็จตามความคาดหวังของผู้ที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมที่จะบริหารงานภายใต้สภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต
สำหรับหน่วยงาน ระบบราชการ จะมีขีดความสามารถในการผลักดันและขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ชาติให้ประสบผลสำเร็จทั้งปัจจุบันและอนาคต และสามารถดำเนินงานตอบสนองความคาดหวังของผู้ที่เกี่ยวข้องดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งจะเป็นกลไกที่เอื้อต่อการสนับสนุนภาคต่าง ๆ ของสังคมให้มีขีดความสามารถสูงขึ้นและสามารถนำประเทศก้าวสู่การแข่งขันในเวทีโลก
สำหรับประชาชน ประเทศชาติ ประชาชนจะได้รับการบริการที่เหนือความคาดหมายจากภาครัฐ การบริการจะทันสมัย รวดเร็ว เป็นธรรมในระดับมาตรฐานสากล โดยอยู่บนพื้นฐานของหลักการบริหารบ้านเมืองที่ดี สังคมและประเทศชาติจะมีความเจริญและผาสุข
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 26 เมษายน 2548--จบ--
สำนักงาน ก.พ.รายงานว่า หลักสูตรนักบริหารระดับสูง : ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ เป็นหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นโดยมีแนวคิดที่จะให้เป็นหลักสูตรชั้นนำระดับสากลที่เสริมสร้างหรือพัฒนานักบริหารระดับสูงของไทยให้เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ (Visionary Leadership) เป็นผู้นำเพื่ออนาคตที่เหมาะสมกับสังคมไทยและโลกปัจจุบัน
เป้าประสงค์ของหลักสูตร เพื่อเป็นการพัฒนานักบริหารระดับกลางให้พร้อมที่จะเป็นนักบริหารระดับสูงที่มีวิสัยทัศน์ มีความสามารถในการนำการแข่งขันในระดับสากลทั้งในปัจจุบันและอนาคต และพร้อมที่จะเป็นกลไกหลักของรัฐในการนำการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อนระบบราชการ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายและยุทธศาสตร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
ลักษณะเด่นของหลักสูตร
- เป็น Tailor-made โดยใช้ลักษณะ Project Oriented โดยผู้สมัครแต่ละคนต้องเตรียมความพร้อมก่อนการเข้ารับการฝึกอบรม โดยหา Needs ของการพัฒนาตนเองและ Needs ของการพัฒนาองค์กร เพื่อจัดทำเป็นโครงการที่จะศึกษา เมื่อจบหลักสูตรจะมีโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและหน่วยงาน ซึ่งสามารถนำไปดำเนินการและวัดผลได้จริง
- เป็นหลักสูตรที่เน้น “Series Why” เน้น Smart Question มากกว่า Smart Answer เพื่อดึงความคิดทัศนคติออกมา เพื่อให้เกิดความกระจ่างในตนเอง เป็นการเปลี่ยน Mind set
- ระยะเวลาการเรียนต้องครบตามเกณฑ์ที่กำหนด (ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยไม่สามารถเข้าได้ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด คณะกรรมการจะพิจารณาเป็นกรณีไป แต่ในการฝึกอบรม ช่วงที่ 1 จะต้องเข้าฝึกอบรม 100%)
โครงสร้างหลักสูตร
โครงสร้างหลักสูตรมี 3 ช่วง ระยะเวลาโดยรวมประมาณ 3 เดือน ประกอบด้วย ช่วงที่ 1 การพัฒนาภาวะผู้นำและการปรับกระบวนทัศน์ทางความคิด (Leadership and Paradigm Shift Development) ระยะเวลา 1 สัปดาห์ ฝึกอบรมแบบอยู่ประจำ ช่วงที่ 2 การนำองค์ความรู้สู่ผลสัมฤทธิ์ (Driving Knowledge Management Towards High Performance Achievement) ระยะเวลาประมาณ โดยรวม 13 สัปดาห์ มีทั้งแบบอยู่ประจำและไป-กลับ ไม่ต่อเนื่อง มีการศึกษาดูงานในกรุงเทพฯ/ต่างจังหวัด 4-5 ครั้ง และมีการศึกษาดูงานในต่างประเทศ และช่วงที่ 3 การนำเสนอโครงการและนำไปสู่การปฏิบัติ (Project Presentation and Implementation) ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เป็นแบบอยู่ประจำ
ผลลัพธ์สุดท้ายของหลักสูตรที่คาดหวัง
สำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรม จะเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ (Visionary Leadership) มีคุณธรรม ยึดประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก มีศักยภาพด้านการบริหารจัดการที่ดี สามารถนำการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ให้เกิดผลสำเร็จตามความคาดหวังของผู้ที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมที่จะบริหารงานภายใต้สภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต
สำหรับหน่วยงาน ระบบราชการ จะมีขีดความสามารถในการผลักดันและขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ชาติให้ประสบผลสำเร็จทั้งปัจจุบันและอนาคต และสามารถดำเนินงานตอบสนองความคาดหวังของผู้ที่เกี่ยวข้องดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งจะเป็นกลไกที่เอื้อต่อการสนับสนุนภาคต่าง ๆ ของสังคมให้มีขีดความสามารถสูงขึ้นและสามารถนำประเทศก้าวสู่การแข่งขันในเวทีโลก
สำหรับประชาชน ประเทศชาติ ประชาชนจะได้รับการบริการที่เหนือความคาดหมายจากภาครัฐ การบริการจะทันสมัย รวดเร็ว เป็นธรรมในระดับมาตรฐานสากล โดยอยู่บนพื้นฐานของหลักการบริหารบ้านเมืองที่ดี สังคมและประเทศชาติจะมีความเจริญและผาสุข
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 26 เมษายน 2548--จบ--