ทำเนียบรัฐบาล--3 ต.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานความคืบหน้าการพิจารณานโยบายปรับโครงสร้างการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย สรุปได้ดังนี้
1. แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณานโยบายปรับโครงสร้างการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย โดยมีอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เป็นประธานคณะทำงาน มีคณะทำงานประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และผู้แทนจากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย มีเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายเป็นเลขานุการคณะทำงานทำหน้าที่พิจารณานโยบายปรับโครงสร้างการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันโดยให้ครอบคลุมเรื่องการปรับปรุงพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 และรูปแบบขององค์กรในการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย
2. คณะทำงานฯ ได้มีการประชุมมาแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นและมติสรุปได้ ดังนี้
1) การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายนั้น ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรที่จะร่วมมือกันดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยในส่วนของการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อย ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักมีบทบาทดูแลรับผิดชอบในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร รวมถึงงานด้านการป้องกันและปราบปรามศัตรูอ้อย และการสนับสนุนระบบชลประทานในเขตส่งเสริมการปลูกอ้อย โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้แก่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป
2) ให้มีการจัดตั้งสถาบันวิจัยอ้อยและน้ำตาลทรายขึ้นภายใต้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย โดยมีหน้าที่เสนอแนะนโยบายและแผนงานด้านการวิจัยและพัฒนาอ้อยและน้ำตาลทรายของประเทศ และเป็นหน่วยงานกลางในการประสานงานวิจัยและพัฒนาด้านอ้อยและน้ำตาลทรายกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยและพัฒนาด้านอ้อยและน้ำตาลทรายของประเทศ
3) ให้คณะกรรมการตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ซึ่งได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติฯ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์เสียก่อน แล้วจึงมาประเมินดูว่าควรจะมีการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติฯ ในประเด็นใด ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายมุ่งเน้นบทบาทในด้านการกำหนดนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย และมอบอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานด้านอื่นให้กับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งให้มีผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกร่วมเป็นคณะที่ปรึกษาของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายด้วย
4) ให้มีการปรับปรุงฐานะของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนดคือ ให้มีฐานะเทียบเท่าระดับกรม เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพขององค์กรที่ทำหน้าที่ดูแลระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานและเพื่อรองรับบทบาทของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติฯ ที่เปลี่ยนแปลงไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 2 ต.ค. 2543--
-สส-
คณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานความคืบหน้าการพิจารณานโยบายปรับโครงสร้างการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย สรุปได้ดังนี้
1. แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณานโยบายปรับโครงสร้างการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย โดยมีอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เป็นประธานคณะทำงาน มีคณะทำงานประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และผู้แทนจากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย มีเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายเป็นเลขานุการคณะทำงานทำหน้าที่พิจารณานโยบายปรับโครงสร้างการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันโดยให้ครอบคลุมเรื่องการปรับปรุงพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 และรูปแบบขององค์กรในการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย
2. คณะทำงานฯ ได้มีการประชุมมาแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นและมติสรุปได้ ดังนี้
1) การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายนั้น ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรที่จะร่วมมือกันดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยในส่วนของการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อย ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักมีบทบาทดูแลรับผิดชอบในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร รวมถึงงานด้านการป้องกันและปราบปรามศัตรูอ้อย และการสนับสนุนระบบชลประทานในเขตส่งเสริมการปลูกอ้อย โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้แก่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป
2) ให้มีการจัดตั้งสถาบันวิจัยอ้อยและน้ำตาลทรายขึ้นภายใต้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย โดยมีหน้าที่เสนอแนะนโยบายและแผนงานด้านการวิจัยและพัฒนาอ้อยและน้ำตาลทรายของประเทศ และเป็นหน่วยงานกลางในการประสานงานวิจัยและพัฒนาด้านอ้อยและน้ำตาลทรายกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยและพัฒนาด้านอ้อยและน้ำตาลทรายของประเทศ
3) ให้คณะกรรมการตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ซึ่งได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติฯ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์เสียก่อน แล้วจึงมาประเมินดูว่าควรจะมีการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติฯ ในประเด็นใด ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายมุ่งเน้นบทบาทในด้านการกำหนดนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย และมอบอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานด้านอื่นให้กับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งให้มีผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกร่วมเป็นคณะที่ปรึกษาของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายด้วย
4) ให้มีการปรับปรุงฐานะของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนดคือ ให้มีฐานะเทียบเท่าระดับกรม เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพขององค์กรที่ทำหน้าที่ดูแลระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานและเพื่อรองรับบทบาทของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติฯ ที่เปลี่ยนแปลงไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 2 ต.ค. 2543--
-สส-