ทำเนียบรัฐบาล--4 ก.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้ราษฎรในชนบท ระยะที่ 2 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. เห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินการลงทุนตามโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้ราษฎรในชนบท ระยะที่ 2 โดยมีวงเงินลงทุนรวม 3,655 ล้านบาท แยกเป็นเงินตราต่างประเทศ 1,765 ล้านบาท โดยจะขอกู้จากต่างประเทศ และเป็นเงินบาท 1,890 ล้านบาท โดยในส่วนของเงินบาทจะใช้จากเงินกู้สถาบันการเงินในประเทศ และ/หรือเงินรายได้ของ กฟภ. เนื่องจากเป็นโครงการที่จะช่วยให้ประชาชนในชนบทได้รับบริการขั้นพื้นฐานเท่าเทียมกันมากขึ้นส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ก่อให้เกิดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และกระจายความเจริญไปสู่ชนบท
2. สำหรับแหล่งเงินกู้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ เห็นควรให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาจัดหาตามความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) รับความเห็นของกระทรวงการคลังไปดำเนินการด้วย
กระทรวงการคลังเห็นควรให้ กฟภ. ใช้เงินกู้ในประเทศ และ/หรือเงินรายได้ของ กฟภ. ให้มากที่สุด ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดการเงินของประเทศในปัจจุบันมีสภาพคล่องสูง อัตราดอกเบี้ยต่ำ และไม่มีความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ การกู้ในประเทศยังช่วยทำให้ กฟภ. ได้ปรับโครงสร้างหนี้ซึ่งมีหนี้ต่างประเทศเป็นจำนวนมากให้มีความสมดุล อย่างไรก็ดี โดยที่ยอดหนี้คงค้างของ กฟภ. มีจำนวนสูงมาก และ กฟภ. ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับสกุลเงินตราต่างประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนสูงมาก โดยปี 2541 และ 2542 ขาดทุน จำนวน 495.77 ล้านบาท และ 14,911.82 ล้านบาท ตามลำดับ ดังนั้น กฟภ. จึงควรให้ความสำคัญในการจัดทำแผนการบริการหนี้เพื่อลดความเสี่ยงอันเนื่องมาจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยได้เสนอรายงานการศึกษาความเหมาะสมโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้ราษฎรในชนบท ระยะที่ 2 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งเป็นโครงการหนึ่งในแผนงานและโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 ของ กฟภ. ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2543 ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณา โดยสรุปสาระสำคัญ คือ โครงการฯ มีวัตถุประสงค์และเป้าหมายเพื่อขยายเขตจำหน่ายไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรในหมู่บ้านที่มีไฟฟ้าใช้แล้ว แต่ยังไม่ทั่วถึงในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ กฟภ. ทั่วประเทศ (73 จังหวัด) โดยจะดำเนินการขยายเขตจำหน่ายไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎร 150,000 หลังคาเรือน ซึ่งโครงการดังกล่าว มีระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี (2543 - 2546) โดยมีวงเงินลงทุนรวม 3,655 ล้านบาท แยกเป็นเงินตราต่างประเทศ 1,765 ล้านบาท และเงินบาท1,890 ล้านบาท โดยในส่วนของเงินตราต่างประเทศจะกู้จากสถาบันการเงินต่างประเทศ และในส่วนของเงินบาทจะใช้จากแหล่งเงินกู้ในประเทศ และ/หรือรายได้ของ กฟภ.
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 4 ก.ค. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้ราษฎรในชนบท ระยะที่ 2 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. เห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินการลงทุนตามโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้ราษฎรในชนบท ระยะที่ 2 โดยมีวงเงินลงทุนรวม 3,655 ล้านบาท แยกเป็นเงินตราต่างประเทศ 1,765 ล้านบาท โดยจะขอกู้จากต่างประเทศ และเป็นเงินบาท 1,890 ล้านบาท โดยในส่วนของเงินบาทจะใช้จากเงินกู้สถาบันการเงินในประเทศ และ/หรือเงินรายได้ของ กฟภ. เนื่องจากเป็นโครงการที่จะช่วยให้ประชาชนในชนบทได้รับบริการขั้นพื้นฐานเท่าเทียมกันมากขึ้นส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ก่อให้เกิดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และกระจายความเจริญไปสู่ชนบท
2. สำหรับแหล่งเงินกู้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ เห็นควรให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาจัดหาตามความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) รับความเห็นของกระทรวงการคลังไปดำเนินการด้วย
กระทรวงการคลังเห็นควรให้ กฟภ. ใช้เงินกู้ในประเทศ และ/หรือเงินรายได้ของ กฟภ. ให้มากที่สุด ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดการเงินของประเทศในปัจจุบันมีสภาพคล่องสูง อัตราดอกเบี้ยต่ำ และไม่มีความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ การกู้ในประเทศยังช่วยทำให้ กฟภ. ได้ปรับโครงสร้างหนี้ซึ่งมีหนี้ต่างประเทศเป็นจำนวนมากให้มีความสมดุล อย่างไรก็ดี โดยที่ยอดหนี้คงค้างของ กฟภ. มีจำนวนสูงมาก และ กฟภ. ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับสกุลเงินตราต่างประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนสูงมาก โดยปี 2541 และ 2542 ขาดทุน จำนวน 495.77 ล้านบาท และ 14,911.82 ล้านบาท ตามลำดับ ดังนั้น กฟภ. จึงควรให้ความสำคัญในการจัดทำแผนการบริการหนี้เพื่อลดความเสี่ยงอันเนื่องมาจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยได้เสนอรายงานการศึกษาความเหมาะสมโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้ราษฎรในชนบท ระยะที่ 2 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งเป็นโครงการหนึ่งในแผนงานและโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 ของ กฟภ. ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2543 ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณา โดยสรุปสาระสำคัญ คือ โครงการฯ มีวัตถุประสงค์และเป้าหมายเพื่อขยายเขตจำหน่ายไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรในหมู่บ้านที่มีไฟฟ้าใช้แล้ว แต่ยังไม่ทั่วถึงในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ กฟภ. ทั่วประเทศ (73 จังหวัด) โดยจะดำเนินการขยายเขตจำหน่ายไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎร 150,000 หลังคาเรือน ซึ่งโครงการดังกล่าว มีระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี (2543 - 2546) โดยมีวงเงินลงทุนรวม 3,655 ล้านบาท แยกเป็นเงินตราต่างประเทศ 1,765 ล้านบาท และเงินบาท1,890 ล้านบาท โดยในส่วนของเงินตราต่างประเทศจะกู้จากสถาบันการเงินต่างประเทศ และในส่วนของเงินบาทจะใช้จากแหล่งเงินกู้ในประเทศ และ/หรือรายได้ของ กฟภ.
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 4 ก.ค. 2543--
-สส-