เรื่อง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ [ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร]
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่ กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ
1. เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดังนี้
1.1 กำหนดให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็น 1) ค่าอาหารและเครื่องดื่มให้กับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม 2) ค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบกิจการนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือ 3) ค่าที่พักในโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 15,000 บาท ทั้งนี้ ต้องซื้อสินค้าหรือรับบริการและชำระค่าสินค้าหรือบริการระหว่างวันที่ 9 เมษายน 2559 ถึง 17 เมษายน 2559 จากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
1.2 กำหนดให้ผู้มีเงินได้ต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าหรือรับบริการเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร โดยการซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่รวมถึงการซื้อสุรา เบียร์ และไวน์ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด
2. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
กค. เสนอว่า
1. เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในระหว่างวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559 ถึงวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2559 โดยสนับสนุนให้ประชาชนบริโภคและท่องเที่ยวในประเทศและกลับไปเยี่ยมบุพการีและญาติผู้ใหญ่ให้มากขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นในช่วงระยะเวลาดังกล่าว จึงเห็นควรมีมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจับจ่ายใช้สอยผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยกำหนดให้เงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าอาหารและค่าเครื่องดื่ม [ไม่รวมถึงการซื้อสุรา เบียร์ และไวน์] ค่าบริการธุรกิจนำเที่ยวมัคคุเทศก์ และค่าที่พักในโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงินได้ที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการช่วยกระตุ้นให้มีการบริโภคและการท่องเที่ยวภายในประเทศได้ อันจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระภาษีของผู้มีเงินได้ และส่งเสริมให้ประชาชน กลับไปเยี่ยมบุพการี และญาติผู้ใหญ่อันแสดงถึงความกตัญญู และความเอื้ออาทรที่มีต่อกันในครอบครัวซึ่งคนไทยได้ยึดถือปฏิบัติกันมา
2. มาตรการภาษีดังกล่าวคาดว่าจะมีภาษีสูณเสียประมาณ 1,500 ล้านบาท แต่จะเป็นการเพิ่มยอดขายสินค้าหรือการให้บริการแก่ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มอันจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวม
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง กำหนดให้มีเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าอาหารและค่าเครื่องดื่มให้กับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบกิจการนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หรือที่ได้จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรมให้แก่ ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในระหว่างวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559 ถึง 17 เมษายน 2559 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 15,000 บาท เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 มีนาคม 2559--