ทำเนียบรัฐบาล--1 พ.ย..--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้โอนกรรมสิทธิ์อาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ทำการเดิมของกองวัณโรค กรมควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งก่อสร้างอยู่บนที่ดินของสภากาชาดไทย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ให้แก่สภากาชาดไทย โดยมีเงื่อนไขเพื่อใช้ในกิจการสาธารณสุขของสภากาชาดไทย และกรณีหากมีค่าใช้จ่ายอื่นใดในการโอนกรรมสิทธิ์อาคารและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้สภากาชาดไทยเป็นผู้รับภาระทั้งสิ้น
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า สภากาชาดไทยประสงค์จะขอกรรมสิทธิ์อาคารที่ทำการเดิมของกองวัณโรค กรมควบคุมโรคติดต่อ ที่ปลูกสร้างอยู่บนที่ดินของสภากาชาดไทย ถนนบำรุงเมือง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ประโยชน์ในกิจการสาธารณกุศลของสภากาชาดไทย ซึ่งกรมธนารักษ์ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏว่ามีอาคารราชพัสดุปลูกสร้างบนที่ดินของสภากาชาดไทย จำนวน 10 รายการ ประกอบด้วย อาคารตรวจโรค อาคารชันสูตรอาคารบ้านพักพนักงาน โรงซ่อม โรงจอดรถ และป้อมยาม และได้ขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุประเภทสิ่งปลูกสร้างของรัฐที่อาศัยปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่ดินราชพัสดุ เป็นหลังลำดับที่ กท.030049-กท.030058 ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคติดต่อผู้ครอบครองใช้ประโยชน์อาคารดังกล่าวแจ้งว่า ปัจจุบันกองวัณโรคได้ก่อสร้างที่ทำการและย้ายไปอยู่ในที่ดินแห่งใหม่เรียบร้อยแล้ว และขอนำอาคารส่งขึ้นทะเบียนพร้อมกับขอจำหน่ายอาคารราชพัสดุดังกล่าวออกจากทะเบียนเพื่อส่งมอบพื้นที่และอาคารสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้แก่สภากาชาดไทยต่อไป คณะกรรมการเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์อาคารราชพัสดุซึ่งกระทรวงการคลังแต่งตั้งขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามความในข้อ 3 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2537) แก้ไขเพิ่มเติมตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2542) ออกตามความในพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 พิจารณาแล้วเห็นว่าปัจจุบันกองวัณโรค กรมควบคุมโรคติดต่อได้ย้ายไปตั้งที่ทำการอยู่ที่อื่นแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะใช้อาคารดังกล่าวอีกต่อไป อีกทั้งอาคารมีสภาพทรุดโทรมเนื่องจากปลูกสร้างมาแล้วประมาณ 30 - 40 ปี ประกอบกับสภากาชาดไทยมีความประสงค์จะขอนำอาคารไปใช้ประโยชน์ในกิจการสาธารณกุศลของสภากาชาดไทย ซึ่งน่าจะมีประโยชน์มากกว่ารื้อถอนและประมูลขายวัสดุ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์อาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ทำการเดิมของกองวัณโรค กรมควบคุมโรคติดต่อ ให้แก่สภากาชาดไทยเพื่อใช้ประโยชน์ในกิจการสาธารณกุศลของสภากาชาดไทยได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 31 ต.ค. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้โอนกรรมสิทธิ์อาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ทำการเดิมของกองวัณโรค กรมควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งก่อสร้างอยู่บนที่ดินของสภากาชาดไทย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ให้แก่สภากาชาดไทย โดยมีเงื่อนไขเพื่อใช้ในกิจการสาธารณสุขของสภากาชาดไทย และกรณีหากมีค่าใช้จ่ายอื่นใดในการโอนกรรมสิทธิ์อาคารและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้สภากาชาดไทยเป็นผู้รับภาระทั้งสิ้น
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า สภากาชาดไทยประสงค์จะขอกรรมสิทธิ์อาคารที่ทำการเดิมของกองวัณโรค กรมควบคุมโรคติดต่อ ที่ปลูกสร้างอยู่บนที่ดินของสภากาชาดไทย ถนนบำรุงเมือง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ประโยชน์ในกิจการสาธารณกุศลของสภากาชาดไทย ซึ่งกรมธนารักษ์ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏว่ามีอาคารราชพัสดุปลูกสร้างบนที่ดินของสภากาชาดไทย จำนวน 10 รายการ ประกอบด้วย อาคารตรวจโรค อาคารชันสูตรอาคารบ้านพักพนักงาน โรงซ่อม โรงจอดรถ และป้อมยาม และได้ขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุประเภทสิ่งปลูกสร้างของรัฐที่อาศัยปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่ดินราชพัสดุ เป็นหลังลำดับที่ กท.030049-กท.030058 ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคติดต่อผู้ครอบครองใช้ประโยชน์อาคารดังกล่าวแจ้งว่า ปัจจุบันกองวัณโรคได้ก่อสร้างที่ทำการและย้ายไปอยู่ในที่ดินแห่งใหม่เรียบร้อยแล้ว และขอนำอาคารส่งขึ้นทะเบียนพร้อมกับขอจำหน่ายอาคารราชพัสดุดังกล่าวออกจากทะเบียนเพื่อส่งมอบพื้นที่และอาคารสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้แก่สภากาชาดไทยต่อไป คณะกรรมการเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์อาคารราชพัสดุซึ่งกระทรวงการคลังแต่งตั้งขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามความในข้อ 3 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2537) แก้ไขเพิ่มเติมตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2542) ออกตามความในพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 พิจารณาแล้วเห็นว่าปัจจุบันกองวัณโรค กรมควบคุมโรคติดต่อได้ย้ายไปตั้งที่ทำการอยู่ที่อื่นแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะใช้อาคารดังกล่าวอีกต่อไป อีกทั้งอาคารมีสภาพทรุดโทรมเนื่องจากปลูกสร้างมาแล้วประมาณ 30 - 40 ปี ประกอบกับสภากาชาดไทยมีความประสงค์จะขอนำอาคารไปใช้ประโยชน์ในกิจการสาธารณกุศลของสภากาชาดไทย ซึ่งน่าจะมีประโยชน์มากกว่ารื้อถอนและประมูลขายวัสดุ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์อาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ทำการเดิมของกองวัณโรค กรมควบคุมโรคติดต่อ ให้แก่สภากาชาดไทยเพื่อใช้ประโยชน์ในกิจการสาธารณกุศลของสภากาชาดไทยได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 31 ต.ค. 2543--
-สส-