ทำเนียบรัฐบาล--26 ธ.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีรับทราบความก้าวหน้าของการดำเนินงานจัดตั้งคลังสมอง ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ซึ่งจะได้นำความกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติต่อไป สรุปได้ดังนี้
1. ความก้าวหน้าในการดำเนินการ
1.1 สำนักงานฯ ได้ประชุมระดมความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิสาขาต่าง ๆ เพื่อยกร่างหลักการและแนวคิดในการจัดตั้งคลังสมอง กระบวนการระดมวุฒิอาสาและการบริหารคลังสมอง ซึ่งได้นำกราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2543 และนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2543
1.2 สำนักงานฯ ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือจากปลัดกระทรวงต่าง ๆ ตลอดจนองค์กรเอกชนและเครือข่ายการพัฒนาต่าง ๆ ในการรวบรวมรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เพื่อนำมาจัดทำเป็นทะเบียนรายชื่อจำแนกเป็นรายสาขาตามความเชี่ยวชาญแต่ละด้านอย่างเป็นระบบ จนถึงปัจจุบันมีหน่วยงานที่มีหนังสือตอบกลับมาที่สำนักงานฯ จำนวน 8 หน่วยงาน จำแนกเป็นหน่วยงานที่มีข้าราชการที่มีคุณสมบัติและแสดงความจำนงเข้าร่วม จำนวน 4 หน่วยงาน ผู้แจ้งความจำนงเข้าร่วมด้วยตนเอง จำนวน 5 ราย รวมผู้แสดงความจำนงทั้งสิ้น 795 ราย และหน่วยงานที่ยังไม่มีข้าราชการที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ จำนวน 4 หน่วยงาน
2. แนวทางดำเนินงานขั้นต่อไป และหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก
สำนักงานฯ จะทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนรวบรวมข้อมูลผู้เกษียณอายุที่มีความพร้อมจะอาสาทำงานเพื่อประเทศชาติ และข้อมูลความต้องการช่วยเหลือจากหน่วยงานและสถาบันต่าง ๆ ทุกระดับ ทั้งในภาครัฐและเอกชน ตลอดจนประสานงานกับเครือข่ายองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ที่มีอยู่แล้ว เช่น สมาคมวิชาชีพต่าง ๆ สมาคมและชมรมที่จัดตั้งโดย กพ.และทบวงมหาวิทยาลัย เป็นต้น โดยแนวทางการดำเนินงานขั้นต่อไป มีดังต่อไปนี้
2.1 ดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทุกระดับ เพื่อประกาศรับผู้เกษียณอายุที่มีคุณสมบัติ และสมัครใจในการเข้าร่วมโครงการ เพื่อนำมาจัดทำทะเบียนกลางของวุฒิอาสา โดยจำแนกตามสาขาความเชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ
2.2 ประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่มีความต้องการให้วุฒิอาสาไปช่วยให้คำปรึกษาหรือทำงานในลักษณะต่าง ๆ ทำการแจ้งความต้องการขอรับความช่วยเหลือให้กับหน่วยทะเบียนกลางเพื่อประสานกับฝ่ายวุฒิอาสาต่อไป
2.3 ดำเนินการประสานให้ฝ่ายที่ขอรับความช่วยเหลือได้มีโอกาสพบและทำความเข้าใจกับฝ่ายวุฒิอาสา เพื่อทำความตกลงในรายละเอียดในวิธีการทำงาน ตลอดจนค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่าง ๆ
2.4 ติดตามประเมินผลการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ พร้อมทั้งปรังปรุงระบบข้อมูลทั้งในส่วนของข้อมูลเครือข่ายฝ่ายวุฒิอาสา และข้อมูลความต้องการความช่วยเหลือของสถาบันและองค์กรชุมชนต่าง ๆ และเผยแพร่ผลดำเนินงานให้เป็นที่รับทราบอย่างต่อเนื่อง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 ธ.ค. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีรับทราบความก้าวหน้าของการดำเนินงานจัดตั้งคลังสมอง ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ซึ่งจะได้นำความกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติต่อไป สรุปได้ดังนี้
1. ความก้าวหน้าในการดำเนินการ
1.1 สำนักงานฯ ได้ประชุมระดมความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิสาขาต่าง ๆ เพื่อยกร่างหลักการและแนวคิดในการจัดตั้งคลังสมอง กระบวนการระดมวุฒิอาสาและการบริหารคลังสมอง ซึ่งได้นำกราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2543 และนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2543
1.2 สำนักงานฯ ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือจากปลัดกระทรวงต่าง ๆ ตลอดจนองค์กรเอกชนและเครือข่ายการพัฒนาต่าง ๆ ในการรวบรวมรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เพื่อนำมาจัดทำเป็นทะเบียนรายชื่อจำแนกเป็นรายสาขาตามความเชี่ยวชาญแต่ละด้านอย่างเป็นระบบ จนถึงปัจจุบันมีหน่วยงานที่มีหนังสือตอบกลับมาที่สำนักงานฯ จำนวน 8 หน่วยงาน จำแนกเป็นหน่วยงานที่มีข้าราชการที่มีคุณสมบัติและแสดงความจำนงเข้าร่วม จำนวน 4 หน่วยงาน ผู้แจ้งความจำนงเข้าร่วมด้วยตนเอง จำนวน 5 ราย รวมผู้แสดงความจำนงทั้งสิ้น 795 ราย และหน่วยงานที่ยังไม่มีข้าราชการที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ จำนวน 4 หน่วยงาน
2. แนวทางดำเนินงานขั้นต่อไป และหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก
สำนักงานฯ จะทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนรวบรวมข้อมูลผู้เกษียณอายุที่มีความพร้อมจะอาสาทำงานเพื่อประเทศชาติ และข้อมูลความต้องการช่วยเหลือจากหน่วยงานและสถาบันต่าง ๆ ทุกระดับ ทั้งในภาครัฐและเอกชน ตลอดจนประสานงานกับเครือข่ายองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ที่มีอยู่แล้ว เช่น สมาคมวิชาชีพต่าง ๆ สมาคมและชมรมที่จัดตั้งโดย กพ.และทบวงมหาวิทยาลัย เป็นต้น โดยแนวทางการดำเนินงานขั้นต่อไป มีดังต่อไปนี้
2.1 ดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทุกระดับ เพื่อประกาศรับผู้เกษียณอายุที่มีคุณสมบัติ และสมัครใจในการเข้าร่วมโครงการ เพื่อนำมาจัดทำทะเบียนกลางของวุฒิอาสา โดยจำแนกตามสาขาความเชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ
2.2 ประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่มีความต้องการให้วุฒิอาสาไปช่วยให้คำปรึกษาหรือทำงานในลักษณะต่าง ๆ ทำการแจ้งความต้องการขอรับความช่วยเหลือให้กับหน่วยทะเบียนกลางเพื่อประสานกับฝ่ายวุฒิอาสาต่อไป
2.3 ดำเนินการประสานให้ฝ่ายที่ขอรับความช่วยเหลือได้มีโอกาสพบและทำความเข้าใจกับฝ่ายวุฒิอาสา เพื่อทำความตกลงในรายละเอียดในวิธีการทำงาน ตลอดจนค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่าง ๆ
2.4 ติดตามประเมินผลการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ พร้อมทั้งปรังปรุงระบบข้อมูลทั้งในส่วนของข้อมูลเครือข่ายฝ่ายวุฒิอาสา และข้อมูลความต้องการความช่วยเหลือของสถาบันและองค์กรชุมชนต่าง ๆ และเผยแพร่ผลดำเนินงานให้เป็นที่รับทราบอย่างต่อเนื่อง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 ธ.ค. 2543--
-สส-