คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องการค้ำประกันเงินกู้สำหรับการทำ Refinance หนี้เงินกู้เดิมของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. อนุมัติในหลักการและเงื่อนไขให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกู้เงินในวงเงิน 14,850 ล้านเยนตามนัยเงื่อนไขเงินกู้ที่กำหนดไว้
2. ให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลงนามในความตกลงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้ำประกันดังกล่าวในนามราชอาณาจักรไทย
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า ได้ให้ความเห็นชอบแนวทางการ Refinance เงินกู้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย วงเงินประมาณ 150.49 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 14,850 ล้านเยน จากธนาคารพัฒนาเอเซียโดยการออกตราสาร ECP (Euro Commercial Paper) เพื่อใช้เป็น Bridge Finance ก่อนที่จะสามารถจัดหาเงินกู้ระยะยาวในรูป Syndication จากต่างประเทศมาทดแทนเงินกู้ ECP ซึ่งจะครบกำหนดชำระคืนในวันที่ 1 ตุลาคม 2544 และในการจัดหาเงินกู้ระยะยาวสกุลเงินเยนเพื่อทดแทนการใช้เงินกู้ ECP นั้น กระทรวงการคลัง โดยสำนักบริหารหนี้สาธารณะ และกฟผ. ได้คัดเลือกสถาบันการเงินที่จะทำหน้าที่เป็น Lead Arranger สำหรับเงินกู้ในรูป Syndication วงเงิน 14,850 ล้านเยน อายุเงินกู้ 5 ปีได้แล้ว
การทำ Refinance เงินกู้ของ กฟผ. ในครั้งนี้ สามารถลดต้นทุนเงินกู้ลง โดยการกู้เงินภายใต้ ECP ทำให้กฟผ. สามารถประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 730 ล้านเยน หรือเทียบเท่าประมาณ 273 ล้านบาท และการดำเนินการกู้เงินในรูป Syndication ดังกล่าว จะทำให้ กฟผ. สามารถประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยได้ประมาณ 3,200ล้านเยน หรือเทียบเท่าประมาณ 1,180 ล้านบาท โดยรวมทั้งสิ้นแล้ว กฟผ. จะประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยได้จำนวนประมาณ1,453 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 100 เยน ต่อ 37 บาท)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 11 ก.ย.44--
-สส-
1. อนุมัติในหลักการและเงื่อนไขให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยกู้เงินในวงเงิน 14,850 ล้านเยนตามนัยเงื่อนไขเงินกู้ที่กำหนดไว้
2. ให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายเป็นผู้ลงนามในความตกลงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้ำประกันดังกล่าวในนามราชอาณาจักรไทย
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า ได้ให้ความเห็นชอบแนวทางการ Refinance เงินกู้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย วงเงินประมาณ 150.49 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 14,850 ล้านเยน จากธนาคารพัฒนาเอเซียโดยการออกตราสาร ECP (Euro Commercial Paper) เพื่อใช้เป็น Bridge Finance ก่อนที่จะสามารถจัดหาเงินกู้ระยะยาวในรูป Syndication จากต่างประเทศมาทดแทนเงินกู้ ECP ซึ่งจะครบกำหนดชำระคืนในวันที่ 1 ตุลาคม 2544 และในการจัดหาเงินกู้ระยะยาวสกุลเงินเยนเพื่อทดแทนการใช้เงินกู้ ECP นั้น กระทรวงการคลัง โดยสำนักบริหารหนี้สาธารณะ และกฟผ. ได้คัดเลือกสถาบันการเงินที่จะทำหน้าที่เป็น Lead Arranger สำหรับเงินกู้ในรูป Syndication วงเงิน 14,850 ล้านเยน อายุเงินกู้ 5 ปีได้แล้ว
การทำ Refinance เงินกู้ของ กฟผ. ในครั้งนี้ สามารถลดต้นทุนเงินกู้ลง โดยการกู้เงินภายใต้ ECP ทำให้กฟผ. สามารถประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 730 ล้านเยน หรือเทียบเท่าประมาณ 273 ล้านบาท และการดำเนินการกู้เงินในรูป Syndication ดังกล่าว จะทำให้ กฟผ. สามารถประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยได้ประมาณ 3,200ล้านเยน หรือเทียบเท่าประมาณ 1,180 ล้านบาท โดยรวมทั้งสิ้นแล้ว กฟผ. จะประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยได้จำนวนประมาณ1,453 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 100 เยน ต่อ 37 บาท)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 11 ก.ย.44--
-สส-