เรื่อง การเข้าร่วมเป็นสถาบันในเครือข่ายแผนงานสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญาของสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ ดังนี้
1. รับทราบความคืบหน้าในการดำเนินงาน เพื่อเข้าร่วมเป็นสถาบันในเครือข่ายแผนงานสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (The United Nations Programme Network Institutes : PNI) ของสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (สธท.)
2. เห็นชอบบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทยกับองค์การสหประชาชาติ และหากมีการแก้ไขเพิ่มเติมถ้อยคำของบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ โดยถ้อยคำดังกล่าวสอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของประเทศ ขอให้ สธท. สามารถพิจารณาดำเนินการได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
3. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หน่วยงานภายในสังกัด ยธ. สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สนับสนุนการทำงานด้านวิชาการของ สธท. เพื่อสร้างความร่วมมือกับสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม (The United Nations Office on Drugs and Crime : UNODC) ในขอบเขตที่ระบุไว้ในบันทึกความเข้าใจระหว่าง สธท. กับองค์การสหประชาชาติ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนข้อมูลสถิติด้านการป้องกันอาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาภายใต้อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่กฎหมายบัญญัติ
บันทึกความเข้าใจมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการวางกรอบความร่วมมือและความเข้าใจร่วมกันและเพื่อการอำนวยความสะดวกในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างคู่ภาคี เพื่อการขับเคลื่อนเป้าหมายและเป้าประสงค์ ที่มีร่วมกันในประเด็นเรื่องหลักนิติธรรม การพัฒนาที่ยั่งยืน สันติภาพและความมั่นคง โดยบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีใด ๆ ที่จะก่อภาระผูกพัน UNODC หรือ สธท. ในด้านงบประมาณหรือทรัพยากรอื่นใด การดำเนินการใด ๆ โดย UNODC หรือ สธท. ภายในขอบเขตของบันทึกความเข้าใจฉบับนี้จะขึ้นอยู่กับความพร้อมด้านทรัพยากร และจะต้องมีการทำความตกลงกันระหว่างคู่ภาคีเท่าที่จำเป็นด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 พฤษภาคม 2559--