ผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีโดยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และโครงการถ่ายโอนกำลังคนเพื่อสนับสนุนมาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงาน ก.พ. รายงานผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีโดยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และโครงการถ่ายโอนกำลังคนเพื่อสนับสนุนมาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือและสนับสนุนโครงการถ่ายโอนกำลังคนเพื่อสนับสนุนมาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ โดยให้สำนักงาน ก.พ. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปดำเนินการต่อไปด้วย
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ. รายงานว่า ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น รวม 3 เรื่อง ได้แก่ โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีโดยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น โครงการถ่ายโอนกำลังคนเพื่อสนับสนุนมาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน (มพช.) และการวางระบบถ่ายโอนกำลังคนสู่ท้องถิ่น ซึ่งสรุปสาระสำคัญของผลการดำเนินงานได้ ดังนี้
1. โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีโดยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
1.1 สำนักงาน ก.พ. และกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกันดำเนินงานโครงการส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีโดยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น โดยได้รับการสนับสนุนจาก UNDP มีระยะเวลาดำเนินงานโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม2541 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2544
1.2 โครงการฯ นี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาเพื่อหารูปแบบการบริหารจัดการที่ดีสำหรับท้องถิ่น ในด้านโครงสร้าง บทบาท และหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระบบการบริหารงานบุคคลท้องถิ่น และระบบงบประมาณการเงินการคลังท้องถิ่น รวมทั้งการทดลองถ่ายโอนภารกิจสู่ท้องถิ่น เพื่อหารูปแบบการกระจายอำนาจที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายปกครองส่วนท้องถิ่นและการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น และคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
1.3 สรุปผลการดำเนินงาน
1.3.1 การศึกษาเพื่อหารูปแบบใหม่ด้านโครงสร้าง/บทบาทและหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรให้มีความยืดหยุ่น และควรมีบทบาทเพิ่มเติมในด้านการพัฒนาการเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน คุ้มครองสิทธิความเป็นธรรมในท้องถิ่น และการประสานแผนและโครงการระหว่างท้องถิ่น รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรรวมตัวกันเป็นองค์กรขนาดใหญ่
1.3.2 การศึกษาเพื่อหารูปแบบใหม่ด้านระบบบริหารงานบุคคลท้องถิ่น ต้องอิงแนวคิดการบริหารงานบุคคลของรัฐบาลเป็นหลัก และกำหนดยุทธศาสตร์กำลังคนท้องถิ่น สถานะของบุคลากรส่วนท้องถิ่นควรมีประเภทเดียวคือ "พนักงานของรัฐส่วนท้องถิ่น" โดยใช้ระบบจำแนกตำแหน่งแบบกว้าง และจัดกลุ่มพนักงานท้องถิ่นเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มพนักงานบริหารท้องถิ่น กลุ่มวิชาการ กลุ่มวิชาชีพ และกลุ่มปฏิบัติการ สำหรับการพิจารณาความดีความชอบให้ยึดผลสัมฤทธิ์ของงาน มีระบบการสรรหาที่โปร่งใสและเน้นการทดสอบความสามารถด้านสมรรถนะ
1.3.3 การศึกษาเพื่อหารูปแบบใหม่ด้านระบบงบประมาณการเงินการคลังท้องถิ่น การกระจายอำนาจด้านการคลัง ต้องพิจารณาขนาดความเหมาะสมทั้งด้านรายได้และรายจ่าย ท้องถิ่นต้องมีความสามารถในการหางบประมาณของตนเอง โครงสร้างรายได้ทั้งภาษีและที่ไม่ใช่ภาษีต้องสามารถคิดต้นทุนหรือราคาจากผู้ใช้ประโยชน์จากบริการสาธารณะได้ ให้มีการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการรับรู้ และตรวจสอบการใช้งบประมาณของท้องถิ่น และต้องมีมาตรการวินัยทางการเงินการคลัง
1.3.4 ผลการทดลองถ่ายโอนภารกิจ จากการทดลองถ่ายโอนภารกิจ 27 ภารกิจ ของกรม 10 กรมจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงสาธารณสุขสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 33 แห่ง ในจังหวัดราชบุรี จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดนครราชสีมา ได้ข้อสรุป ดังนี้
1) ผลการทดลองถ่ายโอนภารกิจมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล และมีความคุ้มค่า เนื่องจากเป็นการทดลองและพิสูจน์จนได้ตัวแบบที่ชัดเจนว่าในการถ่ายโอนภารกิจสู่ท้องถิ่นนั้น จะมีแนวทางและกลยุทธอย่างไรที่จะทำให้การกระจายอำนาจเกิดผลอย่างแท้จริง เช่น งานพัฒนาป่าชุมชนของกรมป่าไม้ นอกจากนี้ยังเป็นการทดลองกับกระทรวงหลัก ๆ ที่มีภารกิจให้บริการประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้น การนำรูปแบบการทดลองดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติ จึงส่งผลต่อประชาชนโดยตรง
2) การทดลองถ่ายโอนภารกิจมีผลกระตุ้นให้กรมที่เข้าร่วมโครงการเกิดความตระหนักในผลสำเร็จของการทดลอง และกระจายอำนาจหน้าที่และภารกิจไปสู่ท้องถิ่น ในปีงบประมาณ 2544 เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ตามกฎหมายกระจายอำนาจฯ เช่น การถ่ายโอนภารกิจของกรมการพัฒนาชุมชน เป็นต้น
1.3.5 การเสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทดลองจัดทำแผนการเสริมสร้างจริยธรรมและจรรยาบรรณพนักงานส่วนท้องถิ่น ตัวชี้วัดการทำงานของท้องถิ่น และแผนพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น ซึ่งได้ทดลองปฏิบัติจนได้ผลชัดเจนและสามารถนำไปปฏิบัติจริง
1.3.6 ผลงานทางวิชาการของโครงการฯ โครงการฯ ได้ผลิตเอกสารทางวิชาการ เช่น ผลการศึกษาวิจัย ประมวลข้อมูลและกฎหมาย/กฎระเบียบเกี่ยวกับการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น รวม 40 รายการ โดยได้เผยแพร่ไปยังคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนทั่วไป
1.4 การดำเนินงานในระยะต่อไป จะมีการจัดตลาดสัมมนาเรื่อง "การบริหารจัดการที่ดีสำหรับท้องถิ่น"ในเดือนกรกฎาคม 2544 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเสนอผลการดำเนินงานโครงการฯ ให้ประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ และนำตัวอย่างความสำเร็จไปพิจารณาใช้ประโยชน์ต่อไป
2. โครงการถ่ายโอนกำลังคนเพื่อสนับสนุนมาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน (มพช.)
2.1 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2543 และวันที่ 31 ตุลาคม 2543 ให้คณะทำงานถ่ายโอนบุคลากรและอำนาจหน้าที่ ซึ่งมีเลขาธิการ ก.พ. เป็นประธาน รับผิดชอบดำเนินงานโครงการถ่านโอนกำลังคนเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาขีดความสามารถให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายใต้มาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน (มพช.) โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะทดลองให้ข้าราชการระดับ 6 ลงมา ในสายงานด้านพาณิชยการ การเงิน การคลังการบริหารทั่วไป และสายงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจที่มีการถ่ายโอนไปยังท้องถิ่นในปีงบประมาณ 2544 ของกรม 19 กรม เช่น สายงานช่างในกรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท รวมทั้งสิ้นจำนวน 8,000 คน ไปปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนจังหวัดเทศบาลตำบลที่ยกฐานะมาจากสุขาภิบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลในลักษณะสนับสนุนการบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เกิดประสิทธิภาพเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2543
2.2 ข้าราชการที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ ต้องสมัครใจและได้รับอนุญาตจากสังกัดเดิม โดยยังคงสงวนตำแหน่งเดิมไว้ให้ และจะได้รับการสนับสนุนด้านค่าตอบแทนในลักษณะเหมาจ่ายรายเดือน ๆ ละ 6,000 บาท และเงินเบี้ยกันดารเดือนละ 1,000 บาท กรณีที่ไปปฏิบัติงานในพื้นที่กันดารที่ทางราชการกำหนด
2.3 ข้าราชการที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะทำงานฯ และไปปฏิบัติงานในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีจำนวน 2,049 คน ทั้งนี้ จากการติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการฯ พบว่า การปฏิบัติงานของข้าราชการตามโครงการฯ ช่วยให้การบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลมากขึ้น เช่น ด้านการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในท้องถิ่นมีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการ
2.4 สำหรับปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีทัศนคติที่ไม่ถูกต้องต่อข้าราชการที่ไปช่วยปฏิบัติงาน โดยเกรงว่าจะไปจับผิดการทำงาน ข้าราชการเองก็ควรต้องได้รับการพัฒนาพอสมควรก่อนไปปฏิบัติงาน การตรวจสอบการทำงานและการเตรียมความพร้อมรับการกระจายอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบมากขึ้น เป็นต้น
3. การวางระบบการถ่ายโอนกำลังคนสู่ท้องถิ่น
คณะทำงานการถ่ายโอนบุคลากรและอำนาจหน้าที่ (ตั้งโดยคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ซึ่งมีเลขาธิการ ก.พ. เป็นประธาน ได้ดำเนินการจัดทำข้อเสนอเกี่ยวกับระบบการถ่ายโอนกำลังคนสู่ท้องถิ่น และจะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด ซึ่งแนวทางการถ่ายโอนบุคลากรสู่ท้องถิ่น สรุปได้ดังนี้
3.1 การถ่ายโอนบุคลากร จะต้องมีการวิเคราะห์หาสัดส่วนอัตรากำลังให้สอดคล้องกับปริมาณและคุณภาพของงาน มีการกำหนดช่วงเวลาปฏิบัติงาน วิธีการเตรียมความพร้อม และรูปแบบการถ่ายโอนให้มีหลายรูปแบบโดยขึ้นอยู่กับลักษณะภารกิจที่จะถ่ายโอนไปท้องถิ่น
3.2 ให้ศูนย์เพิ่มทักษะและพัฒนาเพื่อออกนอกระบบ สำนักงาน ก.พ. เป็นกลไกมีหน้าที่สนับสนุนการถ่ายโอน เช่น เป็นศูนย์ข้อมูลด้านพื้นที่ อัตรากำลัง และข้าราชการพลเรือนที่จะถ่ายโอน จัดข้าราชการลงพื้นที่ เกลี่ยข้าราชการไปยังหน่วยงานที่มีความต้องการอัตรากำลัง เป็นต้น
3.3 วางระบบรองรับกรณีข้าราชการไม่สมัครใจไปปฏิบัติงานในท้องถิ่น หรือกรณีเมื่อมีการถ่ายโอนงานแล้วทำให้เกิดข้าราชการที่เป็นส่วนเกินจากความต้องการ เช่น ให้เงินชดเชยกรณีที่ต้องออกจากราชการเนื่องจากการยุบเลิกตำแหน่ง เป็นต้น
4. ความคืบหน้าด้านการจัดทำแผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 กำหนดให้มีแผน 2 ส่วน คือ แผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2544 และแผนปฏิบัติการกระจายอำนาจฯ ซึ่งเป็นแผนที่ว่าด้วยการถ่ายโอนงาน เงิน และคน สู่ท้องถิ่น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกระจายอำนาจฯ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 31 ก.ค.44--
-สส-
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงาน ก.พ. รายงานผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีโดยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และโครงการถ่ายโอนกำลังคนเพื่อสนับสนุนมาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือและสนับสนุนโครงการถ่ายโอนกำลังคนเพื่อสนับสนุนมาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ โดยให้สำนักงาน ก.พ. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปดำเนินการต่อไปด้วย
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.พ. รายงานว่า ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น รวม 3 เรื่อง ได้แก่ โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีโดยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น โครงการถ่ายโอนกำลังคนเพื่อสนับสนุนมาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน (มพช.) และการวางระบบถ่ายโอนกำลังคนสู่ท้องถิ่น ซึ่งสรุปสาระสำคัญของผลการดำเนินงานได้ ดังนี้
1. โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีโดยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
1.1 สำนักงาน ก.พ. และกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกันดำเนินงานโครงการส่งเสริมการบริหารจัดการที่ดีโดยกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น โดยได้รับการสนับสนุนจาก UNDP มีระยะเวลาดำเนินงานโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม2541 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2544
1.2 โครงการฯ นี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาเพื่อหารูปแบบการบริหารจัดการที่ดีสำหรับท้องถิ่น ในด้านโครงสร้าง บทบาท และหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระบบการบริหารงานบุคคลท้องถิ่น และระบบงบประมาณการเงินการคลังท้องถิ่น รวมทั้งการทดลองถ่ายโอนภารกิจสู่ท้องถิ่น เพื่อหารูปแบบการกระจายอำนาจที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายปกครองส่วนท้องถิ่นและการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น และคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
1.3 สรุปผลการดำเนินงาน
1.3.1 การศึกษาเพื่อหารูปแบบใหม่ด้านโครงสร้าง/บทบาทและหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรให้มีความยืดหยุ่น และควรมีบทบาทเพิ่มเติมในด้านการพัฒนาการเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน คุ้มครองสิทธิความเป็นธรรมในท้องถิ่น และการประสานแผนและโครงการระหว่างท้องถิ่น รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรรวมตัวกันเป็นองค์กรขนาดใหญ่
1.3.2 การศึกษาเพื่อหารูปแบบใหม่ด้านระบบบริหารงานบุคคลท้องถิ่น ต้องอิงแนวคิดการบริหารงานบุคคลของรัฐบาลเป็นหลัก และกำหนดยุทธศาสตร์กำลังคนท้องถิ่น สถานะของบุคลากรส่วนท้องถิ่นควรมีประเภทเดียวคือ "พนักงานของรัฐส่วนท้องถิ่น" โดยใช้ระบบจำแนกตำแหน่งแบบกว้าง และจัดกลุ่มพนักงานท้องถิ่นเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มพนักงานบริหารท้องถิ่น กลุ่มวิชาการ กลุ่มวิชาชีพ และกลุ่มปฏิบัติการ สำหรับการพิจารณาความดีความชอบให้ยึดผลสัมฤทธิ์ของงาน มีระบบการสรรหาที่โปร่งใสและเน้นการทดสอบความสามารถด้านสมรรถนะ
1.3.3 การศึกษาเพื่อหารูปแบบใหม่ด้านระบบงบประมาณการเงินการคลังท้องถิ่น การกระจายอำนาจด้านการคลัง ต้องพิจารณาขนาดความเหมาะสมทั้งด้านรายได้และรายจ่าย ท้องถิ่นต้องมีความสามารถในการหางบประมาณของตนเอง โครงสร้างรายได้ทั้งภาษีและที่ไม่ใช่ภาษีต้องสามารถคิดต้นทุนหรือราคาจากผู้ใช้ประโยชน์จากบริการสาธารณะได้ ให้มีการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการรับรู้ และตรวจสอบการใช้งบประมาณของท้องถิ่น และต้องมีมาตรการวินัยทางการเงินการคลัง
1.3.4 ผลการทดลองถ่ายโอนภารกิจ จากการทดลองถ่ายโอนภารกิจ 27 ภารกิจ ของกรม 10 กรมจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงสาธารณสุขสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 33 แห่ง ในจังหวัดราชบุรี จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดนครราชสีมา ได้ข้อสรุป ดังนี้
1) ผลการทดลองถ่ายโอนภารกิจมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล และมีความคุ้มค่า เนื่องจากเป็นการทดลองและพิสูจน์จนได้ตัวแบบที่ชัดเจนว่าในการถ่ายโอนภารกิจสู่ท้องถิ่นนั้น จะมีแนวทางและกลยุทธอย่างไรที่จะทำให้การกระจายอำนาจเกิดผลอย่างแท้จริง เช่น งานพัฒนาป่าชุมชนของกรมป่าไม้ นอกจากนี้ยังเป็นการทดลองกับกระทรวงหลัก ๆ ที่มีภารกิจให้บริการประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้น การนำรูปแบบการทดลองดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติ จึงส่งผลต่อประชาชนโดยตรง
2) การทดลองถ่ายโอนภารกิจมีผลกระตุ้นให้กรมที่เข้าร่วมโครงการเกิดความตระหนักในผลสำเร็จของการทดลอง และกระจายอำนาจหน้าที่และภารกิจไปสู่ท้องถิ่น ในปีงบประมาณ 2544 เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ตามกฎหมายกระจายอำนาจฯ เช่น การถ่ายโอนภารกิจของกรมการพัฒนาชุมชน เป็นต้น
1.3.5 การเสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทดลองจัดทำแผนการเสริมสร้างจริยธรรมและจรรยาบรรณพนักงานส่วนท้องถิ่น ตัวชี้วัดการทำงานของท้องถิ่น และแผนพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น ซึ่งได้ทดลองปฏิบัติจนได้ผลชัดเจนและสามารถนำไปปฏิบัติจริง
1.3.6 ผลงานทางวิชาการของโครงการฯ โครงการฯ ได้ผลิตเอกสารทางวิชาการ เช่น ผลการศึกษาวิจัย ประมวลข้อมูลและกฎหมาย/กฎระเบียบเกี่ยวกับการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น รวม 40 รายการ โดยได้เผยแพร่ไปยังคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนทั่วไป
1.4 การดำเนินงานในระยะต่อไป จะมีการจัดตลาดสัมมนาเรื่อง "การบริหารจัดการที่ดีสำหรับท้องถิ่น"ในเดือนกรกฎาคม 2544 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเสนอผลการดำเนินงานโครงการฯ ให้ประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ และนำตัวอย่างความสำเร็จไปพิจารณาใช้ประโยชน์ต่อไป
2. โครงการถ่ายโอนกำลังคนเพื่อสนับสนุนมาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน (มพช.)
2.1 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2543 และวันที่ 31 ตุลาคม 2543 ให้คณะทำงานถ่ายโอนบุคลากรและอำนาจหน้าที่ ซึ่งมีเลขาธิการ ก.พ. เป็นประธาน รับผิดชอบดำเนินงานโครงการถ่านโอนกำลังคนเพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาขีดความสามารถให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายใต้มาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน (มพช.) โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะทดลองให้ข้าราชการระดับ 6 ลงมา ในสายงานด้านพาณิชยการ การเงิน การคลังการบริหารทั่วไป และสายงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจที่มีการถ่ายโอนไปยังท้องถิ่นในปีงบประมาณ 2544 ของกรม 19 กรม เช่น สายงานช่างในกรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท รวมทั้งสิ้นจำนวน 8,000 คน ไปปฏิบัติงานในองค์การบริหารส่วนจังหวัดเทศบาลตำบลที่ยกฐานะมาจากสุขาภิบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลในลักษณะสนับสนุนการบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เกิดประสิทธิภาพเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2543
2.2 ข้าราชการที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ ต้องสมัครใจและได้รับอนุญาตจากสังกัดเดิม โดยยังคงสงวนตำแหน่งเดิมไว้ให้ และจะได้รับการสนับสนุนด้านค่าตอบแทนในลักษณะเหมาจ่ายรายเดือน ๆ ละ 6,000 บาท และเงินเบี้ยกันดารเดือนละ 1,000 บาท กรณีที่ไปปฏิบัติงานในพื้นที่กันดารที่ทางราชการกำหนด
2.3 ข้าราชการที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะทำงานฯ และไปปฏิบัติงานในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีจำนวน 2,049 คน ทั้งนี้ จากการติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการฯ พบว่า การปฏิบัติงานของข้าราชการตามโครงการฯ ช่วยให้การบริหารจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลมากขึ้น เช่น ด้านการจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในท้องถิ่นมีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการ
2.4 สำหรับปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีทัศนคติที่ไม่ถูกต้องต่อข้าราชการที่ไปช่วยปฏิบัติงาน โดยเกรงว่าจะไปจับผิดการทำงาน ข้าราชการเองก็ควรต้องได้รับการพัฒนาพอสมควรก่อนไปปฏิบัติงาน การตรวจสอบการทำงานและการเตรียมความพร้อมรับการกระจายอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบมากขึ้น เป็นต้น
3. การวางระบบการถ่ายโอนกำลังคนสู่ท้องถิ่น
คณะทำงานการถ่ายโอนบุคลากรและอำนาจหน้าที่ (ตั้งโดยคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ซึ่งมีเลขาธิการ ก.พ. เป็นประธาน ได้ดำเนินการจัดทำข้อเสนอเกี่ยวกับระบบการถ่ายโอนกำลังคนสู่ท้องถิ่น และจะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด ซึ่งแนวทางการถ่ายโอนบุคลากรสู่ท้องถิ่น สรุปได้ดังนี้
3.1 การถ่ายโอนบุคลากร จะต้องมีการวิเคราะห์หาสัดส่วนอัตรากำลังให้สอดคล้องกับปริมาณและคุณภาพของงาน มีการกำหนดช่วงเวลาปฏิบัติงาน วิธีการเตรียมความพร้อม และรูปแบบการถ่ายโอนให้มีหลายรูปแบบโดยขึ้นอยู่กับลักษณะภารกิจที่จะถ่ายโอนไปท้องถิ่น
3.2 ให้ศูนย์เพิ่มทักษะและพัฒนาเพื่อออกนอกระบบ สำนักงาน ก.พ. เป็นกลไกมีหน้าที่สนับสนุนการถ่ายโอน เช่น เป็นศูนย์ข้อมูลด้านพื้นที่ อัตรากำลัง และข้าราชการพลเรือนที่จะถ่ายโอน จัดข้าราชการลงพื้นที่ เกลี่ยข้าราชการไปยังหน่วยงานที่มีความต้องการอัตรากำลัง เป็นต้น
3.3 วางระบบรองรับกรณีข้าราชการไม่สมัครใจไปปฏิบัติงานในท้องถิ่น หรือกรณีเมื่อมีการถ่ายโอนงานแล้วทำให้เกิดข้าราชการที่เป็นส่วนเกินจากความต้องการ เช่น ให้เงินชดเชยกรณีที่ต้องออกจากราชการเนื่องจากการยุบเลิกตำแหน่ง เป็นต้น
4. ความคืบหน้าด้านการจัดทำแผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 กำหนดให้มีแผน 2 ส่วน คือ แผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2544 และแผนปฏิบัติการกระจายอำนาจฯ ซึ่งเป็นแผนที่ว่าด้วยการถ่ายโอนงาน เงิน และคน สู่ท้องถิ่น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกระจายอำนาจฯ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 31 ก.ค.44--
-สส-