ทำเนียบรัฐบาล--3 ต.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีรับทราบงบการเงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2541 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว ตามที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เสนอ โดยให้รับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไปดำเนินการด้วย สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. งบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2541 มีสินทรัพย์หมุนเวียน รวม 21,462,718,232.30 บาท มีหนี้สินหมุนเวียน 42,380.00 บาท และเงินกองทุน รวม 21,462,675,852.30 บาท
2. งบรายได้ - ค่าใช้จ่าย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2541 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 931,119,722.66 บาท และค่าใช้จ่าย 834,716,376.09 บาท ดังนั้น รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย 96,403,346.57 บาท
3. งบรายได้ค่าใช้จ่ายสะสม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2541 คงเหลือปลายงวดติดลบ 17,537,324,147.70 บาท
4. ผลการดำเนินงานในงวดปี 2541 กองทุนฯ มีรายได้รวม 931.12 ล้านบาท ประกอบด้วยดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร 918.21 ล้านบาท และรายได้อื่น 12.91 ล้านบาท มีค่าใช้จ่าย 834.72 ล้านบาท ประกอบด้วย รายจ่ายโครงการ (เงินจ่ายขาด) 831.10 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายบริหารกองทุน 3.62 ล้านบาท จึงมีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย 96.40 ล้านบาท
สำหรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มีดังนี้
1. เงินโอนจัดสรรโครงการและรายจ่ายโครงการ มีเงินโอนจัดสรรโครงการ (เงินยืมในลักษณะหมุนเวียน) จำนวน 21 โครงการ เงิน 590.64 ล้านบาท และรายจ่ายโครงการ (เงินจ่ายขาด) จำนวน 21 โครงการ เงิน 3,300.71 ล้านบาท ได้สิ้นสุดระยะเวลาดำเนินงานตามโครงการแล้ว แต่จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2542 ยังมิได้ปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร และส่งคืนเงินคงเหลือพร้อมทั้งดอกผลให้กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เนื่องจากหน่วยงานผู้ดำเนินงานตามโครงการมิได้เร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร รวมทั้งการนำส่งเงินคืนกองทุนฯ เมื่อหมดความจำเป็นใช้เงินแล้วหรือภายในระยะเวลาที่กำหนด
การปฏิบัติดังกล่าว เป็นผลให้กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรมีเงินหมุนเวียนที่จะนำไปใช้ในโครงการอื่นได้น้อยลงและไม่เป็นไปตามระเบียบกรมบัญชีกลางว่าด้วยการเงินและการพัสดุกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พ.ศ. 2534 ข้อ 14 ที่กำหนดให้ส่วนราชการที่ได้รับจัดสรรเงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรปิดบัญชีเงินฝากธนาคารและส่งเสริมเงินคงเหลือ พร้อมทั้งดอกผลทั้งหมด ให้กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ภายใน 15 วัน นับจากวันสิ้นสุดโครงการ
2. กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรควรเร่งรัดหน่วยงานผู้ดำเนินงานตามโครงการที่ระยะเวลาโครงการสิ้นสุดลงแล้ว ให้ปิดบัญชีและส่งเงินคงเหลือพร้อมดอกผลคืนกองทุนฯ โดยเร็ว เพื่อกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจะได้นำเงินไปใช้ในโครงการอื่นที่เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 3 ตุลาคม 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีรับทราบงบการเงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2541 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว ตามที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เสนอ โดยให้รับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไปดำเนินการด้วย สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. งบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2541 มีสินทรัพย์หมุนเวียน รวม 21,462,718,232.30 บาท มีหนี้สินหมุนเวียน 42,380.00 บาท และเงินกองทุน รวม 21,462,675,852.30 บาท
2. งบรายได้ - ค่าใช้จ่าย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2541 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 931,119,722.66 บาท และค่าใช้จ่าย 834,716,376.09 บาท ดังนั้น รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย 96,403,346.57 บาท
3. งบรายได้ค่าใช้จ่ายสะสม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2541 คงเหลือปลายงวดติดลบ 17,537,324,147.70 บาท
4. ผลการดำเนินงานในงวดปี 2541 กองทุนฯ มีรายได้รวม 931.12 ล้านบาท ประกอบด้วยดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร 918.21 ล้านบาท และรายได้อื่น 12.91 ล้านบาท มีค่าใช้จ่าย 834.72 ล้านบาท ประกอบด้วย รายจ่ายโครงการ (เงินจ่ายขาด) 831.10 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายบริหารกองทุน 3.62 ล้านบาท จึงมีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย 96.40 ล้านบาท
สำหรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มีดังนี้
1. เงินโอนจัดสรรโครงการและรายจ่ายโครงการ มีเงินโอนจัดสรรโครงการ (เงินยืมในลักษณะหมุนเวียน) จำนวน 21 โครงการ เงิน 590.64 ล้านบาท และรายจ่ายโครงการ (เงินจ่ายขาด) จำนวน 21 โครงการ เงิน 3,300.71 ล้านบาท ได้สิ้นสุดระยะเวลาดำเนินงานตามโครงการแล้ว แต่จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2542 ยังมิได้ปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร และส่งคืนเงินคงเหลือพร้อมทั้งดอกผลให้กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เนื่องจากหน่วยงานผู้ดำเนินงานตามโครงการมิได้เร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ ให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร รวมทั้งการนำส่งเงินคืนกองทุนฯ เมื่อหมดความจำเป็นใช้เงินแล้วหรือภายในระยะเวลาที่กำหนด
การปฏิบัติดังกล่าว เป็นผลให้กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรมีเงินหมุนเวียนที่จะนำไปใช้ในโครงการอื่นได้น้อยลงและไม่เป็นไปตามระเบียบกรมบัญชีกลางว่าด้วยการเงินและการพัสดุกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พ.ศ. 2534 ข้อ 14 ที่กำหนดให้ส่วนราชการที่ได้รับจัดสรรเงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรปิดบัญชีเงินฝากธนาคารและส่งเสริมเงินคงเหลือ พร้อมทั้งดอกผลทั้งหมด ให้กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ภายใน 15 วัน นับจากวันสิ้นสุดโครงการ
2. กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรควรเร่งรัดหน่วยงานผู้ดำเนินงานตามโครงการที่ระยะเวลาโครงการสิ้นสุดลงแล้ว ให้ปิดบัญชีและส่งเงินคงเหลือพร้อมดอกผลคืนกองทุนฯ โดยเร็ว เพื่อกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจะได้นำเงินไปใช้ในโครงการอื่นที่เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 3 ตุลาคม 2543--
-สส-