คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เป็นการขอปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางมาตรการปรับค่าตอบแทนภาคราชการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2548 โดยมีสาระสำคัญ คือ ปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามบัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพท้ายพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และให้มีผลใช้บังคับแทนบัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบอาชีพ ท้ายพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2548
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการชี้แจงว่า
1. มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กำหนดว่าในกรณีที่คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นสมควรปรับอัตราเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ถ้าการปรับอัตราดังกล่าวเป็นการปรับเพิ่มร้อยละเท่ากันทุกอัตราสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และไม่เกินร้อยละสิบของอัตราที่ใช้บังคับอยู่ ให้กระทำโดยตราเป็นพระราช-กฤษฎีกาและให้ถือว่าบัญชีอัตราเงินเดือนเงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เป็นบัญชีอัตราเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งท้ายพระราชบัญญัตินี้
2. เนื่องจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 เป็นการเฉพาะ และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการปรับค่าตอบแทนภาคราชการ ปีงบประมาณ 2549 คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ซึ่งมีหน้าที่ในการเสนอแนะคณะรัฐมนตรีพิจารณาปรับปรุงเงินเดือน เงินวิทยฐานะ เงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่มค่าครองชีพ สวัสดิการ หรือ ประโยชน์เกื้อกูลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เหมาะสม จึงขอปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพิ่มร้อยละ 5 เช่นเดียวกับการปรับอัตราเงินเดือนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทุกประเภท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2548 จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 พฤศจิกายน 2548--จบ--
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการชี้แจงว่า
1. มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กำหนดว่าในกรณีที่คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นสมควรปรับอัตราเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ถ้าการปรับอัตราดังกล่าวเป็นการปรับเพิ่มร้อยละเท่ากันทุกอัตราสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และไม่เกินร้อยละสิบของอัตราที่ใช้บังคับอยู่ ให้กระทำโดยตราเป็นพระราช-กฤษฎีกาและให้ถือว่าบัญชีอัตราเงินเดือนเงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เป็นบัญชีอัตราเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งท้ายพระราชบัญญัตินี้
2. เนื่องจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีพระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 เป็นการเฉพาะ และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการปรับค่าตอบแทนภาคราชการ ปีงบประมาณ 2549 คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ซึ่งมีหน้าที่ในการเสนอแนะคณะรัฐมนตรีพิจารณาปรับปรุงเงินเดือน เงินวิทยฐานะ เงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่มค่าครองชีพ สวัสดิการ หรือ ประโยชน์เกื้อกูลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เหมาะสม จึงขอปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพิ่มร้อยละ 5 เช่นเดียวกับการปรับอัตราเงินเดือนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทุกประเภท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2548 จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว มาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 พฤศจิกายน 2548--จบ--