คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอให้กรมสรรพากรยกเลิกโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 1,347,823,900 บาท ประกอบด้วย
1. โครงการการพัฒนาระบบงานภายในสำนักงาน เพื่อจัดทำและปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่ายสื่อสารของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทั่วประเทศ ให้มีความสามารถรองรับการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น และจัดทำระบบบริการผู้เสียภาษีและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งจัดให้มีระบบกล้องวงจรปิดพร้อมระบบบันทึกและเรียกดูข้อมูลย้อนหลัง เพื่อความปลอดภัยในการเข้าใช้บริการของสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทั่วประเทศ จำนวน 798 แห่ง
2. โครงการจัดหาครุภัณฑ์สำนักงาน เป็นการจัดหาอุปกรณ์สำนักงาน เพื่อปรับปรุงอุปกรณ์สำนักงานเดิม ติดตั้งภายในสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทั่วประเทศ จำนวน 798 แห่ง ปรับปรุงเครื่องปรับอากาศ ระบบไฟฟ้า อุปกรณ์จัดเก็บเอกสารต่าง ๆ ของเจ้าหน้าที่และผู้เสียภาษีอากร และปรับปรุงพื้นที่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้บริการผู้เสียภาษีอากรและประชาชนผู้มาติดต่อได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
3. โครงการปรับปรุงพื้นที่ส่วนให้บริการประชาชน เป็นการปรับปรุงพื้นที่การให้บริการผู้เสียภาษีอากร และประชาชนที่มาติดต่อราชการที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทั่วประเทศ จำนวน 798 แห่ง
สาระสำคัญของเรื่อง
กค. รายงานว่า กรมสรรพากรมีความประสงค์ขอยกเลิกโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาเรื่องประสิทธิภาพในการบริหารสัญญา เช่น การส่งมอบ การแก้ไขสัญญา รวมถึงการตรวจรับ ประกอบกับรัฐบาลได้มีแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและต้องใช้จ่ายงบประมาณเป็นจำนวนมาก โดยโครงการดังกล่าวสามารถชะลอไว้ก่อนได้ และหากมีความจำเป็นก็จะขออนุมัติจัดสรรงบประมาณในส่วนที่จำเป็นต้องดำเนินการเป็นกรณี ๆ ไป กรมสรรพากรจึงขอคืนเงินเพื่อให้รัฐบาลนำไปใช้จ่ายในโครงการสำคัญอื่น ๆ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 พฤษภาคม 2559--