คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอการจัดระเบียบการใช้โทรศัพท์มือถือระบบบัตรเติมเงิน (Pre-paid) ดังนี้
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีเหตุลอบวางระเบิดโดยใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวจุดชนวน โดยเฉพาะกรณีการใช้โทรศัพท์มือถือระบบบัตรเติมเงิน (Pre-paid) เป็นประเด็นที่ไม่สามารถสืบสวนหาผู้กระทำผิดได้นั้น เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2548 เวลา 13.30 น. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้เชิญผู้แทนจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม โดยมีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นประธาน เพื่อหารือแนวทางการจัดระเบียบการใช้โทรศัพท์มือถือระบบบัตรเติมเงิน (Pre-paid) ผลการหารือสรุปได้ดังนี้
1. ขอบเขตการจัดระเบียบการใช้โทรศัพท์มือถือระบบบัตรเติมเงิน (Pre-paid) จะดำเนินการทำทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการก่อเหตุการณ์ไม่สงบที่อาจจะเกิดในทุกพื้นที่ได้ โดยแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ กรณีบัตร Pre — paid ใหม่ จะให้ผู้ซื้อแสดงตนโดยใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ในส่วนของผู้ใช้บริการบัตร Pre-paid เก่า ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้บริการประมาณ 21.5 ล้านใบ จะขอความร่วมมือผู้ใช้อยู่เดิมมา reactivate เพื่อแสดงตน และขอความร่วมมือจากผู้ให้บริการโทรศัพท์ทุกเครือข่ายใช้วิธีส่งเสริมการขายร่วมด้วย
2. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะขอความร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย สร้างฐานข้อมูลของลูกค้า เมื่อหากเกิดพฤติกรรมต้องสงสัยจะได้สามารถตรวจสอบข้อมูลของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ โดยจะต้องไม่กระทบต่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
3. บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จะดำเนินการส่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำงานสืบสวน และสอบสวนในเชิงลึก (Technical Traceability) ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบข้อมูลของกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์ที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยในพื้นที่เสี่ยงภัย
ต่อมา บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม ได้หารือร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2548 เวลา 17.00 น. ซึ่งสรุปผลการหารือได้ดังนี้
1. ในส่วนของบัตรเติมเงิน (Pre-paid) ใหม่ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่ายรับหลักการที่จะให้ความร่วมมือ ส่วนจะมีผลบังคับใช้เมื่อไร ขอไปหารือในทางปฏิบัติที่จะให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด
2. ในส่วนของบัตรเติมเงินที่ใช้แล้ว ซึ่งมีประมาณ 21.5 ล้านใบ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่ายรับทราบแนวความคิดของภาครัฐ แต่ขอนำกลับไปหารือในรายละเอียดก่อน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 19 เมษายน 2548--จบ--
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีเหตุลอบวางระเบิดโดยใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวจุดชนวน โดยเฉพาะกรณีการใช้โทรศัพท์มือถือระบบบัตรเติมเงิน (Pre-paid) เป็นประเด็นที่ไม่สามารถสืบสวนหาผู้กระทำผิดได้นั้น เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2548 เวลา 13.30 น. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้เชิญผู้แทนจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม โดยมีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นประธาน เพื่อหารือแนวทางการจัดระเบียบการใช้โทรศัพท์มือถือระบบบัตรเติมเงิน (Pre-paid) ผลการหารือสรุปได้ดังนี้
1. ขอบเขตการจัดระเบียบการใช้โทรศัพท์มือถือระบบบัตรเติมเงิน (Pre-paid) จะดำเนินการทำทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการก่อเหตุการณ์ไม่สงบที่อาจจะเกิดในทุกพื้นที่ได้ โดยแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ กรณีบัตร Pre — paid ใหม่ จะให้ผู้ซื้อแสดงตนโดยใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ในส่วนของผู้ใช้บริการบัตร Pre-paid เก่า ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้บริการประมาณ 21.5 ล้านใบ จะขอความร่วมมือผู้ใช้อยู่เดิมมา reactivate เพื่อแสดงตน และขอความร่วมมือจากผู้ให้บริการโทรศัพท์ทุกเครือข่ายใช้วิธีส่งเสริมการขายร่วมด้วย
2. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะขอความร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย สร้างฐานข้อมูลของลูกค้า เมื่อหากเกิดพฤติกรรมต้องสงสัยจะได้สามารถตรวจสอบข้อมูลของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ โดยจะต้องไม่กระทบต่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
3. บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จะดำเนินการส่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำงานสืบสวน และสอบสวนในเชิงลึก (Technical Traceability) ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบข้อมูลของกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์ที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยในพื้นที่เสี่ยงภัย
ต่อมา บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม ได้หารือร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2548 เวลา 17.00 น. ซึ่งสรุปผลการหารือได้ดังนี้
1. ในส่วนของบัตรเติมเงิน (Pre-paid) ใหม่ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่ายรับหลักการที่จะให้ความร่วมมือ ส่วนจะมีผลบังคับใช้เมื่อไร ขอไปหารือในทางปฏิบัติที่จะให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด
2. ในส่วนของบัตรเติมเงินที่ใช้แล้ว ซึ่งมีประมาณ 21.5 ล้านใบ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่ายรับทราบแนวความคิดของภาครัฐ แต่ขอนำกลับไปหารือในรายละเอียดก่อน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 19 เมษายน 2548--จบ--