คณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการโรงเรียนพระราชทาน ตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา ตามที่กรมราชองครักษ์เสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. ให้ความเห็นชอบและให้การสนับสนุนโครงการโรงเรียนพระราชทานตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา เฉพาะด้านค่าใช้จ่ายดำเนินการไม่รวมค่าก่อสร้าง โดยให้กรมราช-องครักษ์เป็นผู้เบิกจ่ายเงินงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในปีงบประมาณ 2544 ในวงเงินในวงเงิน 3,742,010 บาท และให้ทำความตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ สำหรับงบประมาณในปีต่อ ๆ ไป ตั้งแต่ปี 2545 ให้กรมราชองครักษ์จัดทำรายละเอียดงบประมาณค่าใช้จ่ายของโครงการฯ และประสานกับกรมวิเทศสหการเพื่อจัดทำแผนงบประมาณเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
2. เห็นชอบให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายให้การสนับสนุนดำเนินการการก่อสร้าง การพัฒนาหลักสูตรและตำรา การพัฒนาบุคลากร ตามที่คณะกรรมการประสานงานตามโครงการฯ ดังกล่าวร้องขอ โดยการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตามระเบียบปฏิบัติของราชการต่าง ๆ โดยอนุโลม
3. ให้กรมราชองครักษ์รับไปจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการและกรรมการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการโครงการจนเสร็จสิ้นตามพระราชประสงค์ต่อไป
กรมราชองครักษ์ได้แจ้งว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานขึ้นชุดหนึ่ง เป็นผู้สนองพระราชดำริ ซึ่งคณะกรรมการประสานงานได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2543 จนถึงปัจจุบัน สรุปการดำเนินการได้ ดังนี้
1. คณะกรรมการฯ ได้เข้าพบและหารือกับข้าราชการระดับสูงของรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2543 เพื่อแจ้งวัตถุประสงค์ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชาได้สนับสนุนอย่างเต็มที่ และกำหนดบริเวณบ้านสมบูรณ์ อำเภอปราสาทสมบูรณ์ จังหวัดกัมปงทม ราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นพื้นที่ในการสร้างโรงเรียนพระราชทาน มีพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร (กว้าง 200 เมตร ลึก 300 เมตร) และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้เสด็จพระราชดำเนินไปตรวจบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโรงเรียน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2543 แล้ว
2. คณะกรรมการฯ ได้เดินทางไปสำรวจพื้นที่เก็บข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งได้หารือกับข้าราชการระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และการกีฬา ราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อเดือนธันวาคม 2543
3. คณะกรรมการฝ่ายราชอาณาจักรกัมพูชา จำนวน 15 คน ได้เดินทางเข้ามาศึกษาดูงานด้านการศึกษาในพื้นที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย เมื่อเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2544 ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้พระราชทานที่หมายในการดูงานด้วยพระองค์เอง และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะกรรมการทั้งสองฝ่ายเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการ โดยจะพระราชทานความช่วยเหลือการสร้างโรงเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น - ตอนปลาย (Grade 7 - 12) ประกอบด้วย อาคารเรียนแบบชั้นเดียว สำหรับนักเรียน 1,200 คนรวมทั้งห้องปฏิบัติการ ห้องประชุม อาคารที่พักอาศัยสำหรับครู และนักเรียน
4. ต่อมากระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และการกีฬาราชอาณาจักรกัมพูชา ได้มีหนังสือแจ้งขยายพื้นที่ก่อสร้างโรงเรียนพระราชทานฯ จาก 6 เฮกต้า เป็น 8 เฮกต้า (กว้าง 200 เมตร ลึก 400 เมตร พื้นที่ 50 ไร่)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร)--วันที่ 24 เม.ย.2544
-สส-
1. ให้ความเห็นชอบและให้การสนับสนุนโครงการโรงเรียนพระราชทานตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา เฉพาะด้านค่าใช้จ่ายดำเนินการไม่รวมค่าก่อสร้าง โดยให้กรมราช-องครักษ์เป็นผู้เบิกจ่ายเงินงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในปีงบประมาณ 2544 ในวงเงินในวงเงิน 3,742,010 บาท และให้ทำความตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ สำหรับงบประมาณในปีต่อ ๆ ไป ตั้งแต่ปี 2545 ให้กรมราชองครักษ์จัดทำรายละเอียดงบประมาณค่าใช้จ่ายของโครงการฯ และประสานกับกรมวิเทศสหการเพื่อจัดทำแผนงบประมาณเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
2. เห็นชอบให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายให้การสนับสนุนดำเนินการการก่อสร้าง การพัฒนาหลักสูตรและตำรา การพัฒนาบุคลากร ตามที่คณะกรรมการประสานงานตามโครงการฯ ดังกล่าวร้องขอ โดยการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตามระเบียบปฏิบัติของราชการต่าง ๆ โดยอนุโลม
3. ให้กรมราชองครักษ์รับไปจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการและกรรมการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการโครงการจนเสร็จสิ้นตามพระราชประสงค์ต่อไป
กรมราชองครักษ์ได้แจ้งว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชา ด้านการศึกษา จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานขึ้นชุดหนึ่ง เป็นผู้สนองพระราชดำริ ซึ่งคณะกรรมการประสานงานได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2543 จนถึงปัจจุบัน สรุปการดำเนินการได้ ดังนี้
1. คณะกรรมการฯ ได้เข้าพบและหารือกับข้าราชการระดับสูงของรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2543 เพื่อแจ้งวัตถุประสงค์ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชาได้สนับสนุนอย่างเต็มที่ และกำหนดบริเวณบ้านสมบูรณ์ อำเภอปราสาทสมบูรณ์ จังหวัดกัมปงทม ราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นพื้นที่ในการสร้างโรงเรียนพระราชทาน มีพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร (กว้าง 200 เมตร ลึก 300 เมตร) และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้เสด็จพระราชดำเนินไปตรวจบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโรงเรียน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2543 แล้ว
2. คณะกรรมการฯ ได้เดินทางไปสำรวจพื้นที่เก็บข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งได้หารือกับข้าราชการระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และการกีฬา ราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อเดือนธันวาคม 2543
3. คณะกรรมการฝ่ายราชอาณาจักรกัมพูชา จำนวน 15 คน ได้เดินทางเข้ามาศึกษาดูงานด้านการศึกษาในพื้นที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย เมื่อเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2544 ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้พระราชทานที่หมายในการดูงานด้วยพระองค์เอง และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะกรรมการทั้งสองฝ่ายเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการ โดยจะพระราชทานความช่วยเหลือการสร้างโรงเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น - ตอนปลาย (Grade 7 - 12) ประกอบด้วย อาคารเรียนแบบชั้นเดียว สำหรับนักเรียน 1,200 คนรวมทั้งห้องปฏิบัติการ ห้องประชุม อาคารที่พักอาศัยสำหรับครู และนักเรียน
4. ต่อมากระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และการกีฬาราชอาณาจักรกัมพูชา ได้มีหนังสือแจ้งขยายพื้นที่ก่อสร้างโรงเรียนพระราชทานฯ จาก 6 เฮกต้า เป็น 8 เฮกต้า (กว้าง 200 เมตร ลึก 400 เมตร พื้นที่ 50 ไร่)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร)--วันที่ 24 เม.ย.2544
-สส-