คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ขอความเห็นชอบแนวทางเร่งรัดการดำเนินงานก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้แล้วเสร็จทันปี 2547 แล้วมีมติ ดังนี้
1. ให้บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) ดำเนินการส่งแบบของบริษัท MJTA และเอกสารประกวดราคาดังกล่าวให้ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) ภายในวันที่ 15สิงหาคม 2544 ซึ่ง JBIC ควรจะตอบมาในระยะเวลาที่เหมาะสม และดำเนินการออกประกาศประกวดราคาต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแล้วเสร็จตามระยะเวลาที่วางไว้
เพื่อให้การก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาปี 2547 จึงต้องกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่แน่นอน กล่าวคือ บทม. จะส่งแบบของ MJTA ที่ บทม. และ JBIC ได้เคยให้ความเห็นชอบไว้แล้ว เพียงแต่ได้ปรับปรุงรายละเอียดของวัสดุก่อสร้างตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศให้มากที่สุด และเอกสารประกวดราคาที่ได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกันนั้น ให้ JBIC เห็นชอบก่อนประกวดราคาใหม่ และโดยที่มีระยะเวลาจำกัด จึงต้องทำการลงนามในสัญญา และเริ่มงานก่อสร้างให้ได้ภายในเดือนธันวาคม 2544 เพื่อให้การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแล้วเสร็จในปี 2547
2. รัฐบาลสนับสนุนการจัดหาเงินมาดำเนินการไปก่อนเช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการก่อสร้างรุดหน้าสอดคล้องกันเป็นไปตามแผนงานที่เตรียมไว้
ในเบื้องต้นนี้ บทม. จะเริ่มงานตอกเสาเข็มเพื่อรองรับงานอาคารผู้โดยสาร โดยใช้เงินทุนของ บทม. ไปก่อน ในเดือนสิงหาคม 2544 ซึ่งแนวทางการดำเนินงานดังกล่าวนี้ หากสามารถเริ่มงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารได้ภายในเดือนธันวาคม 2544 การก่อสร้างจะใช้ระยะเวลา 3 ปี โครงการก็จะแล้วเสร็จในปี 2547 ทั้งนี้ งานก่อสร้างในส่วนอื่น ๆ บทม. ก็จะดำเนินการในแนวทางเดียวกัน
ทั้งนี้ รัฐบาลมีนโยบายที่จะเร่งรัดการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้แล้วเสร็จภายในปี 2547 โดยการดำเนินงานโครงการจะใช้เงินตามโครงการเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่น ผ่านธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(JBIC)
โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประกอบด้วย งานก่อสร้างสำคัญ ๆ ซึ่งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารและงานตอกเสาเข็มอาคารผู้โดยสาร มีความสำคัญต่อการดำเนินงานก่อสร้างตามโครงการ เพื่อให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถเปิดให้บริการได้ทันกำหนดเวลา และได้มีการดำเนินงานแล้วมาเป็นลำดับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 31 ก.ค.44--
-สส-
1. ให้บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) ดำเนินการส่งแบบของบริษัท MJTA และเอกสารประกวดราคาดังกล่าวให้ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) ภายในวันที่ 15สิงหาคม 2544 ซึ่ง JBIC ควรจะตอบมาในระยะเวลาที่เหมาะสม และดำเนินการออกประกาศประกวดราคาต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแล้วเสร็จตามระยะเวลาที่วางไว้
เพื่อให้การก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาปี 2547 จึงต้องกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่แน่นอน กล่าวคือ บทม. จะส่งแบบของ MJTA ที่ บทม. และ JBIC ได้เคยให้ความเห็นชอบไว้แล้ว เพียงแต่ได้ปรับปรุงรายละเอียดของวัสดุก่อสร้างตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศให้มากที่สุด และเอกสารประกวดราคาที่ได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกันนั้น ให้ JBIC เห็นชอบก่อนประกวดราคาใหม่ และโดยที่มีระยะเวลาจำกัด จึงต้องทำการลงนามในสัญญา และเริ่มงานก่อสร้างให้ได้ภายในเดือนธันวาคม 2544 เพื่อให้การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแล้วเสร็จในปี 2547
2. รัฐบาลสนับสนุนการจัดหาเงินมาดำเนินการไปก่อนเช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการก่อสร้างรุดหน้าสอดคล้องกันเป็นไปตามแผนงานที่เตรียมไว้
ในเบื้องต้นนี้ บทม. จะเริ่มงานตอกเสาเข็มเพื่อรองรับงานอาคารผู้โดยสาร โดยใช้เงินทุนของ บทม. ไปก่อน ในเดือนสิงหาคม 2544 ซึ่งแนวทางการดำเนินงานดังกล่าวนี้ หากสามารถเริ่มงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารได้ภายในเดือนธันวาคม 2544 การก่อสร้างจะใช้ระยะเวลา 3 ปี โครงการก็จะแล้วเสร็จในปี 2547 ทั้งนี้ งานก่อสร้างในส่วนอื่น ๆ บทม. ก็จะดำเนินการในแนวทางเดียวกัน
ทั้งนี้ รัฐบาลมีนโยบายที่จะเร่งรัดการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้แล้วเสร็จภายในปี 2547 โดยการดำเนินงานโครงการจะใช้เงินตามโครงการเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่น ผ่านธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น(JBIC)
โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประกอบด้วย งานก่อสร้างสำคัญ ๆ ซึ่งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารและงานตอกเสาเข็มอาคารผู้โดยสาร มีความสำคัญต่อการดำเนินงานก่อสร้างตามโครงการ เพื่อให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถเปิดให้บริการได้ทันกำหนดเวลา และได้มีการดำเนินงานแล้วมาเป็นลำดับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 31 ก.ค.44--
-สส-