ทำเนียบรัฐบาล--16 ม.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการกำหนดให้กองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (Equity Fund) ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตามมาตรการสนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2542 ไม่ต้องมีฐานะเป็นนิติบุคคลตาม (4) ของคำนิยาม "บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล" ในมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร เช่นเดียวกับกองทุนรวมอื่น ๆ ที่จัดตั้งตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ฯ โดยกำหนดไว้ในประกาศอธิบดีกรมสรรพากรโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2543
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า
1. ได้เจรจากับผู้ลงทุนพร้อมกับดำเนินการจัดตั้งกองทุนรวมตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2542 แล้ว โดยในขณะที่เจรจา ผู้ลงทุนจะไม่มีภาระภาษีจากผลประโยชน์ที่ได้รับจากการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวม เนื่องจากกองทุนรวมยังไม่มีกฎหมายกำหนดให้เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งจะทำให้ผลประโยชน์ที่ได้จากกองทุนรวมจะไม่ถูกหักภาษีตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร
2. เมื่อมีการดำเนินการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้จากกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับ และประกาศตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2543 แล้ว จะทำให้ผู้ลงทุนมีภาระภาษีอันเกิดจากผลประโยชน์ที่ได้จากกองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (Equity Fund) โดยผลประโยชน์ที่ได้จากกองทุนรวมดังกล่าวจะต้องถูกหักภาษี ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร
3. กระทรวงการคลังเห็นควรกำหนดให้กองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (Equity Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมและนิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องมีฐานะเป็นนิติบุคคลตาม (4) ของคำนิยาม บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล" ในมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร เพื่อไม่ให้กองทุนเพื่อการร่วมลงทุนซึ่งจัดตั้งขึ้นตามมาตรการสนับสนุนด้านเงินทุนตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2542 มีภาระภาษีภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายในขณะที่มีการจัดตั้งกองทุนรวมดังกล่าว โดยกำหนดไว้ในประกาศอธิบดีกรมสรรพากร โดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 ตุลาคม 2543 ซึ่งขณะนี้กรมสรรพากรได้ยกร่างและเสนอไปเพื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาลงนามแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 16 ม.ค. 2544--
-สส-
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการกำหนดให้กองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (Equity Fund) ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตามมาตรการสนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2542 ไม่ต้องมีฐานะเป็นนิติบุคคลตาม (4) ของคำนิยาม "บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล" ในมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร เช่นเดียวกับกองทุนรวมอื่น ๆ ที่จัดตั้งตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ฯ โดยกำหนดไว้ในประกาศอธิบดีกรมสรรพากรโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2543
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า
1. ได้เจรจากับผู้ลงทุนพร้อมกับดำเนินการจัดตั้งกองทุนรวมตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2542 แล้ว โดยในขณะที่เจรจา ผู้ลงทุนจะไม่มีภาระภาษีจากผลประโยชน์ที่ได้รับจากการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวม เนื่องจากกองทุนรวมยังไม่มีกฎหมายกำหนดให้เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งจะทำให้ผลประโยชน์ที่ได้จากกองทุนรวมจะไม่ถูกหักภาษีตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร
2. เมื่อมีการดำเนินการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้จากกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับ และประกาศตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2543 แล้ว จะทำให้ผู้ลงทุนมีภาระภาษีอันเกิดจากผลประโยชน์ที่ได้จากกองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (Equity Fund) โดยผลประโยชน์ที่ได้จากกองทุนรวมดังกล่าวจะต้องถูกหักภาษี ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร
3. กระทรวงการคลังเห็นควรกำหนดให้กองทุนเพื่อการร่วมลงทุน (Equity Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมและนิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องมีฐานะเป็นนิติบุคคลตาม (4) ของคำนิยาม บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล" ในมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร เพื่อไม่ให้กองทุนเพื่อการร่วมลงทุนซึ่งจัดตั้งขึ้นตามมาตรการสนับสนุนด้านเงินทุนตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2542 มีภาระภาษีภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายในขณะที่มีการจัดตั้งกองทุนรวมดังกล่าว โดยกำหนดไว้ในประกาศอธิบดีกรมสรรพากร โดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 ตุลาคม 2543 ซึ่งขณะนี้กรมสรรพากรได้ยกร่างและเสนอไปเพื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาลงนามแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 16 ม.ค. 2544--
-สส-