ทำเนียบรัฐบาล--26 ธ.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์) ประธานกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติได้เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ…. ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. ให้ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ.2529
2. กำหนดให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า "คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ" (กปช.) มีนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่เกิน 9 คนเป็นกรรมการ โดยมีอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นกรรมการและเลขานุการ และกำหนดคุณสมบัติกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จะต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีผลงานและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชน
3. ปรับปรุงและเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของ กปช. เพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ และสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
4. กำหนดให้ กปช. มีอำนาจแต่งตั้งที่ปรึกษา คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ กปช.มอบหมาย
5. ในการปฏิบัติหน้าที่ให้ กปช. คณะกรรมการและอนุกรรมการมีอำนาจออกหนังสือขอให้หน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลหนึ่งบุคคลใดมาชี้แจงข้อเท็จจริง หรือจัดส่งเอกสารหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาได้ตามที่เห็นสมควร
6. กำหนดอำนาจหน้าที่ของกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะสำนักงานเลขานุการ กปช. ให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติงาน และค่าใช้จ่ายสำหรับ กปช. ที่ปรึกษา คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน ให้จ่ายจากงบค่าใช้จ่ายของกรมประชาสัมพันธ์
7. กำหนดให้หน่วยงานของรัฐเสนอแผนการประชาสัมพันธ์ และช่วยเหลือร่วมมือประสานการดำเนินการระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานของ กปช.
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 ธ.ค. 2543--
-สส-
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์) ประธานกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติได้เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ…. ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. ให้ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ พ.ศ.2529
2. กำหนดให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า "คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ" (กปช.) มีนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่เกิน 9 คนเป็นกรรมการ โดยมีอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นกรรมการและเลขานุการ และกำหนดคุณสมบัติกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จะต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีผลงานและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชน
3. ปรับปรุงและเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของ กปช. เพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ และสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
4. กำหนดให้ กปช. มีอำนาจแต่งตั้งที่ปรึกษา คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ กปช.มอบหมาย
5. ในการปฏิบัติหน้าที่ให้ กปช. คณะกรรมการและอนุกรรมการมีอำนาจออกหนังสือขอให้หน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐและบุคคลหนึ่งบุคคลใดมาชี้แจงข้อเท็จจริง หรือจัดส่งเอกสารหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาได้ตามที่เห็นสมควร
6. กำหนดอำนาจหน้าที่ของกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะสำนักงานเลขานุการ กปช. ให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติงาน และค่าใช้จ่ายสำหรับ กปช. ที่ปรึกษา คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน ให้จ่ายจากงบค่าใช้จ่ายของกรมประชาสัมพันธ์
7. กำหนดให้หน่วยงานของรัฐเสนอแผนการประชาสัมพันธ์ และช่วยเหลือร่วมมือประสานการดำเนินการระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานของ กปช.
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 ธ.ค. 2543--
-สส-