คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายปองพล อดิเรกสาร) เป็นประธานกรรมการฯ ที่เห็นควรให้การสนับสนุนบุคลากรไปช่วยปฏิบัติงานด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยขี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทำความตกลงกับหน่วยงานต้นสังกัดเกี่ยวกับคุณสมบัติของบุคคล และระยะเวลาที่จะยืมตัวตามความเหมาะสมจำเป็นและประโยชน์ของราชการทั้ง 2 ฝ่าย และในระยะยาว สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติงานในเรื่องนี้ให้เพียงพอ
ทั้งนี้ คณะกรรมการกลั่นกรองฯ มีประเด็นอภิปราย ดังนี้
1. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะมีบทบาทค่อนข้างมากในอนาคตเกี่ยวกับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นทุกระดับ ซึ่งจะทำให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งมีความรับผิดชอบในการเลือกตั้งดังกล่าวมากขึ้น ดังนั้น ในช่วงการเลืกตั้งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งควรได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการต่าง ๆ ในเรื่องบุคลากรที่จะมาช่วยปฏิบัติราชการเป็นอย่างมาก และควรเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในงานพอสมควร
2. ในการไปช่วยราชการที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งนั้น ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งชี้แจงเพิ่มเติมในเรื่องคุณสมบัติของบุคลากรที่จะไปช่วยงาน โดยกำหนดว่าหากเป็นข้าราชการพลเรือน จะขอไม่เกินระดับ 8 ข้าราชการทหาร ตำรวจจะมียศไม่เกินพันตำรวจโท นาวาอากาศโท ข้าราชการอัยการ จะขอไม่เกินชั้น 2 ส่วนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จะขอไม่เกินหัวหน้าแผนกหรือเทียบเท่าไม่เกินกว่านี้ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ควรกำหนดแน่นอนในเรื่องตัวบุคคล เพราะอาจทำให้หน่วยงานต้นสังกัดที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอตัวไปมีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากบุคคลเหล่านั้นเป็นกำลังหลักของหน่วยงานดังกล่าว จึงควรให้อยู่ในดุลพินิจของหน่วยงานต้นสังกัด ขณะเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งควรเร่งพัฒนากำลังคนของตนเองเพื่อให้สามารถรองรับกับภารกิจของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นด้วย
3. การขอความร่วมมือให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐไปช่วยปฏิบัติงานที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งยังมีความจำเป็น เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งปัจจุบันยังขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการสืบสวนสอบสวน เพื่อช่วยการวินิจฉัยชี้ขาดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งการดำเนินการบางครั้งอาจใช้เวลาในการทำงานไม่เท่ากัน การระบุระยะเวลายืมตัวเป็นเวลาตายตัวอาจไม่จำเป็น และในกรณีที่มีภารกิจต่อเนื่องก็สามารถยืมตัวเพื่อให้ภารกิจเสร็จสิ้นได้อยู่แล้ว
4. การไปช่วยปฏิบติงานที่คณะกรรมการการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างหนึ่งที่หน่วยงานต้นสังกัดสามารถนำผลงานที่ได้ปฏิบัติให้คณะกรรมการการเลือกตั้งไปเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาความดีความชอบประจำปีของข้าราชการผู้นั้นได้อยู่แล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 ธ.ค. 44--จบ--
-สส-
ทั้งนี้ คณะกรรมการกลั่นกรองฯ มีประเด็นอภิปราย ดังนี้
1. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะมีบทบาทค่อนข้างมากในอนาคตเกี่ยวกับการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นทุกระดับ ซึ่งจะทำให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งมีความรับผิดชอบในการเลือกตั้งดังกล่าวมากขึ้น ดังนั้น ในช่วงการเลืกตั้งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งควรได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการต่าง ๆ ในเรื่องบุคลากรที่จะมาช่วยปฏิบัติราชการเป็นอย่างมาก และควรเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในงานพอสมควร
2. ในการไปช่วยราชการที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งนั้น ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งชี้แจงเพิ่มเติมในเรื่องคุณสมบัติของบุคลากรที่จะไปช่วยงาน โดยกำหนดว่าหากเป็นข้าราชการพลเรือน จะขอไม่เกินระดับ 8 ข้าราชการทหาร ตำรวจจะมียศไม่เกินพันตำรวจโท นาวาอากาศโท ข้าราชการอัยการ จะขอไม่เกินชั้น 2 ส่วนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จะขอไม่เกินหัวหน้าแผนกหรือเทียบเท่าไม่เกินกว่านี้ ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งไม่ควรกำหนดแน่นอนในเรื่องตัวบุคคล เพราะอาจทำให้หน่วยงานต้นสังกัดที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอตัวไปมีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากบุคคลเหล่านั้นเป็นกำลังหลักของหน่วยงานดังกล่าว จึงควรให้อยู่ในดุลพินิจของหน่วยงานต้นสังกัด ขณะเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งควรเร่งพัฒนากำลังคนของตนเองเพื่อให้สามารถรองรับกับภารกิจของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นด้วย
3. การขอความร่วมมือให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐไปช่วยปฏิบัติงานที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งยังมีความจำเป็น เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งปัจจุบันยังขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการสืบสวนสอบสวน เพื่อช่วยการวินิจฉัยชี้ขาดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งการดำเนินการบางครั้งอาจใช้เวลาในการทำงานไม่เท่ากัน การระบุระยะเวลายืมตัวเป็นเวลาตายตัวอาจไม่จำเป็น และในกรณีที่มีภารกิจต่อเนื่องก็สามารถยืมตัวเพื่อให้ภารกิจเสร็จสิ้นได้อยู่แล้ว
4. การไปช่วยปฏิบติงานที่คณะกรรมการการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างหนึ่งที่หน่วยงานต้นสังกัดสามารถนำผลงานที่ได้ปฏิบัติให้คณะกรรมการการเลือกตั้งไปเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาความดีความชอบประจำปีของข้าราชการผู้นั้นได้อยู่แล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 18 ธ.ค. 44--จบ--
-สส-