คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2558 ในส่วนที่เกี่ยวกับลักษณะที่สำคัญของกองทุนฯ
2. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันกำหนดระยะเวลาดำเนินการตามแผนการจัดตั้งกองทุนฯ อย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความพร้อมและความเป็นไปได้ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนของกรอบระยะเวลาในการพิจารณาคัดเลือกโครงการที่จะเข้ามาอยู่ในกองทุนฯ ซึ่งอาจต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีการกำหนดมูลค่าที่แท้จริงของโครงการ และมีการกำหนดเงื่อนไขการแบ่งผลประโยชน์ระหว่างหน่วยงานเจ้าของโครงการและกองทุนฯ เพื่อให้การดำเนินการออกขายหน่วยลงทุนให้แก่บุคคลทั่วไปสามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลาที่เหมาะสมเมื่อมีการจัดตั้งกองทุนฯ แล้ว และสามารถดำเนินการได้ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 8/2559 ข้อ 13 ที่กำหนดให้บริษัทจัดการต้องเข้าทำสัญญาเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานภายใน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนกองทุนรวม โดยคิดเป็นมูลค่ารวมกันไม่น้อยกว่า 75 ของมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทุนรวม
สาระสำคัญของลักษณะกองทุนฯ ที่ปรับปรุงจากหลักเกณฑ์เดิมที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบไว้เมื่อ วันที่ 15 ธันวาคม 2558 มีดังนี้
โครงสร้าง/รายละเอียด
เดิม - ปรับปรุงใหม่
ชื่อโครงการ
เดิม
- ทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย
ปรับปรุงใหม่
- กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศ ทน. ที่ ทน. 8/59)
ประเภท
เดิม
- กองทุนปิด (ไม่จำกัดอายุของกองทุนฯ) ที่จัดตั้งภายใต้ประกาศและหลักเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. และจดทะเบียนใน ตลท.
ปรับปรุงใหม่
-ไม่เปลี่ยนแปลง-
จำนวนเงินกองทุนฯ
เดิม
- มีมูลค่าการระดมทุนที่ประมาณ 100,000 ล้านบาท และสามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้ในอนาคต
ปรับปรุงใหม่
-ไม่เปลี่ยนแปลง-
วัตถุประสงค์
เดิม
- ลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหม่ (Greenfield Projects) และโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิม (Brownfield Projects)
- ลงทุนในหลักทรัพย์อื่น ๆ ที่เหมาะสม เพื่อเสริมสภาพคล่องและความมั่นคงของกองทุนฯ รวมทั้งสร้างผลตอบแทนให้แก่กองทุนฯ
ปรับปรุงใหม่
-ไม่เปลี่ยนแปลง-
แหล่งเงินทุน
เดิม
ระยะแรก
- ใช้เงินและ / หรือหลักทรัพย์จากกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง และ/หรือ กค. สำหรับการจัดตั้งกองทุนฯ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท
ระยะต่อไป
- เงินลงทุนจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รัฐวิสาหกิจ รวมทั้งนักลงทุนรายย่อยผ่านการจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนฯ
- เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
ปรับปรุงใหม่
ระยะแรก
- กค. ลงทุนแต่เพียงรายเดียว วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท (เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศ ทน. ที่ ทน. 8/59) ดังนี้
1. ใช้เงินที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุน ประเภท ข. ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จำนวน 1,000 ล้านบาท
2. ใช้เงินสดหรือหลักทรัพย์หรือนำหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ไปชำระราคาค่าซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน ฯ (Pay in Kind) จำนวน 9,000 ล้านบาท
ระยะต่อไป
-ไม่เปลี่ยนแปลง-
ผู้ถือหน่วยลงทุน
เดิม
- กค. และนักลงทุนภาครัฐ เช่น กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง และรัฐวิสาหกิจนักลงทุนสถาบันนักลงทุนรายย่อย
ปรับปรุงใหม่
-ไม่เปลี่ยนแปลง-
การรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ
เดิม
- รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณเพื่อประกันผลตอบแทนขั้นต่ำในกรณีที่ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่เป็นไปตามที่กำหนด
ปรับปรุงใหม่
- กำหนดให้มีกองทุนหมุนเวียนเพื่อเป็นกลไกในการรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 กรกฏาคม 2559--