ทำเนียบรัฐบาล--23 ม.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษ พ.ศ. .... ที่ได้แก้ไขตามผลการหารือของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว และได้แก้ไขวันใช้บังคับจากเดิมวันที่ 1 ตุลาคม 2542 เป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2543 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
2. อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดสำนักงานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่พิเศษจากองค์ประกอบคณะกรรมการพิจารณากำหนดท้องที่กันดารและโรงเรียนที่กันดาร เมื่อร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ได้ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว
3. อนุมัติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2531 เรื่อง การจัดเงินเพิ่มพิเศษแก่ครูโรงเรียนประถมศึกษาในพื้นที่เสี่ยงภัย ตั้งแต่วันที่ร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีผลใช้บังคับ (วันที่ 1 ตุลาคม 2543)
ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับเบี้ยกันดาร พ.ศ. 2524
2. ให้พระราชกฤษฎีกาใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2543 เป็นต้นไป
3. กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินสวัสดิการสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษเพื่อช่วยเหลือข้าราชการ (รวมทั้งส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระ) และลูกจ้างประจำของส่วนราชการต่าง ๆ เนื่องจากการปฏิบัติราชการประจำหรือลักษณะประจำในสำนักงานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่พิเศษที่กระทรวงการคลังประกาศกำหนด
4. ให้กระทรวงการคลังประกาศกำหนดสำนักงานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่พิเศษทุกปี โดยร่วมพิจารณากับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
4.1 ความยากลำบากของเส้นทางคมนาคม และการเดินทาง
4.2 ความเสี่ยงภัย
4.3 โรคภัยไข้เจ็บชุกชุม
4.4 ความยากลำบากในการเป็นอยู่
5. ให้ข้าราชการหรือลูกจ้างประจำซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งและปฏิบัติราชการประจำอยู่ในสำนักงานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่พิเศษ หรือได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติราชการในลักษณะประจำตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนดอยู่ในสำนักงานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่พิเศษ ให้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษในอัตราร้อยละสิบของเงินเดือนหรือค่าจ้างรายเดือนที่ได้รับจริง
6. ข้าราชการหรือลูกจ้างประจำซึ่งมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการตามข้อ 5. หากได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการหรือไปรักษาราชการแทน หรือได้รับอนุญาตให้ไปศึกษา ฝึกอบรม หรือดูงานนอกสำนักงานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่พิเศษเป็นระยะเวลาติดต่อกันเกินกว่าสิบห้าวัน ไม่มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการฯ สำหรับระยะเวลาที่เกินสิบห้าวันนั้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 23 ม.ค. 2544--
-สส-
คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษ พ.ศ. .... ที่ได้แก้ไขตามผลการหารือของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว และได้แก้ไขวันใช้บังคับจากเดิมวันที่ 1 ตุลาคม 2542 เป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2543 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
2. อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดสำนักงานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่พิเศษจากองค์ประกอบคณะกรรมการพิจารณากำหนดท้องที่กันดารและโรงเรียนที่กันดาร เมื่อร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ได้ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว
3. อนุมัติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2531 เรื่อง การจัดเงินเพิ่มพิเศษแก่ครูโรงเรียนประถมศึกษาในพื้นที่เสี่ยงภัย ตั้งแต่วันที่ร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มีผลใช้บังคับ (วันที่ 1 ตุลาคม 2543)
ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับเบี้ยกันดาร พ.ศ. 2524
2. ให้พระราชกฤษฎีกาใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2543 เป็นต้นไป
3. กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินสวัสดิการสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษเพื่อช่วยเหลือข้าราชการ (รวมทั้งส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระ) และลูกจ้างประจำของส่วนราชการต่าง ๆ เนื่องจากการปฏิบัติราชการประจำหรือลักษณะประจำในสำนักงานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่พิเศษที่กระทรวงการคลังประกาศกำหนด
4. ให้กระทรวงการคลังประกาศกำหนดสำนักงานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่พิเศษทุกปี โดยร่วมพิจารณากับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
4.1 ความยากลำบากของเส้นทางคมนาคม และการเดินทาง
4.2 ความเสี่ยงภัย
4.3 โรคภัยไข้เจ็บชุกชุม
4.4 ความยากลำบากในการเป็นอยู่
5. ให้ข้าราชการหรือลูกจ้างประจำซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งและปฏิบัติราชการประจำอยู่ในสำนักงานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่พิเศษ หรือได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติราชการในลักษณะประจำตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนดอยู่ในสำนักงานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่พิเศษ ให้มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษในอัตราร้อยละสิบของเงินเดือนหรือค่าจ้างรายเดือนที่ได้รับจริง
6. ข้าราชการหรือลูกจ้างประจำซึ่งมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการตามข้อ 5. หากได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการหรือไปรักษาราชการแทน หรือได้รับอนุญาตให้ไปศึกษา ฝึกอบรม หรือดูงานนอกสำนักงานที่ตั้งอยู่บนพื้นที่พิเศษเป็นระยะเวลาติดต่อกันเกินกว่าสิบห้าวัน ไม่มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการฯ สำหรับระยะเวลาที่เกินสิบห้าวันนั้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 23 ม.ค. 2544--
-สส-