คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการการจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินการรองรับโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวพำนักระยะยาว โดยการจัดตั้งสถาบันจัดการธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาวให้เป็นองค์กรมหาชนบริหารอย่างมีระบบ โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงมหาดไทยเรื่องความมั่นคงและความปลอดภัยไปพิจารณาด้วย สำหรับรูปแบบขององค์กรจะต้องมีความชัดเจน โดยให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยไปหารือกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในเรื่องของกฎหมาย แล้วมีมติให้ความเห็นชอบ ดังนี้
1. ให้จัดตั้งสถาบันจัดการธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาวเป็นองค์กรมหาชน โดยการตราพระราชกฤษฎีกา ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติ องค์กรมหาชน พ.ศ. 2542
2. ให้ข้าราชการรัฐวิสาหกิจและลูกจ้างของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่สมัครใจเปลี่ยนไปเป็นเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างของสถาบันจัดการธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาว (สจทท. พำนักระยะยาว) ตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวพำนักระยะยาวแห่งชาติกำหนด
3. ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เจียดจ่ายงบประมาณ จำนวน 200,000,000.- (สองร้อยล้านบาท) เป็นเงินทุนจัดตั้งสถาบัน โดยทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเป็นเฉพาะกรณี
4. ให้ใช้สถานที่ตั้งสำนักงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ถนนราชดำเนินในเป็นสำนักงานที่ทำการของสถาบัน โดยให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ดำเนินการให้เช่าที่ดินและอาคาร ตลอดจนทรัพย์สินที่เป็นส่วนควบให้
5. ให้คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวพำนักระยะยาวแห่งชาติ ตั้งคณะอนุกรรมการดำเนินการจัดตั้งสถาบันจัดการธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาว โดยมีหน้าที่กำหนดรายละเอียดของข้อความที่จะระบุในพระราชกฤษฎีกา
การจัดตั้งสถาบันดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ
1. เป็นกิจการตัวอย่างแห่งแรก และเป็นที่เริ่มต้นในการให้บริการท่องเที่ยวพำนักระยะยาวที่สมบูรณ์แบบและให้บริการได้ครบวงจรของการพำนักระยะยาว
2. เป็นกิจการที่สามารถให้บริการเบ็ดเสร็จครบวงจรการให้บริการ แก่ลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวระยะยาวและผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวระยะยาวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จะเป็นแหล่งที่มีความสมบูรณ์ทั้งในเรื่องข้อมูลการให้คำปรึกษาแนะนำและการให้บริการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้ลูกค้าพอใจเสมือนหนึ่งว่าประเทศไทยเป็นบ้านที่สองของเขา
3. เป็นแหล่งให้การศึกษา ฝึกอบรมและฝึกภาคปฏิบัติแก่บุคลากรที่จะเข้ามาทำงานหรือเข้าประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวพำนักระยะยาว รวมทั้งการทำหน้าที่เป็นแหล่งให้ความรู้ ความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาวในประเทศไทย
4. สนับสนุนให้เกิดธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาวแก่ผู้ประกอบการรายใหม่ในภาคเอกชน โดยทำหน้าที่รับเป็นที่ปรึกษา หรือรับเป็นผู้จัดการธุรกิจให้แก่นักลงทุนที่มีอสังหาริมทรัพย์ที่เหมาะสมแก่การพัฒนาเป็นธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาว รวมทั้งการทำหน้าที่เป็นผู้ชักจูงให้เกิดการร่วมทุนระหว่างนักลงทุนไทยกับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการจะนำนักท่องเที่ยวพำนักระยะยาวมาอยู่เมืองไทย
5. เป็นตัวแทนภาคราชการและเอกชน ในการส่งเสริมและพัฒนาการกำหนดมาตรฐานการประกอบการ การให้บริการประเภทต่าง ๆ เพื่อให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมทั้งการจัดประเภท จัดอันดับแหล่งสถานที่บริการตามราคาที่เหมาะสม สำหรับเป็นข้อมูลใน Web Site ที่ใช้อ้างอิงได้
6. เป็นศูนย์การติดต่อเชื่อมความสัมพันธ์กับหน่วยราชการไทย ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่อ ประสานงานด้านประชาสัมพันธ์ การจัดสัมมนา การแสดงสินค้า และกิจกรรมการตลาดร่วมกันกับองค์กรเอกชนบริษัทผู้ประกอบการทั้งฝ่ายไทยและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมและพัฒนากิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการพำนักระยะยาวของชาวต่างชาติ
โครงสร้างการบริหารของสถาบันจัดธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาว โดยหลักการเป็นองค์การมหาชน ที่เป็นพื้นฐานของการจัดตั้งสถาบันนี้ คือ การเป็นองค์กรที่เป็นอิสระในการบริหาร เพื่อให้บรรลุภารกิจและวัตถุประสงค์ที่รัฐกำหนดให้ จนสามารถเป็นผู้นำและเป็นตัวอย่างให้แก่ภาคเอกชน เป็นการนำร่องทางธุรกิจครบวงจรการให้บริการแก่กิจกรรมส่งเสริม - พัฒนาการท่องเที่ยวพำนักระยะยาว จึงเน้นเรื่องความคล่องตัว มีคณะบริหารที่มีอำนาจตัดสินใจ มีการกำหนดระเบียบข้อบังคับ โดยคณะกรรมการของสถาบัน ในเรื่องการจัดองค์กรการเงิน การบัญชี การบริหารงานบุคคล รวมทั้งการควบคุมคุณภาพกับมาตรฐานการประกอบการของกิจการที่เป็นผู้เสนอบริการ ภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการด้วย
กิจกรรมที่ประกอบการส่วนใหญ่เป็นบริการสาธารณะ ที่จะส่งเสริมการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการตลาดของการท่องเที่ยวพำนักระยะยาว การศึกษาอบรมและพัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชนให้มีขีดความสามารถแข่งขันกับกิจการเดียวกันกับต่างประเทศ การอำนวยความสะดวกในด้านการใช้บริการทางการแพทย์ สาธารณสุขการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรเป็นหลัก
โครงสร้างหลักของสถาบันในระยะแรกจะประกอบด้วย
1. ผู้ถือหุ้นของสถาบัน กิจการนี้จะเริ่มต้นด้วยภาครัฐ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นแกนในการจัดตั้งองค์กรมหาชนนี้ โดยเสนอผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี ออกพระราชกฤษฎีกาตามขบวนการที่กำหนดในพระราชบัญญัติองค์กรมหาชน พ.ศ.2542
2. คณะกรรมการสถาบัน (Board of Directors) แต่งตั้งโดยคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวพำนักระยะยาวแห่งชาติ โดยมีกรรมการทั้งหมด (รวมประธานกรรมการ) เป็นจำนวน 7 คน
3. กรรมการผู้อำนวยการ ผู้บริหารระดับสูงของสถานบันที่คัดเลือกและแต่งตั้งโดยคณะกรรมการรับผิดชอบการดำเนินงานประจำวันทั้งหมดของสถาบัน
4. ผู้จัดการฝ่าย ผู้บริหารระดับสูงของสถาบัน รับผิดชอบงานแต่ละฝ่ายของสถาบัน โดยขึ้นตรงต่อกรรมการผู้อำนวยการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 11 ธ.ค. 44--จบ--
-สส-
1. ให้จัดตั้งสถาบันจัดการธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาวเป็นองค์กรมหาชน โดยการตราพระราชกฤษฎีกา ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติ องค์กรมหาชน พ.ศ. 2542
2. ให้ข้าราชการรัฐวิสาหกิจและลูกจ้างของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่สมัครใจเปลี่ยนไปเป็นเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างของสถาบันจัดการธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาว (สจทท. พำนักระยะยาว) ตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวพำนักระยะยาวแห่งชาติกำหนด
3. ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เจียดจ่ายงบประมาณ จำนวน 200,000,000.- (สองร้อยล้านบาท) เป็นเงินทุนจัดตั้งสถาบัน โดยทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเป็นเฉพาะกรณี
4. ให้ใช้สถานที่ตั้งสำนักงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ถนนราชดำเนินในเป็นสำนักงานที่ทำการของสถาบัน โดยให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ดำเนินการให้เช่าที่ดินและอาคาร ตลอดจนทรัพย์สินที่เป็นส่วนควบให้
5. ให้คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวพำนักระยะยาวแห่งชาติ ตั้งคณะอนุกรรมการดำเนินการจัดตั้งสถาบันจัดการธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาว โดยมีหน้าที่กำหนดรายละเอียดของข้อความที่จะระบุในพระราชกฤษฎีกา
การจัดตั้งสถาบันดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ
1. เป็นกิจการตัวอย่างแห่งแรก และเป็นที่เริ่มต้นในการให้บริการท่องเที่ยวพำนักระยะยาวที่สมบูรณ์แบบและให้บริการได้ครบวงจรของการพำนักระยะยาว
2. เป็นกิจการที่สามารถให้บริการเบ็ดเสร็จครบวงจรการให้บริการ แก่ลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวระยะยาวและผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวระยะยาวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จะเป็นแหล่งที่มีความสมบูรณ์ทั้งในเรื่องข้อมูลการให้คำปรึกษาแนะนำและการให้บริการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้ลูกค้าพอใจเสมือนหนึ่งว่าประเทศไทยเป็นบ้านที่สองของเขา
3. เป็นแหล่งให้การศึกษา ฝึกอบรมและฝึกภาคปฏิบัติแก่บุคลากรที่จะเข้ามาทำงานหรือเข้าประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวพำนักระยะยาว รวมทั้งการทำหน้าที่เป็นแหล่งให้ความรู้ ความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาวในประเทศไทย
4. สนับสนุนให้เกิดธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาวแก่ผู้ประกอบการรายใหม่ในภาคเอกชน โดยทำหน้าที่รับเป็นที่ปรึกษา หรือรับเป็นผู้จัดการธุรกิจให้แก่นักลงทุนที่มีอสังหาริมทรัพย์ที่เหมาะสมแก่การพัฒนาเป็นธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาว รวมทั้งการทำหน้าที่เป็นผู้ชักจูงให้เกิดการร่วมทุนระหว่างนักลงทุนไทยกับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการจะนำนักท่องเที่ยวพำนักระยะยาวมาอยู่เมืองไทย
5. เป็นตัวแทนภาคราชการและเอกชน ในการส่งเสริมและพัฒนาการกำหนดมาตรฐานการประกอบการ การให้บริการประเภทต่าง ๆ เพื่อให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมทั้งการจัดประเภท จัดอันดับแหล่งสถานที่บริการตามราคาที่เหมาะสม สำหรับเป็นข้อมูลใน Web Site ที่ใช้อ้างอิงได้
6. เป็นศูนย์การติดต่อเชื่อมความสัมพันธ์กับหน่วยราชการไทย ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่อ ประสานงานด้านประชาสัมพันธ์ การจัดสัมมนา การแสดงสินค้า และกิจกรรมการตลาดร่วมกันกับองค์กรเอกชนบริษัทผู้ประกอบการทั้งฝ่ายไทยและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมและพัฒนากิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการพำนักระยะยาวของชาวต่างชาติ
โครงสร้างการบริหารของสถาบันจัดธุรกิจท่องเที่ยวพำนักระยะยาว โดยหลักการเป็นองค์การมหาชน ที่เป็นพื้นฐานของการจัดตั้งสถาบันนี้ คือ การเป็นองค์กรที่เป็นอิสระในการบริหาร เพื่อให้บรรลุภารกิจและวัตถุประสงค์ที่รัฐกำหนดให้ จนสามารถเป็นผู้นำและเป็นตัวอย่างให้แก่ภาคเอกชน เป็นการนำร่องทางธุรกิจครบวงจรการให้บริการแก่กิจกรรมส่งเสริม - พัฒนาการท่องเที่ยวพำนักระยะยาว จึงเน้นเรื่องความคล่องตัว มีคณะบริหารที่มีอำนาจตัดสินใจ มีการกำหนดระเบียบข้อบังคับ โดยคณะกรรมการของสถาบัน ในเรื่องการจัดองค์กรการเงิน การบัญชี การบริหารงานบุคคล รวมทั้งการควบคุมคุณภาพกับมาตรฐานการประกอบการของกิจการที่เป็นผู้เสนอบริการ ภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการด้วย
กิจกรรมที่ประกอบการส่วนใหญ่เป็นบริการสาธารณะ ที่จะส่งเสริมการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการตลาดของการท่องเที่ยวพำนักระยะยาว การศึกษาอบรมและพัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชนให้มีขีดความสามารถแข่งขันกับกิจการเดียวกันกับต่างประเทศ การอำนวยความสะดวกในด้านการใช้บริการทางการแพทย์ สาธารณสุขการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรเป็นหลัก
โครงสร้างหลักของสถาบันในระยะแรกจะประกอบด้วย
1. ผู้ถือหุ้นของสถาบัน กิจการนี้จะเริ่มต้นด้วยภาครัฐ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นแกนในการจัดตั้งองค์กรมหาชนนี้ โดยเสนอผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี ออกพระราชกฤษฎีกาตามขบวนการที่กำหนดในพระราชบัญญัติองค์กรมหาชน พ.ศ.2542
2. คณะกรรมการสถาบัน (Board of Directors) แต่งตั้งโดยคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวพำนักระยะยาวแห่งชาติ โดยมีกรรมการทั้งหมด (รวมประธานกรรมการ) เป็นจำนวน 7 คน
3. กรรมการผู้อำนวยการ ผู้บริหารระดับสูงของสถานบันที่คัดเลือกและแต่งตั้งโดยคณะกรรมการรับผิดชอบการดำเนินงานประจำวันทั้งหมดของสถาบัน
4. ผู้จัดการฝ่าย ผู้บริหารระดับสูงของสถาบัน รับผิดชอบงานแต่ละฝ่ายของสถาบัน โดยขึ้นตรงต่อกรรมการผู้อำนวยการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 11 ธ.ค. 44--จบ--
-สส-